วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563

สาเหตุใดบ้างที่ทำให้มือถือกล้องเทพถ่ายภาพไม่คมชัด


ปัจจุบันการแข่งขันของค่ายโทรศัพท์มือถือพัฒนาก้าวกระโดดมาก ยิ่งเทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปของมือถือ หลายรุ่นมีคุณสมบัติเพียงพอต่อการใช้งานแทนกล้องถ่ายรูปได้เลย จัดว่าเป็นมือถือกล้องเทพ สามารถถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูง สวยงาม คมชัด ได้อย่างน่าประทับใจ เพียงพอต่อการใช้งาน จนบางครั้งหลายคนก็พกเพียงแค่กล้องมือถือกล้องเทพตัวเล็ก ๆ ใส่กระเป๋าติดตัวออกไปเก็บภาพความประทับใจในโอกาสต่าง ๆ เช่น ไปท่องเที่ยว หรือในชีวิตประจำวันแทน พกพาได้สะดวก น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย หยิบขึ้นมาใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถถ่ายรูปเก็บไว้ดู ถ่ายลงโซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ หรือใช้ไลฟ์สดลงโซเชียล แต่ในทางกลับกันมันก็มีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกันซึ่งบางทีมือถือกล้องเทพรุ่นใหม่ ๆ เราก็ไม่สามารถที่จะมั่นใจได้เต็ม100ว่าทุกรูปที่ถ่ายออกมาจะต้องดูดี ภาพชัดเจนเสมอไปเพราะบางทีมันก็อาจมีเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมานั้นไม่ชัดเจนได้ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ

สาเหตุที่ทำให้มือถือกล้องเทพถ่ายภาพได้ไม่คมชัด
1.เลนส์ของมือถือ
เนื่องด้วยนี่คือกล้องถ่ายรูปที่เป็นโทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์มือถือที่สามารถถ่ายรูปได้ หมายความว่าคุณต้องหยิบจับมันบ่อย ๆ และมีโอกาสสูงมากที่เลนส์ของกล้อง (กระจกที่ครอบเลนส์) จะสกปรกจากรอยนิ้วมือ หรืออะไรก็ตาม ซึ่งจะมีผลต่อภาพที่คุณถ่าย ลองดูภาพข้างล่างนี้แล้วคุณจะรู้ว่ามันมีผลอย่างมาก เพราะฉะนั้นทำความสะอาดเลนส์ก่อนจะลั่นชัตเตอร์ถ่ายรูปด้วยค่ะ
2.การโฟกัสสิ่งที่จะถ่ายผิด
เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง เช่น การที่คุณถ่ายวัตถุใกล้ ๆ แต่เจ้ากล้องอัจฉริยะดันไปเลือกโฟกัสที่พื้นหลังแทน แต่เดี๋ยวนี้กล้องมือถือรุ่นใหม่ ๆ หลายตัว สามารถเลือกจุดโฟกัสได้เอง บางตัวก็ได้มากกว่าหนึ่งจุด น่าขอบคุณเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกให้มนุษยชาติจริง ๆ เพียงแต่คุณอย่าลืมเลือกจุดโฟกัสก่อนถ่ายเองละ อย่าไปหวังให้กล้องมันเลือกเลย บางครั้งก็ไม่ได้อย่างใจค่ะ
3.การถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อย
มีโอกาสสูงมากที่ภาพจะเบลอ ไม่ชัดเจน ถ้ามือของผู้ถ่ายนั้นไม่นิ่งพอ ในสภาวะที่แสงน้อย การที่คุณลั่นชัตเตอร์ไม่ได้หมายความว่าคุณได้รูปแล้วทันที คุณต้องให้เวลากับเซนเซอร์รับแสงมากกว่าการถ่ายภาพในภาวะแสงปกติ ก็คือในสภาวะแสงน้อยหลังจากที่คุณกดถ่ายแล้ว อย่าเพิ่งขยับกล้องมือถือของคุณค้างมันไว้ท่าเดิมสักครู่ รอจนภาพบันทึกเรียบร้อยแล้วค่อยขยับ ไม่นานหรอกค่ะ ใจเย็น ๆ ถ้าอยากได้ภาพสวย
4.การถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว ย่อมทำให้ภาพของวัตถุนั้นไม่ชัดเจน แต่เดี๋ยวนี้ก็มีฟีเจอร์ที่ใช้สำหรับถ่ายภาพเคลื่อนไหวในกล้องมือถือกล้องเทพหลาย ๆ รุ่น ก็ช่วยได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ก็เหมือนการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยนะคะมือนิ่ง ๆ ไว้ก่อน


