วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563

การเลือกราคา หูฟังบลูทูธที่แพง ๆ จะส่งผลดีต่อตัวผู้ใช้งานในด้านใดบ้าง



                 ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมาผู้คนส่วนใหญ่หันมาสนใจและเลือกใช้หูฟังแบบไร้สายกันเยอะมาก ถึงแม้ว่าราคา หูฟังบลูทูธนั้นจะมีราคาแพงก็ตาม แต่ถึงอย่างไรการที่เราเลือกหูฟังบลูทูธที่มีราคาแพง ก็ย่อมดีกว่าการเลือกใช้หูฟังราคาถูก ๆ ที่ไม่ได้มาตราฐานอยู่แล้ว นอกจากนี้การเลือกใช้หูฟังบลูทูธที่มีราคาแพงยังช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากการใช้งานมากขึ้นอีกด้วย โดยประโยชน์หลัก ๆ ที่เราจะได้จากหูฟังบลูทูธเลยก็มีดังนี้

                การเลือกราคา หูฟังบลูทูธที่แพง ๆ จะส่งผลดีต่อตัวผู้ใช้งานในด้านใดบ้าง

1.เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน
แน่นอนว่าเมื่อคุณไม่ต้องใช้มือหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าสะพายมาถือเอาไว้ในระหว่างการสนทนาก็สามารถทำให้เราทำกิจกรรมหรืองานอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กันในระหว่างการสนทนาได้สบายขึ้น

2.ไร้สาย
ไม่มีสายมาเกะกะหรือพันกันยุ่งเหยิงในระหว่างการใช้งานหรือสามารถหยิบใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย แถมตัวหูฟังยังสามารถที่จะอยู่ห่างจากอุปกรณ์ได้ราว ๆ เกือบ 10 เมตร เลยทีเดียว

3.เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
การเชื่อมต่อผ่านสัญญาณบลูทูธไม่ได้ถูกจำจัดอยู่ที่โทรศัพท์ สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์อีกต่อไป เราสามารถนำไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใดก็ได้ที่รองรับสัญญาณบลูทูธ ซึ่งอาจจะเป็นทีวี หรือเครื่องเล่นเพลงต่าง ๆ

4.ความปลอดภัย
เป็นอีกเรื่องที่ถือได้ว่าเป็นความสำคัญในระดับต้น ๆ เลยทีเดียวที่ทำให้เทคโนโลยีบลูทูธได้ถูกคิดค้นขึ้นมา เช่นลดผลกระทบจากคลื่นความถี่ของโทรศัพท์ให้ต่ำลงเมื่อใช้งานผ่านหูฟังบลูทูธหรือเมื่อขับรถแล้วมีสายที่ต้องสนทนาก็ยังให้การขับขี่มีความปลอดภัยเพราะลดความกังวลจากการใช้งานโทรศัพท์ทำให้มีสมาธิในการขับขี่อยู่ตลอดเวลา


                ดังนั้นหากคุณคิดจะหาซื้อหูฟังบลูทูธดี ๆ สักตัวหนึ่ง ควรดูในรายละเอียดเรื่องราคา หูฟังบลูทูธ ให้ดี ๆ เพราะส่วนใหญ่ที่ทำให้ของชิ้น ๆ หนึ่งแพงได้นั้นต้องผ่านการตรวจสอบหลายสิ่งหลายอย่างกว่าจะถูกให้ปล่อยออกมาวางจำหน่ายได้ ดังนั้นจึงไม่เลยที่จะสามารถบอกได้ว่าจ่ายแพงย่อมดีกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรที่จะต้องรู้ถึงรายละเอียดของแบรนด์ ๆ นั้นเอาไว้บ้างเพื่อเป็นการป้องกันการโดนโกงจากผู้ขายที่ต้องการกำไรสูง ๆ โดยเอาของถูกมาหลอกขายในราคาแพงให้กับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ เพื่อเป็นการเซฟตัวเองเวลาต้องซื้อของใช้ไอทีที่มีราคาแพง ๆ ควรที่จะต้องไปเลือกซื้อในที่ ๆ ไว้ใจได้ มีความน่าเชื่อถือ อย่างในศูนย์ของแบรนด์นั้น ๆ เลยก็จะดีมาก ๆ ค่ะ

