วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รวม 3 ตู้เย็น 1 ประตู ยี่ห้อดัง รุ่นท๊อปราคาถูก คุณภาพดี เหมาะกับหอพักหรือคอนโด

 


ปัจจุบันมีเพื่อน ๆ บางคนพักอยู่คนเดียวในห้องพัก หรือคอนโด ก็คงอยากที่จะซื้อตู้เย็นแบบ 1 ประตู ที่มีปริมาณความจุในการแช่เย็น แช่แข็งอาหารที่มากเพียงพอกับความต้องการ แต่มีงบประมาณจำกัด ในวันนี้เพื่อเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาเราได้หาข้อมูลตู้เย็น 1 ประตู ราคาประหยัด มาให้ทำความรู้จักก่อนตัดสินใจเลือกซื้อไปใช้กัน โดยมีหลายรุ่น หลายแบรนด์มาก ที่รับรองว่าจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของเพื่อนได้อย่างดีแน่นอน ว่าแต่จะมีรุ่นไหนบ้างตามไปดูกันค่ะ

1.Samsung ตู้เย็น 1 ประตู 6.9 คิว RR19H1049SA/ST สีเงิน

ดีไซน์สวยสะดุดตา ที่มาพร้อมประสิทธิภาพอันดีเยี่ยมคุ้มค่าคุ้มราคากับตู้เย็น แบบ 1 ประตูจากซัมซุง พร้อมแล้วให้คุณได้สัมผัส คุณสมบัติ Recessed Handle มือจับดีไซน์ทันสมัย เปิดปิดง่าย Direct Cooling ลมเย็นกระจายทั่วถึงทุกชั้นวาง ให้ความเย็นหมุนเวียนสม่ำเสมอและคงที่ Semi Automatic Defrost System ระบบละลายน้ำแข็งกึ่งอัตโนมัติ ชั้นวางของ 3 ชั้น กระจกนิรภัย สามารถปรับระดับได้ ราคาปกติ 6,990.00 บาท พิเศษลดเหลือเพียง 6,690.00 บาท

2. Panasonic ตู้เย็น 1 ประตู (6.5 คิว,สีเทา) รุ่น NR-AH188GHTH

อาหารสด ใหม่ ไม่เหี่ยวเฉา ต้อง ตู้เย็น Panasonic ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการทำความเย็นรูปแบบใหม่ พร้อมถนอมและเก็บรักษาอาหารของคุณให้สดใหม่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น อีกทั้งรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ เพื่อให้คุณได้รับสารอาหารได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน และให้คุณใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา เป็นตู้เย็นที่พร้อมให้คุณแช่ทุกอย่างที่คุณต้องการ ขนาด : 1ประตู/6.5คิว/183 ลิตรระบบทำความเย็น: DIRECT COOL ระบบกำจัดกลิ่น : AG CLEAN ช่องวางของตรงประตูแบบไม่มีคานกั้น รองรับบรรจุภัณฑ์ได้หลายขนาด ลดเหลือ ราคา 6,080 บาท

3. HITACHI ตู้เย็น 1 ประตู (6.6 คิว, สี Silver Vertical) รุ่น R-64W-PSV

ช่วยรักษาผักและผลไม้สด และคืนความสดของอาหารได้ยาวนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้คุณประหยัดไฟด้วยการประหยัดพลังงานเบอร์ 5 พร้อมช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน และให้คุณใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา เป็นตู้เย็นที่พร้อมให้คุณแช่ทุกอย่างที่คุณต้องการ แล้วชีวิตของคุณจะสดชื่นกว่าที่เคยอย่างแน่นอน ระบบทำความเย็น : DIRECT COOL ระบบกระจายความเย็น : DIRECT COOL ปริมาณความจุช่องแช่เย็น(ลิตร) : 187 ชนิดของชั้นวาง : กระจกนิรภัยระบบละลายน้ำแข็ง : กึ่งอัตโนมัติ เทคโนโลยี : นาโน ไทเทเนียมราคาประมาณ  6,490 บาท

ผ่านไปแล้วสำหรับตู้เย็น 1 ประตูทั้ง 3 รุ่นท๊อปคุณภาพดี ราคาไม่แพงที่เราได้เอามาฝาก หวังว่าจะถูกใจกันนะคะ ชอบแบบไหน ก็เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของตนเองให้มากที่สุด ถ้าหากใครรู้สึกถูกใจกับตู้เย็นแบบ 1ประตู ยี่ห้อไหน รุ่นไหน ก็อย่าลืมออกไปช้อป หรือทำการสั่งซื้อผ่านออนไลน์เพื่อเอามาไว้ใช้งาน เพียงเท่านี้ตู้เย็นในดวงใจก็จะถูกนำมาจัดส่งให้ถึงที่ ทั้งสะดวก และสบายเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกไปช้อปเป็นที่สุดค่ะ

#ตู้เย็น 1 ประตู 

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รวมหูฟัง in ear คุณภาพดี เสียงชัด ราคาเป็นมิตร ที่คุณไม่ควรพลาด

 


ปัจจุบันหูฟังมีให้เลือกหลายแบบหลายแบรนด์ ทั้งแบบไร้สาย และมีสาย ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณภาพเสียงคมชัดที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงความสะดวกในการใช้งานในแต่ละรูปแบบด้วย อย่างหูฟัง in ear เหมาะอย่างยิ่งกับการทำกิจกรรมนอกสถานที่ ทำให้เวลาเดิน วิ่ง ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้คล่องตัว และด้วยความที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างมาก ทำให้หูฟังถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์กับการใช้งานของแต่ละคนมากขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าใครที่กำลังว่ามองหาหูฟังที่คุณภาพดี เสียงเลิศ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ในการฟังเพลงได้เป็นอย่างดี ตามเรามาทางนี้ได้เลยเพราะวันนี้เรามีหูฟังดี ๆ คุณภาพเสียงชัดจัดเต็ม เอามาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นตามเรามาทางนี้ได้เลย

1.หูฟัง in ear Samsung  EO-EG920BBEGWW

สวมใส่สบาย เสียงคุณภาพสูง เสียงชัดใส เสียงเบสนุ่มลึก สวมใส่พอดี สะดวกสบาย ด้วย earbud และ wing tip ของ In-ear-Fit ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ดีไซน์แบบไฮบริดช่วยให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากหูฟังทั้งสองแบบ โดยผสานรวมข้อดีทั้งหมดในการป้องกันเสียงรบกวนของหูฟังแบบเสียบไว้ในช่องหู กับความสะดวกสบายในการสวมใส่ของหูฟังแบบเปิด ตัวขับสัญญาณเสียงไดนามิก 12 มม. มอบเสียงเบสที่นุ่มลึกและสมดุลมากกว่า เคสไมโครโฟนทำจากวัสดุป้องกันเสียงลม คุณจึงเพลิดเพลินกับการสนทนาที่มีคุณภาพสูงกว่าราคาประมาณ 590 บาท