ทีนี้คุณก็พอรู้สาเหตุที่ทำให้มือถือกล้องเทพของคุณถ่ายรูปออกมาไม่ชัดกันแล้วใช่ไหมละค่ะ ก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่คุณอาจจะมองข้ามมันไป รู้แบบนี้แล้วก็ลองเอาเทคนิคนี้ไปใช้ดูนะคะ บางทีคุณอาจได้รับประสบการณ์ดี ๆ ใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ กับการใช้มือถือเครื่องโปรดของคุณในการถ่ายรูปครั้งต่อ ๆ ไป ให้ออกมาได้อย่างสวยงามและน่าชื่นชมมากยิ่งขึ้นค่ะ
#มือถือกล้องเทพ

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2563

จุดเด่น จุดด้อยของจอมอนิเตอร์ 4k มีอะไรบ้าง


หน้าจอหรือ Monitor ถือเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการใช้งานอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ที่ปัจจุบันไม่ใช่แค่เครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ยังมีเครื่องเล่นเกมมือถือ หรืออุปกรณ์ไฮเทคอื่น ๆ ที่ต้องใช้การแสดงผลผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ตามความต้องการใช้งานของผู้ใช้แต่ละราย และตอนนี้ยิ่งมี Hardware ที่มีการรองรับจอ มอนิเตอร์ 4k  ก็ยิ่งทำให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมบน จอ มอนิเตอร์ 4k ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็แน่นอนค่ะ ว่าของใช้ทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อเด่นและข้อด้อยด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราจึงอยากที่จะรวบรวมทั้งข้อเด่นและข้อด้อยเอามาฝาก เผื่อใครที่กำลังวางแผนว่าจะซื้อหน้าจอ มอนิเตอร์ 4k มาใช้จะได้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ หรือถ้าใครที่ยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับตัวหน้าจอ 4k ว่ามันคืออะไรเป็นแบบไหนกันแน่ วันนี้เราก็เตรียมข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้คุณได้รู้จักกับหน้าจอ 4k มาให้ด้วย พร้อมแล้วก็มาดูกันเลยค่ะ

จอ 4k คืออะไร สำหรับจอ มอนิเตอร์ 4k เป็นจอที่มีความละเอียดสูงมาก คิดเป็น 2 เท่าของความละเอียด Full-HD โดยจะมีความละเอียดอยู่ที่ 3840 x 2160 พิกเซล โดยเราอาจจะมีชื่อเรียกอื่นสำหรับจอแบบ 4K ว่าเป็นจอแบ Ultra High Definition (UHD) สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับตอนนี้ก็จะเป็นเครื่องคอนโซลอย่าง PlayStation 4 Pro และ Xbox One X ส่วนผู้ใช้งาน PC ก็คงต้องเป็นคนที่มีการ์ดจอที่อยู่ในระดับที่สูงเล็กน้อย
ข้อเด่น
1.ขนาดจอที่ใหญ่กว่า สำหรับหน้าจอ มอนิเตอร์ 4k จะมีขนาดเริ่มต้นที่ 27 นิ้วทำให้ขนาดเริ่มต้นในการใช้งานจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าจอแบบ Full-HD อยู่พอตัว ทำให้ใครที่ตัดสินใจจะซื้อจอ 4k ก็จะได้รับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ตามมานั้นเอง
2.รายละเอียดในเกมที่คมชัด เมื่อเรานำมาใช้งานจริงจะได้รับประสบการณ์ภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นคือเราสามารถเห็นรายละเอียดในจุดเล็ก ๆ ได้ชัดมากขึ้น ได้เห็นมุมมองในส่วนภาพที่มีการจัดวางองค์ประกอบตื่นลึกหนาบางได้ชัดเจน ทำให้เราได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นนั้นเอง
3.กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ตอนนี้ก็ใกล้จะได้เวลาแล้วที่จอแบบ 4k จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ เฉกเช่นเดียวกับตอนนี้ที่จอแบบ Full-HD เป็นมาตรฐานของจอที่เราใช้งานนั้นเอง เพราะจอ 4k ตอนนี้ Hardware ต่าง ๆเริ่มที่จะทำออกมาให้รองรับกันมากมายยิ่งขึ้นนั้นเอง
ข้อด้อย
1.องค์ประกอบรอบข้างต้องดีด้วย สำหรับใครที่จะใช้งานจอ 4k ก็ต้องมี Hardware ที่ต้องมีประสิทธิภาพสูงอยู่พอสมควร โดยสำหรับการใช้งานจอให้เต็มที่ก็ต้องใช้งานการ์ดจอจำพวก GTX 1080 ขึ้นไป
2.ไม่ใช่ทุกอย่างจะรองรับ 4k ใครที่ใช้งานโปรแกรมหรือเล่นเกมเก่า ๆ หน่อยก็คงจะพอทราบว่าบางอย่างความละเอียด 4kมันไม่ได้รองรับในทุก ๆ อย่างที่ใช้งาน
3.ราคาสูงเอาเรื่อง ราคาเริ่มต้นสำหรับจอแบบ 4K ในไทยตอนนี้จะเริ่มที่ 10,000 บาทซึ่งหากเรานำไปเทียบกับจอแบบ Full-HD ถือว่าต่างกันพอสมควรประมาณ 6,000 บาทได้