#ราคาหูฟังบลูทูธ 

วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2563

การซื้อสมาร์ททีวีดี ๆ สักเครื่องนั้นไม่ได้ใช้พิจารณาเพียงแค่เรื่องของ ราคา สมาร์ททีวีเพียงอย่างเดียว



                          ทุกวันนี้เทคโนโลยีการผลิตทีวีก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ก่อนหลายบ้านคุ้นเคยกับการชมละคร ดูข่าว ดูรายการต่าง ๆ ผ่านทีวีจอตู้ขนาดหนา ๆ เพียงอย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้กลับถูกพัฒนาให้กลายเป็น Smart TV ที่มีระบบการทำงานและรูปลักษณ์ภายในและภายนอกในด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม อาทิ ตัวเครื่องที่บางลง ฟังก์ชันการใช้งานที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม, เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, การเข้าเว็บบราวเซอร์, ดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเพิ่มเติมได้เสมือนการใช้สมาร์ทโฟน หรือจะใช้แฟลชไดร์ฟต่อเข้ากับพอร์ตของ Smart TV เพื่อการฟังเพลง ชมภาพยนตร์ แถมบางรุ่นยังมีความ “ฉลาด” สามารถสั่งงานด้วยเสียง, ควบคุมด้วยท่าทาง หรือจะเป็นการปลดล็อคหน้าจอด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้าได้ ด้วยประโยชน์ที่มากมายขนาดนี้จึงส่งผลให้ ราคา สมาร์ททีวี สูงกว่าทีวีแบบทั่วไป ดังนั้นก่อนซื้อสมาร์ททีวีจึงต้องเลือกให้ดี ๆ ต้องให้คุ่มค่ากับเงินที่เสียไป โดยมี 8 สิ่งดังต่อไปนี้ที่เราควรต้องพิจารณา
                        การซื้อสมาร์ททีวีดี ๆ สักเครื่องนั้นไม่ได้ใช้พิจารณาเพียงแค่เรื่องของ ราคา สมาร์ททีวีเพียงอย่างเดียว

1. วิธีเลือกขนาดจอทีวีให้เหมาะสม
ขนาดของจอทีวีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องพิจารณาในการซื้อทีวีเครื่องใหม่ คุณควรคำนึงว่าที่ ที่คุณนั่งดูทีวีนั้นห่างจากทีวีมากแค่ไหน ซึ่งกฎง่าย ๆ คือ คุณควรจะนั่งห่างจากทีวีเป็นระยะมากกว่าสามเท่าของความสูงของจอทีวี
จากนั้นจึงเลือกจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถวางได้อย่างเหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ขนาด 50-65 นิ้วสำหรับวางในห้องนั่งเล่น โดยหากคุณดูทีวีและสามารถมองเห็นจุดพิกเซลได้ นั่นหมายความว่าคุณนั่งใกล้เกินไปหรือทีวีมีขนาดใหญ่เกินไป
ขนาดจอที่เหมาะสมยังขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่จะดูทีวีพร้อมกันด้วย เช่น ถ้าคุณดูทีวีพร้อมกันทั้งครอบครัวสี่คน คุณอาจต้องการทีวีขนาดใหญ่กว่าการดูคนเดียวเป็นหลักเพื่อให้ทุกคนสามารถได้ชมภาพได้อย่างสบายตา

2. ความละเอียดต้องมากแค่ไหน
เวลาเราพูดถึงความละเอียดของจอทีวีนั้นเรากำลังพูดถึงจำนวนของพิกเซลบนหน้าจอที่ใช้แสดงสีสันให้เราได้เห็น การที่จอภาพมีพิกเซลมากกว่า (หรือหนาแน่นกว่า) ย่อมหมายถึงความละเอียดและความคมชัดที่สูงกว่า ดังนั้นเราอาจพูดได้ง่าย ๆ ว่าค่าความละเอียดนั้นยิ่งสูงยิ่งดี
Full HD คือ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งถือได้ว่าเป็นความละเอียดมาตรฐานของทีวีส่วนใหญ่ทั่วโลก ก่อนที่จะมีเทคโนโลยีที่มีความละเอียดสูงกว่านั้นที่เรียกว่า Ultra HD หรือ 4K ซึ่งมีความหนาแน่นของพิกเซลมากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า ด้วยความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล

3. คำว่า HDR บนทีวีหมายถึงอะไร
หากคุณต้องการสีสันที่มากกว่าทีวี 4K ทั่วไป คุณอาจเลือกรุ่นที่รองรับฟีเจอร์ HDR (high dynamic range) ซึ่งจะมาพร้อมชื่ออย่าง “HDR10” หรือ “4K Premium” และ “Dolby Vision” โดยทีวีเหล่านี้จะสามารถแสดงเฉดสีได้ในช่วงที่กว้างกว่าทีวี 4K ทั่วไป รวมถึงความแตกต่างของส่วนที่สว่างและมืดของภาพ (contrast) ดังนั้นส่วนที่มืดก็จะสามารถมืดได้กว่าทีวี 4K ทั่วไป โดยที่ ภาพของเครื่องรุ่นที่รองรับ Dolby Vision นั้นแสดงผลได้ดีกว่า HDR10
มาตรฐาน HDR และ Dolby Vision เป็นเทคโนโลยีที่เป็นเหมือนการอัพเกรดต่อจากทีวี 4K เดิม ทั้งนี้ ทีวี Full HD (1080p) ปกติจะยังไม่มีเทคโนโลยีนี้ ทั้งนี้มันยังถือเป็นมาตรฐานที่ยังไม่คงที่และอาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

4. Refresh Rate คืออะไร
Refresh rate คือ ค่าที่บ่งบอกอัตราความถี่ในการแสดงผลบนหน้าจอ โดยจะระบุไว้เป็นหน่วย Hertz (Hz) โดยจอที่มีค่า refresh rate อยู่ที่ 60 Hz จะแปลว่าภาพบนหน้าจอนั้นจะถูกปรับเปลี่ยน 60 ครั้งต่อ 1 วินาทีซึ่งแปลว่ามันสามารถแสดงผลสูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที

5. จำนวนพอร์ต HDMI
คุณอาจคิดว่าจำนวนพอร์ต HDMI นั้นไม่สำคัญแต่ในการใช้งานจริงคุณจะพบว่ามันถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็ว หากคุณต้องการใช้งานทั้ง ซาวด์บาร์, Apple TV, Play Station และอื่น ๆ การมีจำนวนพอร์ต HDMI ที่มากพอจะทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เข้าออก
สมาร์ทีวีราคาถูกมักจะลดต้นทุนด้วยการลดจำนวนพอร์ตต่าง ๆ ออกไป เราคิดว่าคุณควรมองหาทีวีที่มีพอร์ต HDMI อย่างน้อย 3-4 พอร์ต นอกจากนี้ หากคุณเลือกลงทุนในทีวี 4K แล้ว คุณควรเลือกรุ่นที่รองรับ HDMI 2.0 ซึ่งจะรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่แพร่หลายมากขึ้นในอนาคต

6. Smart TV ที่ใช้งานได้สะดวก
ทีวีส่วนใหญ่ที่วางขายในปัจจุบันนั้นเป็น Smart TV อยู่แล้ว กล่าวคือมันสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi และใช้บริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ เช่น Netflix หรือ YouTube ได้ในตัว หรือแม้แต่เล่นเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ (ซึ่งใช้งานไม่สะดวกอย่างยิ่ง!)
ต่างจากสมาร์ททีวีเมื่อ 2-3 ปีก่อน ทีวีรุ่นใหม่ ๆ มาพร้อมกับรูปแบบการใช้งานที่สะดวกกว่าเดิมมาก โดยบางยี่ห้อ เช่น LG, Samsung, Sony นั้นมาพร้อมกับปุ่มเลือกใช้งานแอปต่าง ๆ ที่ทำให้เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าคุณควรจะเลือกทีวีที่รองรับแอปที่คุณต้องการใช้งานในตัว เพราะนั่นแปลว่าคุณจะไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเช่น Chromecast หรือ Android Box โดยไม่จำเป็น


                     นอกจากนี้อย่าลืมดูให้ละเอียดด้วยว่า ราคา สมาร์ททีวีที่ถูกบางรุ่นอาจเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จริง แต่การใช้งาน    แอปต่าง ๆ นั้นยุ่งยากและไม่ลื่นไหล คุณอาจไม่ต้องกังวลมากนักถ้าเลือกซื้อยี่ห้อชั้นนำ แต่หากเป็นยี่ห้ออื่น ๆ คุณควรทดลองใช้งานดูว่ามันสามารถดูรายการผ่านแอปที่คุณต้องการได้หรือไม่ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายเงินที่เสียไปที่หลัง