2.หูฟัง JVC Gumy HA-FR6

เบสลึก กระหึ่ม มีไมค์และปุ่มรับสายรองรับมือถือสมัยใหม่ สบายหู เข้าถึงทุกอารมณ์เพลง หูฟัง JVC Gumy รุ่น HA-FR6 เป็นหูฟัง in ear สอดเข้าไปในหู ที่มีไมค์และปุ่มรับสายแบบ 1 ปุ่ม รองรับมือถือ Smartphone , Tablet รุ่นใหม่ ทั้ง iPod , iPhone , iPad , Android , WindowsOS และ BlackBerry สวมใส่สบาย และตัดเสียงรบกวนได้ดี ใช้ไดรฟ์เวอร์แบบ Neodymium จึงทำให้เสียงเบส ลึก กระหึ่ม รุ่นนี้มีให้เลือกถึง 8 สี มีให้เลือก : น้ำเงิน , เหลือง , ชมพู , ม่วง , ดำ , เขียว , แดง , ขาว ราคา 490 บาท

3. Plantronics BackBeat Fit 305 In-Ear

ครบเครื่อง ทั้งวัสดุที่แข็งแรงทนทาน การเป็นหูฟัง in ear กึ่งไฮบริดที่สวมใส่ได้ง่ายและไม่ทำให้เคืองหู น้ำหนักที่เบามาก ๆ ไมค์ที่คมชัดสุด ๆ ไม่ว่าจะพูดอยู่ในสถานที่ใดก็ยังให้เสียงที่ชัดใส เสียงที่ฟังแนวไหนก็สนุก ถือว่าเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังสำหรับฟังเพลงก็ได้ออกกำลังกายก็ดี เพราะหน้าตาของตัวหูฟังยังดูเท่ เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 14 กรัม ตัวหูฟังมีขนาดเล็กพร้อมช่องลำโพงโค้งเข้ากับช่องหู สวมใส่ได้สะดวก จุกซิลิโคนมีห่วงที่เมื่อใส่แล้วจะช่วยยึดกับภายในใบหูได้ดีทีเดียว ขยับแรงแค่ไหนก็ไม่หลุดง่าย ๆ ทนทาน และแข็งแรง หมดปัญหาเรื่องสายในขาด พร้อมรีโมทแบบ 3 ปุ่มและไมค์แบบ HD Voice ภายในตัว กันน้ำได้มาตรฐาน IPX5 ราคา 1,290 บาท

4.หูฟัง Marshall Mode In-Ear Headphone

เป็นรุ่นน้องในกลุ่ม Mode ที่มีรุ่นพื่ชื่อ Mode EQ โดยรุ่นในรุ่นนี้จะไม่มีปุ่มสวิทซ์สำหรับการปรับโทนสียงและใช้โทนสีขาวสลับดำแทน วัสดุยังมาแบบเดียวกับรุ่นพี่โดยใช้พลาสติกด้าน ที่ด้านหูฟังจะมีสัญลักษณ์ตัว M แต่สีขาว มีจุกหูฟังมาให้ทั้งหมด 4 ขนาด ที่สายทำจากยางตรงกลางสายจะมีไมโครโฟนเพื่อใช้พูดคุยโทรศัพท์ ถัดลงมาอีกหน่อยจะมีปุ่มควบคุมเล่นและหยุด พร้อมทั้งรับสายโทรศัพท์ ส่วนที่ปลายสายจะมีหัว 3.5mm/Aux แบบงอช่วยให้ทนทานมากขึ้น การเชื่อมต่อ 3.5 mm หรือ AUX – สายเชื่อมต่อเพื่อฟังเพลงกับอุปกรณ์ โน้ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ราคา 1,490 บาท

แหละทั้งหมดนี่ก็เป็นหูฟัง in ear เพียงบางส่วนที่เราได้เอามาฝากให้กับทุก ๆ คน ได้ใช้เอาไว้พิจารณา ซึ่งนี่ก็จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยสำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเลือกซื้อแบบไหน หรือยังไม่มีรุ่นอะไรไว้ในใจ เพราะทั้ง 4 รุ่นนี้ถือว่าเป็นหูฟังสุดคุ้ม เหมาะกับการทำกิจกรรมนอกสถานที่ ทำให้เวลาเดิน วิ่ง หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ สะดวกมากขึ้น แถมดีไซน์อย่างสุดคลาสสิคที่ไม่ว่าพกไปที่ไหนก็ดูดี ถ้าหากมีงบถึงก็แนะนำให้ลองดูเป็นรุ่นในกลุ่มนี้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

#หูฟัง in ear

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สิ่งที่ควรนำเอามาพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นให้ใช้งานได้คุ้มค่าที่สุด

 


  ต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันเรานำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมาก แทบจะทุก ๆ ด้าน ไม่เว้นแม้กระทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดบ้าน อย่างเช่น  เครื่องดูดฝุ่น ที่บอกเลยว่าตอบโจทย์ในการทำความสะอาดบ้านได้แบบดีสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นทำความสะอาดพื้นหรือตามโต๊ะ โซฟาที่มีฝุ่นละออง ทำให้ไม่ต้องก้มลงทำความสะอาดพื้นให้เมื่อยหลังอีกต่อไป ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดมากขึ้นอีกด้วย แหละที่สำคัญใช้งานง่ายสุด ๆ ซึ่งถ้าใครที่กำลังคิดที่จะซื้อเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพดีเพื่อเอามาใช้งานก็ควรที่จะต้องพิจารณาตามด้านล่างนี้เลยค่ะ

 เลือกเครื่องดูดฝุ่นยังไงให้คุ้มค่าและตอบโจทย์ต่อการใช้งาน

1.เลือกจากระบบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น

ระบบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรพิจารณาก่อนซื้อเป็นลำดับต้น ๆ เพราะเครื่องดูดฝุ่นที่มีวางขายในท้องตลาดนั้นมีระบบการทำงานหรือวงจรเครื่องดูดฝุ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว เครื่องดูดฝุ่นปกติที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงานอยู่ที่ประมาณ 700 -1600 วัตต์ ซึ่งเป็นระดับของพลังงานไฟฟ้าที่แรงพสมควร แต่ถ้าหากต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นมากเป็นพิเศษ ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีกำลังไฟฟ้ามากกว่านี้เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น ดังนั้น ก่อนซื้อคุณจึงควรศึกษาถึงระบบเครื่องดูดฝุ่นประเภทต่าง ๆ เพื่อให้สามารถซื้อมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคามากที่สุด

2.เลือกจากระบบการกรองฝุ่น

เครื่องดูดฝุ่นที่ดี จำเป็นต้องมีระบบในการกรองฝุ่นขนาดเล็ก ๆ ได้ ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณได้มากขึ้น หากเครื่องดูดฝุ่นที่คุณซื้อมา ไม่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่เพียงพอ ก็จะทำให้ฝุ่นตกค้างภายในห้อง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่อาศัยได้ โดยจะทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจตามมา

3.เลือกจากระบบการทำงานของมอเตอร์

ส่วนประกอบของเครื่องดูดฝุ่นที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ มอเตอร์ ซึ่งมอเตอร์ของเครื่องดูดฝุ่นยิ่งทำงานมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้การหมุนเวียนของอากาศดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะอากาศที่ผ่านเข้าไปในตัวเครื่องจะต้องผ่านการกรองก่อนถึงจะสามารถปล่อยอากาศสู่ภายนอกได้ และอากาศที่ยังไม่ผ่านกระบวนการกรองก็จะไม่สามารถหลุดออกมายังภายนอกเครื่องได้