               ข้อสรุป จะบอกในตอนนี้คือหากว่าคุณมีแผนที่จะซื้อหน้าจอ มอนิเตอร์ 4k อยู่แล้วก็สามารถที่จะซื้อได้เลยค่ะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ Hardware รอบ ๆ มากนัก เพราะถึงแม้เราจะซื้อจอแบบ 4k มาได้แต่ก็ใช่ว่าจะต้องเล่นบนความละเอียด 4k เสมอไปอาจจะซื้อมาแล้วนำมาปรับเป็น 2k แล้วเล่นก็จะได้ประสบการณ์ที่ไม่ได้ต่างจาก 4k มากนัก ฉะนั้นใครที่กำลังจะซื้อก็ซื้อได้เลยเรียกว่าแต่ละรุ่นนั้นก็เป็นจอคอม 4k ที่มีจุดเด่นจุดด้อยของตัวเอง ซึ่งการจะเลือกรุ่นไหนมาใช้งานนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการในฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงในส่วนของงบประมาณในกระเป๋าสตางค์ด้วยลองพิจารณาเลือกในสิ่งที่ลงตัวกับคุณมากที่สุดก็พอค่ะ

#จอมอนิเตอร์ 4k

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2563

เมื่อต้องซื้อจอคอมพิวเตอร์มาใช้ควรเลือกอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด


ตอนนี้บอกเลยว่าจอคอมพิวเตอร์นั้นมีอยู่มากมายหลายรุ่นหลากแบรนด์และหลายช่วงราคา ทำให้ยากต่อการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ ยิ่งถ้าคนที่ไม่ค่อยรู้ในเรื่องรายละเอียดของจอคอมพิวเตอร์เลย ก็อาจจะทำให้พลาดกันได้ง่าย ๆ บางทีอาจจะซื้อมาแพงเกินไปแล้วใช้งานได้ไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไป หรือไม่ตรงกับความต้องการใช้งานก็เป็นไปได้ ดังนั้นเราจึงอยากจะมาแนะนำเรื่องสำคัญก่อนที่จะทำการตัดสินใจเลือกซื้อ จอคอมพิวเตอร์สักตัวหนึ่งว่ามีสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ และทำความรู้จักก่อนอันดับแรก ๆ มีอะไรบ้าง อย่างน้อยเวลาเลือกซื้อจะได้ซื้อได้ตรงกับความต้องการของเราค่ะ

สิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์
เนื่องจาก LED คือเทคโนโลยีใหม่ที่ให้ทั้งภาพ สีสันสดใสกว่า ดังนั้น ในตลาดปัจจุบันส่วนใหญ่จึงเป็นจอภาพ LED แทบทั้งสิ้น สำหรับรายละเอียดนอกเหนือจากการเลือกซื้อจอ LED นั้นประกอบด้วย