#ราคาสมาร์ททีวี 

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2563

รุ่น wireless charger ราคาโดน ๆ คุณภาพจัดเต็มแบบที่ทุกคนต้องการ




                   ทุกวันนี้เทคโนโลยีถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมากจนทำให้หลาย ๆ คนอาจจะตามกันแทบไม่ทันเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการสื่อสารอย่าง สมาร์ทโฟน ที่มีการเปลี่ยนแปลงและถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม อย่างสายชาร์จโทรศัพท์ที่เดิมทีนั้นต้องใช้เสียบกับตัวโทรศัพท์เพื่อชาร์จให้กระแสไฟเข้า แต่เดี่ยวนี้กลับมี wireless charger ที่เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น เพียงแค่วางโทรศัพท์กับ wireless charger ที่มีกระแสไฟไหลอยู่เพียงเท่านี้ก็สามารถชาร์จโทรศัพท์ของท่านได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปการเสียบเข้าเสียบออกระหว่างสายชาร์จกับเครื่องโทรศัพท์แถมยังเป็นการถนอมช่องที่เสียบสายชาร์จไม่ให้พังเร็วอีกด้วย แหละที่สำคัญ wireless charger ราคาก็ไม่ได้แพงมากจนเกินไป เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจที่ชาร์จแบบ wireless แล้วละก็ตามเรามาทางนี้เลย เพราะเรามีรุ่น wireless charger ราคาเบา ๆ สบายกระเป๋าเอามาฝากให้กับทุก ๆ ด้วยพร้อมแล้วก็มาดูกันเลยค่ะ

                  wireless charger ราคาเบา ๆ คุณภาพจัดเต็มที่ควรมีไว้เป็นอย่างยิ่ง

1.Momax Q.Pad X Fast Wireless Charger
แท่นชาร์จแบบเร็วไร้สายที่มาพร้อมดีไซน์สุดเรียบหรู บางเพียง 8 มิลลิเมตร ถึงจะดูเรียบ ๆ แบบนี้ แต่สามารถจ่ายไฟออกได้แรงสุดถึง 10W กันเลยทีเดียว แต่ต้องใช้งานคู่กับหัว Adapter ที่รองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charge) นะคะ วัสดุ ABS ที่มีคุณสมบัติทนทานความร้อนสูง และด้านล่างมียางซิลิโคนกันลื่นอีกด้วย

2. ESR Qi Wireless Charger
เพิ่มระดับความหรูขึ้นมาอีกหน่อย สำหรับ ESR Qi Wireless Charger แท่นชาร์จไร้สายที่ถือว่าบางที่สุดในเวลานี้ บางเพียงแค่ 6 มิลลิเมตร และวัสดุฐานชาร์จยังเคลือบผิว Rubber ที่ป้องกันรอยนิ้วมือตัดกับขอบอัลลอยด์สวยงาม และยังมีระบบชาร์จเร็วที่จ่ายไฟออก 9V/2A เมื่อใช้งานร่วมกับ Adapter ที่รองรับ QC 2.0/3.0 หรือจ่ายไฟได้ 9v 1.7A ชาร์จไม่นานแบต iPhone ก็เต็มแล้ว

3. Baseus Wireless Charging Pad Type-C cable
ถือว่าเป็นแท่นชาร์จที่แปลกใหม่ สามารถชาร์จได้ทั้งแบบแนวราบและแนวตั้ง ที่เรียกได้ว่า 2 in 1 ตามใจผู้ใช้ได้เลย สามารถตั้งได้ 60 องศา เผื่อว่าใครต้องการความสะดวกในการดูหน้าจอโทรศัพท์ แต่ถ้าต้องการชาร์จแบบวางก็สามารถนำขาตั้งออกและวางราบได้เลย มาพร้อมกับสายชาร์จ Type-C ที่เสียบเข้ากับแท่นชาร์จ