4.เลือกจากวัตถุประสงค์ของการใช้งาน

วัตถุประสงค์ของการใช้งาน เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ซื้อเครื่องดูดฝุ่นต้องพิจารณา หากใช้งานภายในคอนโดที่มีขนาดเล็ก ควรเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดกะทัดรัด จัดเก็บง่าย ซึ่งอาจจะเลือกเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เครื่องดูดฝุ่นขนแมว หรือเครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดความสะดวกสบายมากขึ้น ไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ หรือถ้าหากนำมาใช้งานในพื้นที่ที่มีบริเวณกว้าง มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเป็นจำนวนมาก ก็ควรเลือกเครื่องที่มีขนาดใหญ่ หรือมีกำลังไฟฟ้ามากก็จะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

5.เลือกจากงบประมาณ

การเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับราคาที่คุณต้องจ่าย และเพื่อการใช้งานที่ตรงตามวัตถุประสงค์ คุณควรตั้งงบประมาณในการเลือกซื้อเอาไว้ และควรเลือกเครื่องที่มีคุณสมบัติในการดูดฝุ่นที่ดีที่สุดภายใต้งบประมาณนั้น เพื่อให้คุณไม่สิ้นเปลืองเกินไป และช่วยให้คุณได้มีเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ดังนั้นหากคุณต้องการจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นสักเครื่อง แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหน ประเภทใดถึงจะเหมาะสมที่สุด ควรเลือกซื้อเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการทำงานตรงตามความต้องการ และมีความสมเหตุสมผลกับงบประมาณที่กำหนดเอาไว้เป็นดีที่สุด

            ถึงแม้ว่าเครื่องดูดฝุ่นจะช่วยให้การทำความสะอาดบ้านของคุณง่ายขึ้น แต่ก็จำเป็นต้องมาพร้อมการเลือกซื้อเลือกใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อควรศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ได้เครื่องที่มีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการในการใช้งาน นอกจากนี้ผู้ใช้เครื่องดูดฝุ่นควรหมั่นทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของเครื่องให้สะอาด และอย่าให้มีสิ่งสกปรก เข้าไปทำให้อุดตัน โดยเฉพาะอย่างตัวกรองหรือตะแกรงกันเศษวัสดุมิให้เข้าสู่มอเตอร์ ควรทำความสะอาดโดยใช้แปรงถูเบาๆ และล้างน้ำ จากนั้นนำไปตากในที่ร่มให้แห้ง เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองค่ะ

#เครื่องดูดฝุ่น

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2563

วิธีเช็คสเปคมือถือ Android , ios ที่เราจะซื้อว่าควรที่จะต้องดูสเปคยังไง และดูจากตรงไหนบ้าง

 


ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากกว่าการโทรออกรับสายเฉกเช่นในอดีต เพราะเดี๋ยวนี้เราใช้โทรศัพท์ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เช็คข่าวสาร และใช้ทำงาน ใช้แทนบัตรเครดิต ซื้อขายสินค้าออนไลน์และอีกสารพัด ดังนั้นการจะซื้อมือถือซักเครื่อง ถ้าอยากได้รับประโยชน์ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ คือต้องเช็คสเปคมือถือให้เป็น เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งบางทีของแพงก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เสมอไป ดังนั้นวันนี้เราจึงเอา “วิธีเช็คสเปคมือถือ” เอามาฝาก ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่ะ

วิธีเช็คสเปคมือถือ

1.ดูที่ “OS”(Operating System) จุดแรกคือพื้นฐานที่สำคัญในการเช็คสเปคมือถือนั่นก็คือ “ระบบปฏิบัติการณ์” ที่ในตลาดตอนนี้มีด้วยกัน 4 ระบบหลัก ๆ ได้แก่ Windows Phone และ Blacbery OS แต่ที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือ ios และ,Android

2.ดูที่ “ไซส์จอ ในปัจจุบัน โทรศัพท์สมาร์ทโฟน มีด้วยกันหลายขนาด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ไซส์ทางกายภาพ ดังนี้

โทรศัพท์ ที่มีหน้าจอ ขนาดความกว้าง 3.5 – 5 นิ้ว นับจากมุมทแยง -แฟบเล็ท (Phablet) -โทรศัพท์ ที่มีหน้าจอ ขนาดความกว้าง 5.0 – 7.0 นิ้ว นับจากมุมแยงมุม-แท็บเล็ต (Tablet) - อุปกรณ์ “แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์”  ที่มีหน้าจอ ขนาดความกว้าง 7 นิ้ว ขึ้นไป นับจากมุมทแยง

3.ไซส์ดิจิตอล” หรือ ความคมชัดของหน้าจอเช็คสเปคมือถืออันนี้ก็สำคัญ ยิ่งตัวเลขเยอะ ยิ่งคมชัด แน่นอนว่าราคาก็ยิ่งแพงไปด้วย นอกจากไซส์แล้ว ยังมีเรื่องของการแสดงผล การให้สีสันต่าง ๆ ที่ควรรู้ไว้ โดยปัจจุบัน มี 3 เทคโนโลยีที่ใช้งานกันอยู่ได้แก่ LCD TFT  เป็นจอที่พบได้ในโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าง ๆ ในปัจจุบัน

IPS  เป็นหน้าจอที่แสดงสีสันสดใส ด้วยองศาในการมองที่กว้างมากกว่า LCD TFT

Amolet  เป็นประเภทจอที่ให้สีสันคมชัดที่สุด มีการตอบสนองที่ฉับไว บวกองศาการมองที่กว้าง แถมประหยัดพลังงานกว่าสองแบบแรก ข้อเสียหลัก ๆ เลยคือ สีมีความจัดจ้านคมชัดจน “เพี้ยน” จึงไม่เหมาะกับการถ่ายรูปที่เน้นจุดเด่น

4.ดูที่ “GPU” การ์ดจอ” เหมือนกับ PC ในบ้าน เพียงแต่อาจจะยังไม่เน้นหนักมากนัก ถ้าไม่ได้เอามาเล่นเกมแบบฮาร์ดคอร์จริงจัง เพราะการแสดงผลกราฟฟิกด้าน 3 มิติ นั้นจะมีความสวยงามมากน้อย ก็ต้องขึ้นอยู่กับการใช้ GPU ยิ่ง GPU คุณภาพดี มีความแรงสูง การประมวลผลด้านงานภาพ ก็จะยิ่งดี ไหลลื่นกว่า การที่มือถือมี GPU ที่ดี จะเพิ่มความสามารถด้าน VR ได้เด่นชัดขึ้น โดยหลัก ๆ จะมี 3 ยี่ห้อก็คือ Qualcomm Adreno  / NVIDIA GeForce Tegra  และ PowerVR

5.ดูที่ “CPU” (Central Prosessing Unit) อันนี้ก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ความแรงของเครื่อง เพราะการประมวลผล การเปิดแอพ การเล่นเกมก็จะมีเจ้า CPU เป็นตัวชี้วัดเช่นกัน ยิ่งมี หน่วยประมวลผล (Core) และ สัญญาณนาฬิกา (GHz – กิ๊กกะเฮิร์ซ) เป็นตัวชี้วัดรองลงมา