1.ขนาดหน้าจอ (Size) ขึ้นต่ำแนะนำให้ซื้อ 20 นิ้วขึ้นไป เวลาวัดจะวัดในแนวเส้นทแยงมุม ไม่ได้วัดจากซ้ายไปขวา
2.ความละเอียด (Resolution) อย่างน้อยก็ควรเป็นระดับ HD หรือ 1920 x 1080
3.สัดส่วนหน้าจอ ส่วนใหญ่จะมีขนาด 16:9 ซึ่งเราเรียกว่า Widescreen หรือจะเลือกแบบเดิม ๆ คือ 5:4 ซึ่งมีชื่อว่า Squre (หน้าจอรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เป็น Widescreen ซึ่งเหมาะสำหรับการดูวีดีโอเป็นหลัก)
4.ขนาด Pixel (Pixel Pitch) ยิ่งมีขนาดเล็ก ยิ่งให้ความคมชัดสูงขึ้น เช่น 0.277 x 0.277 mm เป็นต้น ข้อสังเกต ยิ่งขนาดของ Pixel เล็กมากเท่าไหร่ ราคาก็แพงขึ้นเป็นเงาตามด้วยเช่นกัน
5.ความคมชัด (Contrast) ยิ่งมาก ยิ่งคมชัด ตัวอย่างเช่น Contrast 10,000,000:1 กับ 20,000,000:1 เป็นต้น 20,000,000 ย่อมแสดงความสว่างของภาพได้ดีกว่า
6.ลำโพง จอภาพบางรุ่นมีลำโพงในตัว แถมยังมีสายต่อให้มาอีกด้วย
7.พอร์ต (Ports) การเชื่อมต่อ เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อจอ ไม่ควรละเลย เพราะจะเป็นตัวบ่งบอกราคา และความคมชัดได้อีกอย่างหนึ่ง พอร์ตพื้นฐานที่มีคือ VGA / DVI / D-Sub และล่าสุดของพอร์ตก็คือ HDMI
8.เวลาในการแสดงผล (Response Time) ส่วนใหญ่ก็อยู่ประมาณ 5 ms ถ้ามากก็ยิ่งนานกว่าจะแสดงผลได้
9.ความมืด ความสว่าง (Brightness) จะอยู่ประมาณ 200 – 300 cd/m2

สุดท้ายนี้เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์มาใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถที่จะเลือกหน้าจอภาพที่ดีมีคุณภาพ ที่สำคัญคือสำรวจตนเองว่าต้องการใช้งานด้านใดเป็นหลัก ทำงานเอกสาร พิมพ์งานทั่วไป งานกราฟิก ดูหนัง หรือเล่นเกม เมื่อคุณรู้จุดประสงค์ในการใช้งานครบทุกข้อแล้ว ก็จะช่วยให้คุณสามารถเลือกหน้าจอที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้ค่ะ

 #จอคอมพิวเตอร์

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2563

เทคโนโลยีเพื่อการขนส่งกับความสำคัญและความจำเป็นที่เราต้องทราบ


               การคมนาคมเป็นหนึ่งในพื้นฐานของทุกอุตสาหกรรม เวลาคือเงิน ดังนั้นเราต้องมีวิธีการขนส่งที่มีประสิทธิภาพลองจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่ต้องเสี่ยงไปบนท้องถนน หรือสามารถส่งสินค้าได้ทันทีที่ลูกค้าสั่ง ซึ่งมันส่งผลดีทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีเพื่อการขนส่งมีการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย ๆ จนถึงปีที่ผ่านมา และตอนนี้มีเทคโนโลยีเพื่อการขนส่งที่กำลังเข้ามาอีกมากมายในอนาคต โดยสามารถแบ่งเป็นด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้