4. Samsung 2019 Wireless Charger Duo Pad
ความดีงามของที่ชาร์จรุ่นนี้คือ คุณสมบัติที่ชาร์จไฟได้เร็วมาก แถมยังรองรับการชาร์จพร้อมกันทีเดียว 2 เครื่องด้วย เช่น คุณอยากชาร์จสมาร์ทโฟนพร้อมกับ Smart Watch หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ก็สามารถทำได้ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งชาร์จทีละอย่าง แต่ตัวนี้จะรองรับเฉพาะสมาร์ทโฟนของ samsung รุ่นที่รองรับระบบ QI การชาร์จแบบไร้สายเท่านั้น

                เป็นยังไงกันบ้างค่ะ กับยี่ห้อ  wireless charger ราคาประหยัด ๆ ที่เราได้เอามาฝาก หวังว่าจะเป็นที่ถูกใจของใครหลาย ๆ คนนะคะ แต่ก่อนจะซื้อตัว  wireless charger นั้นอย่าลืมดูโทรศัพท์ของตัวเองด้วยว่ารองรับการชาร์จแบบไร้สายหรือเปล่า เพราะถ้าเครื่องไม่ได้รองรับการชาร์จแบบไร้สายต่อให้คุณซื้อ wireless charger ราคาแพงแค่ไหนก็ชาร์จไม่เข้าค่ะ

#wirelesschargerราคา 

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563

ข้อระวังก่อนเลือกซื้อ tv 4k ที่เราไม่ควรดูแค่ในเรื่องของ ราคา tv เพียงอย่างเดียว



                ปัจจุบันเทคโนโลยีของ tv ได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมาก ทั้งในเรื่อง ภาพ สี และเสียง มียัน tv ภาพเสมือนจริง อย่าง tv 3 มิติ ซึ่ง tv แบบ 3 มิตินี้เวลาดูต้องใส่แว่นตา 3 มิติ ในการดู จะช่วยทำให้การรับชมดูสมจริง สนุก และอินไปกับการดูมากยิ่งขึ้น แถม ราคา tv ก็มีหลากหลายช่วง ตั้งแต่ราคาระดับถูกไปถึงราคาระดับแพง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อตามกำลังทรัพย์ของตัวเองได้โดยไม่ต้องเดือนร้อน แต่ถ้าใครที่สนใจในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของทีวีและมีกำลังทรัพย์ที่มากพอเราขอแนะนำให้คุณมองไปที่ ทีวี 4K ได้เลย อาจจะมีหลายคนที่สนใจว่าเจ้าตัว ทีวี 4K นี้นั้นมันมีดีแตกต่างจากทีวีธรรมดายังไงบ้าง ก็ถ้าจะให้พูดง่าย ๆ เลยคือเจ้า ทีวี 4k นี้มีความละเอียดของภาพอย่างน้อย 3,840 x 2,160 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่มากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า ทำให้เห็นภาพที่คมชัดสมจริงทั้งแสงและสีที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เพราะด้วยคุณภาพที่ดีกว่าจึงทำให้ ราคา tv 4k แพงกว่าทีวีแบบธรรมดา แต่ถึงยังไงเวลาเลือกซื้อ tv 4k นั้นก็มีบางข้อที่เราควรต้องระวังเหมือนกัน ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ

                ข้อระวังก่อนเลือกซื้อ tv 4k ที่เราไม่ควรดูแค่ในเรื่องของ ราคา tv เพียงอย่างเดียว
1. ซื้อทีวีผิดขนาด ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ ชอบ” ยิ่งจอใหญ่ๆก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ความคมชัดเต็ม ๆ ตา อย่างไรก็ตาม เราไม่เถียงว่าจอใหญ่ย่อมดีกว่าจอเล็ก แต่คุณก็ควรจะคำนึงถึงขนาดของห้องที่วาง tv ของคุณด้วย ถ้าขนาดห้องเล็กแต่ที่มี tv ที่ใหญ่เกินไปอาจทำให้คุณปวดเมื่อยต้นคอเวลาดูได้เพราะต้องคอยแหงนคอขึ้น ๆ ลง ๆ
2. อย่ามัวให้ความสนใจกับฟีเจอร์ที่ไม่ค่อยจำเป็น
tv หลายแบรนด์พยายามจะใส่ฟีเจอร์ที่ไม่ค่อยจำเป็นเข้ามาให้ดูล้ำ ๆ ในการทำการตลาด แต่เชื่อเถอะว่า ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ที่ว่ามานั้นไม่ค่อยมีประโยชน์กับคุณเท่าไหร่ ก่อนจะเลือกซื้อให้ลองถามตัวเองก่อนว่าฟีเจอร์เหล่านั้นมันจำเป็นสำหรับคุณจริง ๆหรือไม่
3. ไม่ต้องซื้อรุ่นใหม่ล่าสุดมากก็ได้
หลายคนเวลาเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจจะคิดว่าซื้อรุ่นใหม่ล่าสุดไว้ก่อนจะดีกว่า แต่เราขอแนะนำให้คุณเลือกทีวีรุ่นใหม่สุดที่ราคาสมเหตุสมผลพอที่คุณจะซื้อได้ และมีฟีเจอร์ที่จำเป็นครบถ้วนก็เพียงพอ ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามซื้อทีวีที่มีฟีเจอร์ HDR ไว้ด้วย จะได้รองรับกับ Content ในอนาคต
4. อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาของแบรนด์ต่าง ๆ มากจนเกินไป
อย่าที่บอกไปข้างต้นว่าทีวีบางแบรนด์ก็มักจะนำเสนอฟีเจอร์ที่ไม่ค่อยจำเป็น อย่าเพิ่งเชื่อคำกล่าวอ้างของแบรนด์ง่าย ๆ จนกว่าคุณจะได้ทำการศึกษาข้อมูลของทีวีรุ่นนั้น ๆ อย่างถ่องแท้ และควรไปทดลองดูของจริงให้เห็นกับตา รวมถึงเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติและราคาใกล้เคียงกันด้วย
5. อย่าลืมพิจารณาวัตถุประสงค์หลักในการใช้งานของตัวเอง
tv แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน เช่น ทีวีบางรุ่นอาจจะเหมาะสมกับการดูกีฬา บางรุ่นเหมาะสมกับการเล่นเกม ดังนั้นเวลาเลือกซื้อ คุณก็ควรคิดก่อนว่าคุณใช้ทีวีดูอะไรเป็นหลัก อย่าเพิ่งไปตัดสินใจซื้อตามเพื่อน เพราะเขาบอกว่ารุ่นนี้ดี เนื่องจากความต้องการใช้งานของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน
6. อย่าซื้อแค่เพราะเห็นว่าราคาถูก
แน่นอนว่าเวลาเลือกซื้ออะไร เราก็อยากจะซื้อของที่ราคาถูกกว่าไว้ก่อน แต่ราคาถูกในที่นี้คุณก็ควรจะเปรียบเทียบกับคุณภาพของสินค้าด้วย tv บางรุ่นมีราคาที่ถูกมากจริง ๆ แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้แล้ว ราคาที่ว่าถูกอาจจะไม่คุ้มค่าสักเท่าไหร่นัก สู้ยอมซื้อรุ่นที่ราคาสูงกว่านิดหน่อย แต่คุณภาพสมราคาดีกว่า อย่าตัดสินใจเลือกซื้อ tv เพียงเพราะราคามันถูกอย่างเดียว
7. ถูกไปก็ไม่ดี แพงไปก็ไม่ได้
อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าไม่ควรซื้อ tv  รุ่นที่ราคาถูกจนเกินไปนัก เพราะของถูกเกินไปมักมากับคุณภาพที่ไม่ดี ในทางกลับกัน คุณก็ไม่ควรจะซื้อ tv  ที่แพงเกินความจำเป็นด้วย! ส่วนใหญ่แล้ว tv ที่ราคาสูงมาก ๆ อาจจะมาจากดีไซน์ที่ดูสวยล้ำสมัย หากคุณไม่ได้มีความนิยมชมชอบกับดีไซน์เลิศหรูอลังการ ก็อาจจะมองข้ามจุดนี้ได้ เลือกที่พอเหมาะพอควรกับงบประมาณเราดีกว่าค่ะ


                เห็นไหมค่ะ ว่าการที่จะเลือกซื้อ tv ดี ๆ สักเครื่องนั้นใช่ว่าจะวัดกันที่ ราคา tv เพียงอย่างเดียวแต่มันยังมีรายละเอียดอะไร ๆ อีกหลาย ๆ อย่าง ที่จะช่วยให้คุณได้ tv ที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปและเหมาะสมกับการต้องการใช้งานของคุณได้มากที่สุดอีกด้วยค่ะ