6.ดูที่ “ROM” และ”RAM” Rom - พื้นที่จัดเก็บข้อมูล (Storage)ไฟล์ต่าง ๆ รวมไปถึงระบบปฏิบัติการณ์ ที่ติดตั้งภายในตัวเครื่อง ยิ่งเยอะ ยิ่งจัดเก็บได้มาก (แต่ถ้าอยากได้เพิ่ม ก็ต้องหา SD Card ความจุเยอะ ๆ มาใส่เอาเอง)

7.ดูที่ “กล้อง” กล้องถ่ายรูปในมือถือปัจจุบัน ก้าวหน้าไปมาก ด้วยแอพที่ช่วยทำให้ถ่ายรูปสวย ดูสนุก และไปได้ทุกที่  ดังนั้นถ้าใครชอบถ่ายรูป หรือต้องการถ่ายรูปรีวิวสินค้าออนไลน์ การที่กล้องมีค่า Pixel เยอะ ๆ ก็ย่อมดี

8.ดูที่ ความจุของแบตเตอรี่ ก็เป็นส่วนสำคัญ ควรจะดูที่ความจุของแบตถึง 5000 mAh ขึ้นไป

9.ดูที่ “การรับ 4G / 3G” และ “คลื่นความถี่ความเร็วอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือนั้นถือว่าเร็ว แรง และค่อนข้างครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว การแบ่งคลื่นความถี่” โดยคลื่นความถี่ที่รองรับก็จะมีผู้ให้บริการแตกต่างกันไป

แหละทั้งหมดนี้ก็ล้วนคือวิธีในการเช็คสเปคมือถือดี ๆ ที่เราได้นำมาฝากให้กับทุก ๆ คนได้ทราบอย่างทั่วกัน หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากนี้ น่าจะเป็นตัวช่วยในการซื้อโทรศัพท์มือถือให้คุณได้ไม่มากก็น้อยนะคะ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องรู้จุดประสงค์ว่าเราจะซื้อมาทำอะไรด้วย เพื่อที่จะช่วยให้สามารถเลือกได้ง่ายขึ้น และคุ้มค่ากับการใช้งานได้อย่างดีที่สุด

#เช็คสเปคมือถือ

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563

อัพเดทแท็บเล็ต รุ่นไหนดี รุ่นไหนเลิศ รุ่นไหนท๊อป เชิญทางนี้เลย

 


ปัจจุบันนี้มีแท็บเล็ตมากมายหลายยี่ห้อที่แข่งกันผลิตออกมาให้เลือกเยอะมาก เพราะแบบนี้เองจึงทำให้เกิดคำถามต่าง ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก และหนึ่งในคำถามสุดฮิตที่หลาย ๆ คน อยากจะรู้คือควรที่จะต้องเลือกซื้อ แท็บเล็ต รุ่นไหนดี ถึงจะคุ้มค่า เพราะแท็บเล็ตแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องของ รูปร่าง ขนาด ระบบปฏิบัติการ และราคาจนคุณไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นดูจากตรงไหนก่อนดี แต่ถึงจะมีในเรื่องรายละเอียดในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ผู้ซื้ออย่างเรา ๆ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำ แท็บเล็ตรุ่นไหนดี ตัวไหนเลิศ รุ่นไหนท๊อปเป็นที่นิยม ให้กับทุก ๆ คนเอง เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูกันเลย

แท็บเล็ต รุ่นไหนดี รุ่นไหนเลิศ รุ่นไหนท๊อป ตามนี้เลย

1. Samsung Galaxy Tab A7 โฉมใหม่

ด้วยดีไซน์ที่บาง ระบบความบันเทิงที่กระหึ่มรอบทิศทาง และประสิทธิภาพที่เยี่ยม ให้คุณออกไปเรียนรู้, สำรวจ, เชื่อมต่อ และรับแรงบันดาลใจจากโลกกว้างได้อย่างเต็มที่ ความหนาเพียง 7 มม. มี 2 เฉดสี ได้แก่ สี Dark Gray และ สี Gold มุมหน่วยประมวลผลที่รวดเร็ว และ RAM อันทรงพลัง เกมของคุณจะโหลดได้อย่างรวดเร็วและเล่นได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ด้วยแบตเตอรี่ 7,040mAh (ปกติ) ขนาดใหญ่ แบบ 15 วัตต์ ก็จะช่วยชาร์จไฟให้กลับมาเต็ม 100% ได้อย่างรวดเร็ว พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 32GB/64GB ในตัว สำหรับเก็บวิดีโอความละเอียดสูง, ภาพถ่าย และไฟล์ต่าง ๆ  ซึ่งคุณสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อีกถึง 1TB และDark Mode ที่ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของสายตาลงได้ และยังช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ในกรณีที่เปิดทิ้งไว้อีกจึงเป็นอันดับ 1 ในคำถามแท็บเล็ต รุ่นไหนดี เพราะประสิทธิภาพสูง ราคาเพียง 9,990 บาทเท่านั้น

2. Huawei MediaPad M5 Pro

ตัวเครื่องที่โค้งเว้าแหว่งเล็กน้อยทำให้สะดวกและง่ายต่อการถือ ใช้หน่วยประมวลผล HiSilicon Kirin 960 octa-core 2.3GHz และ RAM 4GB เป็นแท็บเล็ตที่มีหน้าจอ IPS ความละเอียด 10.8 นิ้ว, 2,560 x 1,600 และมาพร้อมกับ M-Pen ที่ไวต่อแรงกด 4,096 ระดับ และมีทั้งการเชื่อมต่อ Wi-Fi และโทรศัพท์มือถือ (4G) กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือที่รวดเร็วทันใจ ด้านหลังมีกล้อง 13 ล้านพิกเซลและชุดลำโพงถึง 4 ชุด ให้เสียงที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่อย่างไรก็ตามคุณจะไม่สามารถใช้หูฟังแบบมีสายในขณะกำลังชาร์จอุปกรณ์ได้ นั่นก็เพราะไม่มีพอร์ตแยกจุดเด่นลำโพงที่ยอดเยี่ยมตัวเลือกการเชื่อมต่อ 4G และ Wi-Fiสแกนลายนิ้วมือที่รวดเร็ว ให้เป็นอันดับ 2 ในคำถามแท็บเล็ต รุ่นไหนดี ราคา 13,680 บาทเท่านั้น

3. Apple iPad Mini 5

หากดูจากภายนอก อาจจะดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักระหว่าง iPad mini 4 และ iPad mini 5 แต่อันที่จริง iPad mini 5 ใช้ชิป Bionic A12 ตัวใหม่ของ Apple เหมือนดั่งที่เห็นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 2019 เสริมด้วย Neural Engine ที่ตัวช่วยชาญฉลาดสำหรับทำงานหรือตอบสนองความบันเทิงของคุณ มี RAM 3GB และกล้องหลัง 8MP, f/2.4 ที่ดี ทำงานบน iOS 12 ล่าสุด ทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด บางเบา สามารถพกพาไปได้ทุกที่ รองรับ Apple Pencil ทั้งภาพและตัวหนังสือมีความคมชัดระดับสูง แบตเตอรีใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงพิเศษราคาเพียง 13,900 บาท

ซึ่งข้อมูลของแท็บเล็ตทั้ง 3 รุ่นนี้  จะสามารถช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับแท็บเล็ต รุ่นไหนดี ให้กับผู้ที่สนใจได้ และมีข้อมูลเอาไว้พิจารณาก่อนเลือกซื้อได้ค่ะ ซึ่งเราก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานของคุณจนเจอ เพื่อที่จะได้ใช้งานแท็บเล็ตได้อย่างคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปค่ะ