เทคโนโลยีเพื่อการขนส่งและความสำคัญของการขนส่งในด้านต่าง ๆ มี 3 ประการดังนี้
1.ความสำคัญของการขนส่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ เช่น ช่วยลดต้นทุนในการผลิต ส่งผลให้ราคาสินค้าลดลงสามารถขายผลผลิตทางการเกษตรได้ง่ายขึ้นเป็นการกระจายรายได้สู่ชนบท
2.ความสำคัญของการขนส่งต่อชุมชนและสังคม เช่นช่วยลดช่องว่างของสถานะทางสังคมของคนในชุมชน ระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เกิดการสื่อสารแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างชุมชน ไม่ว่าจะเป็นภายในภูมิภาค ระหว่างภูมิภาคหรือระหว่าง
3.ความสำคัญของการขนส่งต่อความมั่นคงของประเทศ เช่น ช่วยให้ประเทศเกิดความมั่นคงและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคตล้วนพยายามปรับตัวและมองหาเทคโนโลยีเพื่อการขนส่งใหม่ ๆ เข้ามาใช้ เพื่อลดเวลาในการจัดส่งและทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าทันทีที่ต้องการธุรกิจค้าปลีกออนไลน์และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ระบบดิจิทัลในรถบรรทุกจะทำให้นายหน้าขนส่งสินค้าแบบดั้งเดิมปรับรูปแบบธุรกิจสู่โซลูชั่นประเภทนายหน้าขนส่งสินค้าบนมือถือแทนผ่านแอพพลิเคชั่นบนหน้าจอ เพราะอนาคตทุกธุรกิจจะมุ่งสู่บริการออนไลน์มากขึ้น
ปัจจุบันเทคโนโลยีเพื่อการขนส่งต่าง ๆ ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “Internet Of Thing (IoT)”  Big Data Analytic หรืออีกมากมาย ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเหล่านี้มีส่วนที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทางด้านโลจิสติกส์เป็นอย่างมากเช่น
1. การประยุกต์ใช้ IoT, RFID และ AIDC เพิ่มขึ้น
2. การนำ Bluetooth Technology มาใช้มากขึ้น
3.  การเติบโตของโซลูชั่นสำหรับธุรกิจ e-Commerce


ดังนั้นการค้าขายออนไลน์ (e-commerce) จะเป็นการดำเนินธุรกิจแบบ B2C ซึ่งส่งผลตามมาต่อธุรกิจขนส่ง เพราะธุรกิจขนส่งจะต้องมีการใช้ฐานข้อมูลที่มาจากแหล่งต่าง ๆ ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการให้บริการ ตลอดจนการติดตามสถานะของสินค้าระหว่างการขนส่ง ซึ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจ on-line อย่างมาก เพื่อช่วยให้กระบวนการเก็บข้อมูล และ การวิเคราะห์เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนของธุรกิจ และที่สำคัญคือ ช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ราคา ผลตอบรับ/ความพึงพอใจของลูกค้า ความเชี่ยวชาญ ประสิทธิภาพในการทำงาน และอื่น ๆ เพื่อดูว่า บริษัทใดที่สามารถขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว มีความถูกต้องแม่นยำ มี solutions ที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสินค้าของธุรกิจนั้น เมื่อความต้องการของเราไม่สิ้นสุดการมีเทคโนโลยีเพื่อการขนส่งใหม่ ๆ ออกมาจะช่วยตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ได้ แต่ก็มีบางอย่างที่ควรใช้เฉพาะกลุ่มเป็นอย่างมากและแน่นอนว่าพวกมันช่วยทำให้ชีวิตเรามีคุณภาพขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งบริษัทที่ปรับตัว ได้สำเร็จและทันการณ์ก็จะได้ประโยชน์ ส่วนบริษัทที่ปรับตัวไม่ทันก็อาจจะต้องหลุดออกจากเกมการแข่งขันในที่สุด

#เทคโนโลยีเพื่อการขนส่ง

วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563

curved tv ทีวีจอโค้งกับหลากหลายเหตุผลที่คุ้มค่าต่อการซื้อ


แม้ว่าทีวีจอโค้ง หรือ curved tv จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 3 ปีแล้ว แต่ปัจจุบัน สัดส่วนการใช้งานของ curved tv ในไทยยังอยู่ที่ราว 30% ของตลาดเท่านั้น โดยเหตุผลหลักที่ผู้บริโภคไม่กล้าเลือกซื้อทีวีจอโค้ง คือ คิดว่าระดับราคาของทีวีจอโค้งจะสูงจนไม่สามารถซื้อหามาใช้ได้ทีวีจอโค้ง หรือ curvedtv ถือเป็นจอทีวีที่มีความโดดเด่นในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนความสวยงามก็ช่างแตะตาและดูดีแบบสุด ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าทีวีจอโค้งนั้นนอกจากความสวยแล้วยังมีข้อดีอย่างอื่นอีกเยอะเลย ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ

จุดเด่นของ curved tv ที่จะทำให้คุณตกหลุมรัก
1.ทีวีจอโค้งจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูทีวี
 ธรรมชาติลูกตาของเราจะมีความกลมเพื่อให้มองเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัว ดังนั้นความโค้งของจอทีวีจะช่วยให้อรรถรสของการรับใกล้เคียงกับการมองเห็นภาพตามจริงยิ่งขึ้นไปอีก
2. บริเวณริมขอบจอแบบโค้งจะให้ความชัดเจนมากกว่าทีวีธรรมดา
 เพราะจอภาพโค้งจะมีการไล่ภาพตามความโค้งของกระจกตาได้ดีกว่าจอภาพแบบแบน บริเวณริมภาพจึงให้ความคมชัดมากกว่าจอธรรมดา และจุดเด่นนี่เองที่ยิ่งจอใหญ่มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งครอบคลุมรัศมีการมองเห็นเป็นมุมโค้งตามกระจกตาได้ดียิ่งขึ้น
3. คุณจะรู้สึกได้ถึงความลึกของภาพ
 ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูภาพ 3 มิติเพราะจอภาพแบบโค้งจะทำให้ภาพมีการไล่ระดับความลึก (ตรงกลางของจอภาพจะเว้าลึกลงไป และขอบจอจะตื้นขึ้นมา) มีการนำเทคโนโลยีการแสดงภาพเชิงลึกเข้ามาใช้งานในทีวีจอโค้ง ทำให้ภาพที่ได้ยิ่งดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
4. คุณจะรู้สึกถึงการรับชมที่กว้างขึ้นในแบบฉบับ curved tv
ด้วยความโค้งของจอที่ด้านข้างทั้งสองด้านให้ความรู้สึกของภาพในมุมที่กว้างกว่าทีวีจอแบนทั่ว ๆ ในขณะรับชมเพราะจอโค้งที่ครอบคลุมรัศมีการมองเห็นของลูกตา จึงทำให้ได้รับมิติในการรับชมที่สมจริงมากยิ่งขึ้นและกว้ามากขึ้น ไม่รู้สึกเหมือนภาพถูกตัดแบบทีวีจอธรรมดา
5. ให้สีที่ตัดกันอย่างเด่นชัดอย่างสมจริง
เพราะทีวีจอโค้งมีการให้น้ำหนักสีไปที่จุดรวมสายตา หรือส่วนที่เว้าลึกที่สุดของจอ ไม่ได้กระจายน้ำหนักสีไปทั่ว ๆจอเหมือนกับทีวีจอธรรมดา ดังนั้นความสดของสีและการตัดกันของสีที่เด่นชัดจึงทำใหภาพที่ได้มีความสดและสมจริง
6. มุมมองการรับชมที่กว้างขึ้นกว่าเดิม ในหลาย ๆ ครั้งเราจะสังเกตว่าเวลามองทีวีจอแบนธรรมดาจากด้านข้างภาพจะดูซีด ๆ และมองไม่ชัดเจน ในขณะที่ทีวีจอโค้งนั้นแค่นั่งอยู่หน้าทีวีโดยไม่ต้องอยู่ตรงหน้าจอพอดีเป๊ะ ภาพที่ได้ก็จะยังมีความคมชัด ไม่ซีดไม่เลือน และที่สำคัญอรรถรสอยู่ครบ


สุดท้าย คือ ในส่วนของ curved tv ไม่ได้เป็นเพียงโทรทัศน์ทั่วไป โดยความสมาร์ทของ curved tv จะประกอบส่วนหลัก ๆ คือ เรื่องของ “Smart View” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อแชร์คอนเทนต์จากมือถือมาสู่ทีวีได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการแชร์รูปภาพ วิดีโอ หรือจะใช้ในการแชร์คอนเทนต์จากยูทูปมาฉายบนทีวี โดยไม่ต้องเปิดทิ้งไว้ที่จอสมาร์ทโฟนก็ทำได้ แถมบางแบรนด์มีการนำซีรีส์เกาหลี มาแปลซับไทยให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันฟรี ๆ รวมถึงในอนาคตจะมีการนำคอนเทนต์เพิ่มเติมจากผู้จัดละครในไทย และพันธมิตรทั้งหลายมาฉายให้ชมกันตามต้องการอีกด้วย ซึ่งสามารถดูได้ผ่านระบบ WiFi ที่สำคัญคอนเทนต์เหล่านี้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แถมยังถูกลิขสิทธิ์อีกด้วย สนใจก็ไปหามาไว้ติดบ้านนะคะ