#ราคาtv 

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563

การเลือกขนาดทีวีแอลอีดีให้มีระยะห่างที่เหมาะสมต่อการดูโดยที่ไม่เสียสุขภาพสายตา


                ทีวีแอลอีดีจัดว่าเป็นประเภทของทีวียอดนิยมมากที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ โดยจุดเด่นของทีวีแอลอีดีเลยคือ ให้สีที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติภาพสวยสีเข้มคมชัด กินไฟน้อยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงไม่แปลกเลยที่ในปัจจุบันใคร ๆ ถึงได้หันมาเลือกซื้อและเลือกใช้ทีวีแอลอีดีกันหมด นอกจากนี้ทีวีแอลอีดียังมีหลายขนาดให้ผู้ใช้เลือกซื้อได้ตามความต้องแต่ถ้าจะให้ดีก็ควรต้องคำนึงถึง ระยะที่เหมาะสมกับการใช้จอทีวีแต่ละขนาดด้วย เพราะหากระยะการรับชมที่ใกล้หน้าจอเกินไป อาจทำให้เกิดอาการปวดตาจากการรับแสงจากหน้าจอมากจนเกินไปจะเป็นอันตรายต่อดวงตาก็เป็นได้ แต่ถ้ามีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเยอะ ก็สามารถเลือกขนาดจอทีวีได้อย่างอิสระ โดยระยะที่เหมาะสมกับการดูทีวีแอลอีดีในแต่ละขนาดควรมีระยะห่างดังต่อไปนี้

                ระยะที่เหมาะสมกับการดูทีวีแอลอีดีในแต่ละขนาด
ระยะที่เหมาะสมกับจอทีวีแต่ละขนาด ด้วยขนาดจอทีวีที่ใหญ่ จะช่วยให้การรับชมภาพยนตร์ในทีวีได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น ระยะห่างในการรับชมทีวีที่เหมาะสม
·         ทีวีขนาด 26 นิ้ว ระยะห่าง 0.98 เมตร
·         ทีวีขนาด 32 นิ้ว ระยะห่า 1.25   เมตร
·         ทีวีขนาด 42 นิ้ว ระยะห่าง 1.58 เมตร
·         ทีวีขนาด 47 นิ้ว ระยะห่าง 1.76 เมตร
·         ทีวีขนาด 50 นิ้ว ระยะห่าง 1.9   เมตร
·         ทีวีขนาด 55 นิ้ว ระยะห่าง 2.06 เมตร
·         ทีวีขนาด 60 นิ้ว ระยะห่าง 2.25 เมตร
·         ทีวีขนาด 70 นิ้ว ระยะห่าง 2.63 เมตร


การเลือกขนาดทีวีแอลอีดีที่เหมาะกับระยะห่างในการรับชม จะช่วยให้การรับชมโทรทัศน์มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น ได้รับความละเอียดที่เหมาะสม แถมยังเป็นการถนอมสายตาของคุณจากการมองหน้าจอเป็นเวลานาน หรือแสงสะท้อนเข้าดวงตา ซึ่งจะส่งผลเสียกับสุขภาพสายตาในระยะยาวได้ค่ะ ดังนั้นควรเลือกซื้อขนาดของทีวีแอลอีดีให้เหมาะสมด้วยนะคะ 

#ทีวีแอลอีดี 

วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563

จอ monitor ราคาประหยัดคุณภาพอัดแน่นที่ควรมี


                  สำหรับบรรดาเกมเมอร์ คนที่ชอบดูหนัง ดูวิดีโอ ทำงานกราฟิก การมีหน้าจอมอนิเตอร์ (Monitor) ที่คมชัด ภาพสวยงาม ดูแล้วลื่นไหล ภาพไม่กระตุกหรือแตก ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังนั้นเวลาเลือกซื้อจอ monitor จึงต้องดูสเปคต่าง ๆ ของเครื่องให้ละเอียด ซึ่งตอนนี้บอกเลยว่าจอ Monitor นั้นมีอยู่มากมายหลายรุ่นหลากแบรนด์ และหลายช่วงราคา ทำให้การเลือกซื้อจอ monitor นั้นยากขึ้นไปอีก และยิ่งถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องรายละเอียดของจอคอมพิวเตอร์เลยก็อาจจะพลาดกันได้ง่าย ๆ เพราะอาจจะได้จอ monitor ราคาแพง ๆ ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานก็เป็นได้ ดังนั้นเพื่อที่จะให้ได้จอ monitor ราคาที่ดีสมเหตุสมผลกับการใช้งานก็ควรลองศึกษาถึงสเปคของเครื่องและความต้องการใช้งานก่อนซื้อให้ดี  ๆ แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงหรือเลือกแบบไหนดี ก็ตามมาทางนี้เลยค่ะ เพราะเราจะพาทุก ๆ คน ไปรู้จักกับหน้าจอ monitor ราคาถูกคุณภาพดีในปี 2019 เอามาฝากให้ทุก ๆ คนได้เอาไว้พิจารณากันด้วย พร้อมแล้วก็มาดูกันเลยค่ะ