#แท็บเล็ต รุ่นไหนดี

นาฬิกา สำหรับวิ่ง ราคาคุ้ม คุณภาพสูง ฟังก์ชันครบจบในเรือนเดียวที่คุณไม่ควรพลาด

 


ปัจจุบันนาฬิกา สำหรับวิ่งเป็นที่นิยมของนักวิ่งมาก เพราะมันช่วยให้คุณออกกำลังกายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังสามารถตรวจสอบข้อมูลการออกกำลังกายได้ทุกที่ทุกเวลาที่คุณต้องการ และเป็นอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ช่วยสร้างพลังและแรงจูงใจในการออกกำลังกายได้ดีอีกด้วย แหละที่สำคัญด้วยความที่นาฬิกา สำหรับวิ่ง มีขนาดที่เล็กกะทัดรัดจึงทำให้เหมาะกับการใช้งานในทุกโอกาส ซึ่งหากใครที่สนใจวันนี้เรามีนาฬิกา สำหรับวิ่งรุ่นใหม่ ๆ เอามาอัพเดทให้คุณได้รู้จักอีกหลายรุ่นด้วย จะมีอะไรบ้างนั้นตามมาชมกันเลยค่ะ

1.Samsung Galaxy Watch Active 2 Stainless 40mm Bluetooth SM-R830NSDATHO

 มีระบบติดตามผลการออกกำลังกายอัตโนมัติ 7 แบบ รวมถึงการว่ายน้ำด้วย ติดตัวคุณไปได้ทุกที่ทุกเวลาใส่สมาร์ทวอช นาฬิกา สำหรับวิ่งของคุณพร้อมลุยไปบนเส้นทางที่สมบุกสมบันกว่าเดิม พร้อมไปทุกที่ที่คุณอยากไป ด้วยประสิทธิภาพการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 และ 5ATM และความทนทานมาตรฐานกองทัพ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์คุณภาพชีวิตด้วยแอพฯที่จัดสรรมาอย่างเพียบพร้อมให้บริการจากแอพฯ บน Galaxy เอง หรือจากผู้ให้บริการแอพฯ อื่น ๆ คุณสามารถดาวน์โหลดและสร้างลิสต์แอพฯ ส่วนตัวไว้ใช้ขณะที่คุณเดินทางบนเครื่องบิน และเรียกใช้งานได้อย่างสะดวกสบายโดยบนข้อมือคุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณได้ง่าย ๆ อุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับ Galaxy Watch Active 2 ได้มีดังนี้ * แอนดรอยด์ : Android 5.0  หรือสูงกว่า, แรม 1.5 GB ขึ้นไป (แบรด์ซัมซุง/แบรด์อื่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอย์) * iOS : ไอโฟน 5 และรุ่นสูงกว่า, iOS 9.0 หรือสูงกว่า

2.GARMINFORERUNNER 745 GPS WHITESTONE

ผลิตขึ้นสำหรับนักวิ่งและนักไตรกีฬาเช่นคุณ ที่ต้องการสถิติการฝึกซ้อมที่ละเอียด สำหรับทุกการออกกำลังกาย อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชัน เช่น ฟังเพลง Garmin pay และอื่น ๆ พร้อมด้วยโปรแกรมการฝึกซ้อมล่วงหน้าที่จะทำให้คุณฝึกซ้อมได้อย่างสม่ำเสมอ ใช้ฟีเจอร์ทางกายภาพขั้นสูง เช่น Heat and Altitude Acclimation, Training Load Focus, Race Predictor เพื่อบรรลุทุกเป้าหมายของคุณ สามารถซิงค์เพลงจากบริการสตรีมมิ่งจัดเก็บไว้ในนาฬิกา เพื่อการฟังเพลงโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์ แบตเตอรี่ที่นานสูงสุด 6 ชั่วโมงในโหมด GPS + เล่นเพลง ออกแบบเพื่อทุกสภาพแวดล้อมพร้อมไปกับคุณทุกที่ที่กีฬาจะพาคุณไปนาฬิกา สำหรับวิ่งทนการวิ่งเหงื่อท่วมได้มากกว่า 200 รอบ ทางจักรยานวิบาก หรือการว่ายน้ำระยะไกล ทนทานใส่สบายและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการแข่งขัน และใช้ในชีวิตประจำวัน

3.SUUNTO นาฬิกา มัลติสปอร์ต รุ่น 9 BARO COPPER

นาฬิกาอัจฉริยะสำหรับออกกำลังกาย ทนทาน มาพร้อมฟังก์ชันการออกกำลังกายที่ชาญฉลาด แนะนำการออกกำลังกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแบบ Real-time คุณสมบัติหลัก รองรับกว่า 80 โหมดกีฬา และกิจกรรมการผจญภัยกลางแจ้ง

ระบบ GPS NAVIGATION วัดอัตราการเต้นหัวใจผ่านข้อมือด้วยเซนเซอร์ที่แม่นยำ (Valencell technology) กันน้ำ 100 เมตร บอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก โหมดอัจฉริยะของแบตเตอรี่ ระบบติดตามระยะทางในแบบอัลกอริทึม

วัสดุตัวเรือน Silicone วัสดุหน้าปัด : Mineral glass ขนาดหน้าปัด 50 มม.ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก) : 50 × 50 × 16.5 สี ทองแดง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับนาฬิกา สำหรับวิ่งที่เรานำมาแนะนำบอกเลยว่าราคาอาจจะค่อนข้างสูงบ้างแต่ถ้าดูที่ฟังก์ชันต่าง ๆ แล้วบอกไว้เลยว่าครบและตอบโจทย์ให้กับคนที่รักสุขภาพ รักการวิ่งได้อย่างครบถ้วน ครอบคลุมและคุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ

# นาฬิกา สำหรับวิ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รีวิว 4 รุ่นนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ราคาส่วนลดพิเศษ รุ่นยอดนิยม พร้อมอัพเดตราคาล่าสุด

 


ปัจจุบันมีอุปกรณ์ดิจิตอลที่ทันสมัยสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้หลายอย่างโดยที่เราไม่ต้องพกอุปกรณ์อื่น ๆ ให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป ในเมื่อมีนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ที่เป็นได้มากกว่านาฬิกาทั่วไป เพราะมันสามารถทำอะไรได้หลายสิ่งหลายอย่างมาก มีฟังก์ชันต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อย่าง ฟังก์ชันวัดอัตราการเต้นของหัวใจ , การนับก้าวเดินในแต่ละวัน ,  ตรวจจับการนอนหลับ , ฟังก์ชันออกกำลังกาย และอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ จากแต่ละค่ายผู้ผลิตก็มีรูปลักษณ์ คุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกัน แล้วจะเลือกอย่างไรให้ดีและโดนใจ เรามีข้อมูลนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ราคาตั้งแต่หลัก 1000 - 10000 ต้น ๆ มาฝาก มาดูกันค่ะว่าจะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ

1.Galaxy Fit2 ให้คุณสนุกทุกการเคลื่อนไหวกับสไตล์ที่ใช่ในแบบคุณ ดีไซน์อันทันสมัย พร้อมการแสดงผลแบบ AMOLED สีสันสดใส ขนาดกว้าง 1.1 นิ้ว ให้คุณอ่านข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ขนาดบางและสวมใส่สบายกว่า Galaxy Fit รุ่นเดิม ซึ่งเหมาะกับการใช้งานตลอดวัน รวมถึงดีไซน์ของสายนาฬิกาแบบเว้าเข้าช่วยให้ระบายเหงื่อได้ดียิ่งขึ้น ทนทาน กันน้ำลึกถึง 50 ม. ด้วยมาตรฐานการรับรองระดับ 5ATM ทำกิจกรรมได้อย่างมั่นใจ แบตเตอรี่ใช้ได้นานสูงสุดถึง 15 วันสำหรับการใช้งานตามปกติ สามารถวัดปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการนอนหลับของคุณด้วยคะแนนการนอนหลับโดยรวมที่ดูได้ง่ายๆจากแอป Samsung Health นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ราคา 1,590 บาท

2. TICWATCH S2 (WEAR OS BY GOOGLE)

Ticwatch แต่เป็นแบรนด์จากประเทศจีนที่มีคุณภาพเลยทีเดียว รองรับได้ทั้ง iOS และ Andriod รุ่นนี้มีความพิเศษคือมีฟังก์ชัน TicMotion ที่ตรวจจับทุกการเคลื่อนไหว ทำให้รับรู้การเคลื่อนไหวของผู้ใช้ในทุกกิจกรรม ถ้าผู้ใช้เริ่มออกกำลังกาย ตัวสมาร์ทวอชจะรู้และปรับโหมดให้เป็นโหมดกีฬานั้น ๆ โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีระบบ cycle-detection ที่ช่วยนับ Stroke ในการเล่นกีฬาด้วย นอกจากการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้เหมือนรุ่นทั่วไปแล้ว รุ่นนี้ยังรองรับ Google Assistant ที่พร้อมเป็นผู้ช่วยของคุณในทุกสถานการณ์ ส่วนใครที่อยากใช้สำหรับกิจจกรรมในน้ำก็ไม่ต้องห่วง เพราะกันน้ำได้ถึง 50 เมตร สามารถใส่ว่ายน้ำได้สบาย ๆ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ราคา 6,990 บาท

3. Garmin Venu

หากพูดชื่อยี่ห้อ Garmin ใครที่กำลังมองหา Smart Watch ต้องเคยได้ยินชื่อนี้แน่ ๆ เพราะมีคุณภาพและชื่อเสียงมายาวนาน รุ่นนี้มีจุดเด่นตรงที่ใช้จอ Amoled ที่มีความละเอียดสูงเป็นรุ่นแรกของ Garmin จึงทำให้ได้ภาพที่คมชัด มีฟังก์ชันสำหรับติดตามสุขภาพและความบันเทิงมากมาย สามารถตรวจสุขภาพของคุณตลอด 24 ชั่วโมงด้วยระบบ Pulse Ox และการตรวจพลังงาน Body Battery รวมถึงยังติดตามการหายใจ, ความเครียด, การนอนหลับและการดื่มน้ำของเพื่อน ๆ ราวกับมีพยาบาลส่วนตัว นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ราคา 14,500 บาท

4. Galaxy Watch3 Bluetooth (41mm)

เป็น Galaxy Watch ที่ล้ำสมัยที่สุดของซัมซุงที่จะทำให้ง่ายในการจัดการชีวิตและสุขภาพของ พร้อมเติมเต็มความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคุณขนาด 45 มม. หรือ 41 มม. ที่มาพร้อมหน้าปัดอันที่สวยหรูจนยากที่จะลืม ส่วนดีไซน์นั้นก็โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มอบภาพลักษณ์ดูดีมีระดับ หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ขอบตัวเรือนหมุนได้ ที่ดูกลมกลืนไปกับตัวเรือนนั้นบางและเล็กลง โดยเบากว่าเดิมถึง 15% ตัวเรือนที่บางลงโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยสายนาฬิกาหนังแท้สุดพรีเมียม โดยสายหนังนั้นช่วยสร้างลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ และเมื่อพลิกด้านหลัง จะพบว่าเป็นหนังแบบเสริมความแข็งแรง ช่วยลดไม่ให้สีซีดและจางลง เลือกหน้าปัดนาฬิกาในแบบของคุณเองด้วยตัวเลือกการปรับแต่งกว่า 40 รายการ และดูข้อมูลเป็นประโยชน์ที่คุณต้องการได้ในพริบตา พร้อมเข้าใช้งานแอปโปรดต่าง ๆได้อย่างง่ายดายนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ราคา 13,400.00 ประหยัดถึง 1,500.00 (จากเดิมราคาเต็ม 14,900)

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นนาฬิกาสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้ แนะนำว่าควรเลือกรุ่นที่คุณชอบ และการใช้งาน เลือกมีฟังก์ชันทันสมัยมีแบตเตอรี่ทนทานสามารถอยู่ได้นาน  และมีตัวเรือนที่แข็งแรง ส่วนจะซื้อนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ราคา เท่าไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณรวมถึงงบประมาณที่คุณมีอยู่ในมือด้วย ซึ่งถ้าคุณมีงบประมาณเยอะแนะนำให้คุณซื้อรุ่นดี ๆ ไปเลยค่ะ รับรองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอน

#นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ราคา

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รู้จักประโยชน์ของเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้สามารถใช้งานได้คุ้มค่าที่สุด

 


ปัจจุบันหลายคนหันมาสนใจใช้เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กกันมากขึ้น เพราะจัดเก็บได้ง่าย ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายสามารถทำความสะอาดในทุกซอกทุกมุมได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะใช้ทำความสะอาดบ้านในห้องพักคอนโด หรือแม้กระทั่งใช้ในรถยนต์ ที่การกวาดเช็ดถูทั่วไปอาจไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นการมีตัวช่วยดี ๆ อย่างเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กจึงถือว่าตอบโจทย์มาก ซึ่งถ้าใครที่อยากไปซื้อเอามาใช้งาน แต่เลือกไม่เป็นไม่รู้ว่าต้องเลือกดูยังไง หรือดูจากตรงไหนก่อนดี รวมไปถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กว่าจะคุ้มค่ากับการซื้อเอามาใช้งานไหม วันนี้เรามีคำตอบมาให้เริ่มจากประโยชน์ที่จะได้รับก่อนเลยว่ามีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลย

ประโยชน์จากการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก

1.ทำความสะอาดฝุ่นผงในนบ้าน หรือใช้ในรถได้อย่างหมดจด : เนื่องจากนวัตกรรมเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก หรือเครื่องดูดฝุ่นขนาดพกพามาพร้อมการทำงานที่ให้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเครื่องดูดฝุ่นภายในบ้าน ทำให้คุณสบายใจได้ หากพบเจอกับเศษฝุ่น หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ในรถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้ผ้าหุ้มเบาะที่มีโอกาสในการสะสมของเศษฝุ่นต่าง ๆ มากกว่าเบาะหนังเครื่องดูดฝุ่นในรถจะช่วยกำจัดเศษฝุ่นออกไปได้อย่างหมดจด

2.ทำความสะอาดซอกหลืบในห้อง หรือในรถยนต์ที่ยากจะเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ปัญหาเศษฝุ่นสะสมในรถยนต์ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึง เช่น ซอกหลืบต่าง ๆ, ชั้นวางของ, บริเวณใต้เบาะซึ่งเครื่องดูดฝุ่นใช้ดูดฝุ่นในรถยนต์จะสามารถทำความสะอาดเข้าถึงบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณสะดวกสบายมากขึ้นในการดูแลรักษาสภาพภายในรถยนต์ให้ดูสะอาดและใหม่อยู่ตลอดเวลา

3.ไม่เปลื้องพื้นที่ในการจัดเก็บ เพราะตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาใช้ในบ้าน ในห้อง ในคอนโดก็ได้ ใช้ในรถยนต์ก็ได้ในปัจจุบันนี้ มีขนาดหลากหลายให้เลือกซื้อ ซึ่งคุณสามารถที่จะเลือกขนาดเล็ก ๆ เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการจัดเก็บไม่เปลืองพื้นที่และสามารถเก็บไว้รถยนต์ได้เพื่อที่จะสามารถหยิบขึ้นมาทำความสะอาดได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยค่ะ

4.ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนำรถไปทำความสะอาดที่ศูนย์บริการ บางครั้งเมื่อคุณอยากจะทำความสะอาดภายในรถยนต์คุณก็อาจจะต้องขับรถไปทำที่ศูนย์บริการ ซึ่งเปลืองทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ถ้าหากมีเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กติดรถยนต์ไว้ คุณก็ย่อมสามารถทำความสะอาดภายในรถยนต์ได้ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้ประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย และประหยัดทั้งเวลามากขึ้นด้วย

และนี่ก็คือประโยชน์ของเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก ที่จะทำให้คุณสามารถทำความสะอาดภายในบ้านได้ละเอียดมากขึ้น มีติดบ้าน หรือมีติดรถไว้สักเครื่องก็ไม่เสียหาย เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ใช้รถทั้งหลายที่ต้องการดูแลรักษาความสะอาดรถยนต์ให้สะอาดทั่วถึงได้เป็นอย่างดี ซึ่งการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ และได้มาตรฐาน ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ Samsung ,Philips, Electrolux , SHARP เป็นต้น แต่ทั้งนี้เพื่อให้ได้เครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ ตรงกับความต้องการใช้งานของเราให้ได้มากที่สุด ก็ควรที่จะศึกษาเอาไว้ก่อน เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป พร้อมทั้งได้เครื่องดูดฝุ่นที่ถูกใจ และสามารถใช้งานไปได้นาน ๆ

#เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2563

หุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นใหม่ คุณภาพดี ฟังก์ชั่นการทำงานเริ่ด ที่คุณไม่ควรพลาด

 

  การทำความสะอาดบ้านถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำเป็นประจำ เนื่องจากฝุ่นและสิ่งสกปรกนั้นจะค่อย ๆ สะสม จากนั้นก็จะไปเกาะตามส่วนต่าง ๆ รอบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้น บันได หรือผนังล้วนแล้วแต่เป็นส่วนที่เราใช้มือสัมผัสมือของคุณจะสกปรก ไม่เพียงแค่นั้นสิ่งสกปรกเหล่านี้ยังทำให้คุณเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ยิ่งใครมีโรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัว ยิ่งมีความเสี่ยงต่อสิ่งสกปรกเหล่านี้มากขึ้น ดังนั้นมันจะดีขนาดไหนหากเราจะไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยในการทำความสะอาด เพราะเดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดให้เราสบายขึ้น อย่าง หุ่นยนต์ทำความสะอาด ที่ถูกออกแบบมาให้ทำความสะอาดแทนมนุษย์ แถมยังใช้งานได้ง่ายมาก ๆ อีกด้วย ถ้าใครที่สนใจจะซื้อเพื่อเอามาใช้งาน แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นเลือกจากตรงไหนก่อนดี ตามเรามาทางนี้ได้เลย เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำให้เอง ซึ่งเราได้เลือกมา 3 ยี่ห้อ ที่จัดได้ว่าได้รับความนิยมเยอะมาก รวมถึงมาทำความรู้จักกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในระดับเบื้องต้นกันด้วย เพื่อให้ทุก ๆ คน สามารถเลือกซื้อหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ต่อการใช้งานของตนเองเจอ ว่าแล้วก็อย่ารอช้าเรามาดูกันเลย

1. หุ่นยนต์ทำความสะอาด Samsung VR10 M7030WG หุ่นยนต์ดูดฝุ่น POWERbot แรงดูด 10 วัตต์

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น Star Wars™ อัดแน่นด้วยพลังทำความสะอาดในตัวเครื่อง ทำงานแบบอัจฉริยะ สามารถสั่งการอัตโนมัติไปยังจุดต่าง ๆ ทั่วพื้นที่ของคุณ หลบหลีกกับดัก และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญก็คือ มันโต้ตอบกับคุณได้ เพื่อทำภารกิจพิชิตความสกปรกในบ้านคุณ  ด้วยพลังดูดที่มากกว่าเครื่องรุ่นถึง 20 เท่า พร้อมดีไซน์ที่เพรียวบาง POWERbot จึงขจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นอย่างทั่วถึงทุกซอกมุม แม้ในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก ใช้แอพ POWERbot บนสมาร์ทโฟนของคุณ เพื่อควบคุมเครื่อง ในแบบระยะไกลใช้การสั่งการด้วยเสียง ด้วย Amazon Alexa หรือ Google Assistant พิเศษราคา 18,990 บาท

2. Roborock S6 MaxV หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้น อัจฉริยะ (Global Version)

ใช้ระบบมอเตอร์ปั๊มดันลมในการปล่อยน้ำไหลซึมไปที่ผ้า สามารถกำหนดการไหลหยดจากแอพได้ หรือ สามารถกำหนดระดับการหยดของน้ำในพื้นที่แต่ละโซนหรือห้องได้ หรือกำหนดพื้นที่ที่ไม่ต้องการถูได้ และทำให้เมื่ออยู่ที่แท่นชาร์จหรือกลับเข้าแท่นชาร์จ Dock น้ำใน Water Tank จะไม่ไหลซึมเลย  เป็นเหมือนตาผสมกับระบบAI (ปัญญาประดิษฐ์) ทำให้สามารถเรียนรู้และรับรู้วัตถุได้เอง เช่น รองเท้า ชิ้นของเล่น ปลั๊กสายไฟ หุ่นยนต์ก็จะสามารถหลบหลีกได้ จะไม่ลาก หรือชนลากวัตถุต่าง ๆ ไปด้วย และทำให้รู้ตำแหน่งและลักษณะพื้นที่ได้ชัดเจนทำงานแม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นราคา 17,900

3. หุ่นยนต์ทำความสะอาด Pure i9.2 (PI92-6STN) จาก Electrolux

ดีไซน์สามเหลี่ยม สีน้ำเงินสเปซทีล หัวแปรงทรงพลัง เข้าถึงจุดแคบ ๆ ต่าง ๆ ได้ทุกซอกทุกมุม มาพร้อมการมองเห็นแบบ 3 มิติด้วยเลเซอร์และกล้อง ช่วยสแกนตำแหน่งวัตถุบนพื้น หลบหลีกสิ่งกีดขวาง และเลือกทำความสะอาดได้อย่างเหมาะสม สามารถกำหนดวัน เวลา และโซนได้ เชื่อมต่อแอปพลิเคชันได้ ตาข่ายกรองถอดล้างสะดวก แถมมีระบบอัจฉริยะ กลับไปที่ชาร์จทันทีเมื่อแบตหมด ก่อนจะกลับมาทำความสะอาดส่วนที่เหลือต่ออีกครั้ง ขนาดกล่องเก็บฝุ่น 700 มิลลิลิตร แบตเตอรี่จุ 2,500 mAh ใช้งานได้นานประมาณ 40-60 นาที ราคาประมาณ 20,900 บาท