                5 อันดับจอ monitor ราคาคุ้มค่ากับคุณภาพ

1.Philips 193V5LSB2/97
หากถามถึงจอ monitor ยี่ห้อไหนดีล่ะก็ แบรนด์ Phillips ต้องเป็นหนึ่งในรายชื่อติดอันดับด้วยแน่นอน รวมถึง Philips 193V5LSB2/97 รุ่นนี้ด้วย เพราะเปิดตัวมาพร้อมเทคโนโลยีในการผลิตหน้าจอมอนิเตอร์ให้แสดงภาพได้อย่างรวดเร็ว
2.AOC I2381FH/67
จอมอนิเตอร์หนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคนที่มองหา ใครที่เกิดคำถามเมื่อตอนต้นว่า จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่มีความคุ้มค่า แข็งแรงทนทานและคุณภาพดี AOC I2381FH/67 คืออีกคำตอบ เพราะมันมาพร้อมความอึด ถึก ทน ให้ภาพออกมาสวยงามพร้อมมุมกว้าง
3.SAMSUNG LS24F350FHEXXT
แบรนด์ราคากลาง ๆ คุณภาพเยี่ยม สำหรับจอ monitor ยี่ห้อไหนดีที่อยากแนะนำ คือจอคอมจาก SAMSUNG หน้าจอคอมรุ่นนี้ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานอเนกประสงค์ รวมถึงการใช้งานเพื่อความบันเทิง ให้สีสันคมชัดสะดุดตา สวยสมจริง พร้อมเทคโนโลยี Flicker Free ของ Samsung ช่วยลดการกะพริบของหน้าจอ ช่วยให้ใช้งานได้นานโดยไม่รู้สึกปวดล้าสายตา
4. Dell E2417H
ถ้ามีทุนเยอะขึ้นมาหน่อยจะเลือกจอ monitor แบรนด์ Dell คือคำตอบที่ขาดไปไม่ได้ของคนในวงการ เพราะการันตีด้วยความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ สำหรับ Dell E2417H เป็นหน้าจอที่มาพร้อมความคมชัดระดับ FULL HD ควบคุมการเปิด-ปิดกล้องบนหน้าจอมอนิเตอร์ด้วยปุ่มการสั่งงานเพียงปุ่มเดียว
อีกทั้งยังสามารถปรับเอนด้านหน้าได้ถึง 5 องศาและด้านหลังเอนได้ถึง 21 องศา สามารถใช้งานร่วมกับ PC รุ่นเก่า ๆ ได้ผ่านการเชื่อมต่อจากสาย VGA และ DisplayPort
5. ACER PREDATOR XB252Q 240HZ G-SYNC
หนึ่งในหน้าจอเกมเมอร์ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน กับ ACER PREDATOR XB252Q 240HZ G-SYNC จากแบรนด์ Acer แล้ว ออกแบบมาให้มีความเร็วสูงเป็นองค์ประกอบสำคัญ รองรับ NVIDIA® G-SYNC ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อหลายหน้าจอได้พร้อมกัน พร้อมมุมมองสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะอย่าง Predator GameView เพื่อการเล่นเกมและความบันเทิงแบบเหนือระดับ

                    ไม่ว่าจะเป็นจอ monitor ราคาถูกหรือแพงต่างก็เป็นตัวแสดงผลที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม ความบันเทิงและการทำงานอื่น ๆ หลายด้าน เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้ออย่าลืมดูก่อนว่าจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา และเลือกหน้าจอคอมที่คุ้มค่าที่สุดต่อการทำงานสำหรับเราค่ะ

#monitorราคา