สำหรับคำแนะนำว่าหุ่นยนต์ทำความสะอาดยี่ห้อไหนดี หวังว่า 3 ยี่ห้อเหล่านี้จะเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ ได้เลือกสรรในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหม่อย่างหุ่นยนต์ทำความสะอาดกันได้อย่างจุใจ รับรองว่าคุ้มค่ะ เพราะหุ่นยนต์ดูดฝุ่นช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดบ้านได้ทั้งกวาดทั้งถู เห็นแบบนี้แล้วใครจะอดใจไหว งานนี้ใครสนใจก็ไปลองซื้อหามาใช้กันได้เลยนะคะ

#หุ่นยนต์ทำความสะอาด

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ข้อดีของการใช้มือถือหน้าจอใหญ่ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

 


ปัจจุบันการใช้มือถือหน้าจอใหญ่ถือว่าเป็นอะไรที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็อาจจะมีบางคนที่ไม่ค่อยชอบมือถือที่หน้าจอใหญ่เพราะมันพกพาไม่ค่อยสะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงไม่ได้ ยิ่งหน้าจอใหญ่มากเท่าไหร่ น้ำหนักตัวเครื่องก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย หากดูผิวเผินก็จะเห็นข้อเสียเยอะแต่ถ้าได้ลองพิจารณาตามความเป็นจริงแล้วบางทีอาจจะมีข้อดีมากกว่าที่คุณคิดก็ได้ โดยข้อดีหลัก ๆ ที่จะได้จากการใช้มือถือหน้าจอใหญ่เลยก็จะมีดังต่อไปนี้

ข้อดีของการใช้มือถือหน้าจอใหญ่ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

1.แบตเตอรี่อึดกว่า

แบตเตอรี่ นับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากแบตเตอรี่หมด นั่นหมายความว่า คุณจะไม่สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนทั้งวัน ซึ่งปกติแล้ว มือถือจอใหญ่ มักจะมาพร้อมกับ แบตเตอรี่ความจุที่มากกว่า มือถือจอเล็ก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ หน้าจอที่ใหญ่กว่า ทำให้ต้องใช้พลังงานที่มากกว่า ยกตัวอย่างเช่น iPhone 6S Plus ก็มีแบตเตอรี่ความจุเยอะกว่า iPhone 6S เนื่องจากหน้าจอมีขนาดที่ใหญ่กว่า

2.ทำอะไรก็ง่าย ใช้งานก็สะดวก

มือถือหน้าจอใหญ่ สามารถใช้งานด้านต่าง ๆ ได้สะดวกกว่า มือถือหน้าจอเล็ก โดยเฉพาะเรื่องการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น แก้ไขไฟล์งาน, แต่งรูปภาพ, ตัดต่อวีดีโอ และอื่น ๆ อีกมากมาย

3.พิมพ์ได้เร็วกว่า

จริงอยู่ที่ มือถือจอใหญ่ จะไม่ค่อยสะดวกในการจับถือ แต่ในเรื่องการพิมพ์แล้ว ถือว่า สะดวกกว่า มือถือหน้าจอเล็ก อย่างแน่นอน เนื่องจากแป้นคีย์บอร์ดขยายตามขนาดหน้าจอ ยิ่งผู้ใช้มีนิ้วมือที่ใหญ่ การกดแป้นพิมพ์จะสะดวกมากกว่า พิมพ์ได้เร็ว และถูกต้องมากขึ้น

4. ฮาร์ดแวร์ดีกว่า

มือถือหน้าจอใหญ่ มักจะมาพร้อมกับสเปคที่แรงกว่า ไม่ใช่แค่ความละเอียดหน้าจอเท่านั้น บางรุ่น ยังใช้ชิปเซ็ต และ RAM ที่ดีกว่าอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น Nexus 6P สเปคดีกว่า Nexus 5X โดย Nexus 6P ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 810 ในขณะที่ Nexus 5X ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 808 หรือ iPhone 6S กับ iPhone 6S Plus แม้จะใช้ชิปเซ็ตเดียวกัน แต่ก็มีสเปคบางอย่างที่ iPhone 6S Plus ดีกว่า อย่างเช่น คุณสมบัติในการรองรับฟีเจอร์ OIS เป็นต้น

5.เหมาะกับการเล่นเกมมากกว่า

ข้อนี้เชื่อได้เลยว่า หลายๆ ท่านคงเห็นด้วยอย่างแน่นอน มือถือหน้าจอใหญ่ จะเล่นเกมได้สนุกกว่า มือถือหน้าจอเล็ก ทั้งด้านการมองเห็นรายละเอียดของเกม หรือจะเป็นการใช้นิ้วควบคุม ซึ่งไม่บดบังพื้นที่บนหน้าจอ ในขณะที่ มือถือจอเล็ก แค่ใช้นิ้วจิ้ม ก็บังไปแล้วครึ่งจอ

6.เสียงและลำโพง คุณภาพดีกว่า

ยิ่งตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ ก็จะยิ่งมีพื้นที่ด้านในสำหรับอัดแน่นคุณสมบัติต่างๆ ได้ อย่างเช่น ลำโพงเสียง บนมือถือจอใหญ่ จะให้เสียงที่คมชัดกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ภายในมากกว่ารุ่นหน้าจอเล็กนั่นเอง

7.หน้าจอละเอียดกว่า

ยิ่งสมาร์ทโฟนมีหน้าจอขนาดใหญ่ หน้าจอก็ต้องละเอียดตามขึ้นไปด้วย ซึ่งสมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอ 5 นิ้วขึ้นไป ส่วนใหญ่แล้ว ความละเอียดจะอยู่ที่ระดับ Full HD หรือ QHD จริงอยู่ที่ความละเอียดระดับนี้ การใช้งานแบบทั่วๆ ไป คงจะสังเกตเห็นความแตกต่างได้ยาก แต่ถ้าหากต้องใช้งานประเภทที่ต้องใช้สายตาเป็นเวลานาน อย่างเช่น งานเอกสาร หน้าจอที่มีความละเอียดกว่า จะสบายตามากกว่า

8.อินเทอร์เฟส และฟีเจอร์ดีกว่า

ไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์เท่านั้นที่ดีกว่า แต่มือถือหน้าจอใหญ่ ยังมาพร้อมกับอินเทอร์เฟส และฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ ที่ล้ำกว่าเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น iPhone 6S Plus ที่สามารถใช้งานแบบแนวนอนได้ ในขณะที่ iPhone 6S มีข้อจำกัดในด้านนี้

สำหรับใครที่ยังลังเลหรือกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อมือถือหน้าจอใหญ่ดีไหมอยู่ล่ะก็ เราก็หวังว่าข้อมูลที่เราเอามาฝากนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจในเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้นนะคะ

#มือถือ