#curvedtv

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2563

ข้อมูลเด็ด ๆ ของมือถือ 5g ที่สายไอทีไม่ควรพลาด


                     ต้องบอกเลยว่าในทุกวันนี้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารถือว่าเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ ทุกคนจะให้ความสนใจและใส่ใจกันเยอะ เพราะการทำงานแทบจะทุก ๆ อย่างล้วนต้องใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานด้วยเสมอ ถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญของการทำงานเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่เราได้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารนี้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่อย่างเสมอ โดยก่อนจะมาเป็น มือถือ 5g นั้น เราขอย้อนรำลึกถึงรุ่นเก่าให้ฟังสักนิดหนึ่งว่ามันมีความแตกต่างกันตรงไหนบ้าง เริ่มตั้งแต่ 1g เป็นยุคที่เราคุยกันผ่านเสียงผ่านมือถือระบบอนาล็อก ยุค 2g ส่งข้อความ MMS หากันได้ ต่อมาในยุค 3g เราเชื่อมต่อและเล่นอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือได้ด้วยความเร็วที่สูงขึ้นระหว่าง 20 kbps ถึง 42.2 Mbps พอมาถึงยุค 4g นั้นเราสามารถดูภาพและเสียงหรือหนังออนไลน์พอได้เพราะความเร็วที่เพื่มขึ้นเช่น 4G LTE (100 Mbps), 4G LTE Cat.4 (150 Mbps) และ 4G LTE Advanced (1,000 Mbps) และในปัจจุบันเรากำลังที่จะก้าวสู่ยุค 5g  ที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตธรรมดาให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยในยุค 5g นี้การสื่อสารมันจะไม่ใช่แค่มือถือแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตได้ ว่ากันว่าถ้าเรามี 5g เราจะดาวน์โหลดวีดีโอ หนังหรือแอปฯ ได้เร็วถึง 10,000 Mbps! ถ้าใช้ 4g ดูวิดีโอออนไลน์ (ขนาด 8K) หรือดาวน์โหลดหนังต้องรอ 6 นาที แต่ถ้ามี 5g ใช้เวลาแค่ 6 วินาที! และก็ยังมีข้อดีในด้านอื่น ๆ อีกเพียบเอาเป็นว่าจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลย

                ประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้มือถือ 5g
1.ตอบสนองไว สามารถสั่งงาน และควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่าแทบจะทันที เนื่องจากมีความหน่วงที่ต่ำ ตอบสนองได้ไวถึง 1 ส่วนพันวินาที
2.รองรับการ รับ-ส่ง ข้อมูลได้มากกว่า ถ้าเป็น 4g จะสามารถ รับ-ส่ง ข้อมูลได้ราว 7.2 Exabytes ต่อเดือน แต่สำหรับ 5gจะเพิ่มขึ้นราว 7 เท่า หรือ 50 Exabytes ต่อเดือน
3.เร็วแรงกว่าเดิม 5g มีความเร็วมากกว่า 4g ถึง 20 เท่า ซึ่งเร็วมากพอที่จะดูวิดีโอ 8K ออนไลน์แบบ 3 มิติ หรือดาวน์โหลดภาพยนตร์ 3 มิติ ได้ในภาย 6 วินาที
4.ความถี่ให้เลือกใช้มากกว่า 5g จะสามารถใช้งานคลื่นความถี่ได้จนถึง 30GHz ซึ่งเป็นความถี่ย่านใหม่ที่ไม่เคยมีการใช้งานมาก่อน
5.รองรับการใช้งานที่มากกว่า รองรับจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 10 เท่า จากที่สามารถรับคนได้ราว 1 แสนคนต่อพื้นที่ 1 ตร.กม. กลายเป็น 1 ล้านคนต่อพื้นที่ 1 ตร.กม.


                นอกจากเทคโนโลยีด้านการสื่อสารแล้ว เทคโนโลยี 5g ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อจำนวนมาก ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต อาทิเช่น รถยนต์ไร้คนขับ การผ่าตัดได้จากระยะไกล หุ่นยนต์ในโรงงาน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานซึ่งถือว่ามีความเร็วมากกว่าเทคโนโลยี 4g เกิน 10 เท่า รวมถึงช่วยให้เกิดการใช้งาน AR และ VR ในกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การสำรวจภาคสนาม การสาธารณสุขทางไกล ความบันเทิง และท่อส่งข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการเข้าถึงการใช้งาน Cloud Computing ซึ่ง 5g ช่วยพัฒนาศักยภาพของระบบค้าปลีก การซื้อของออนไลน์ รวมถึงการใช้งานต่าง ๆ ได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่เราจะใช้เทคโนโลยีของ 5g ได้ เราต้องมีมือถือที่สามารถรองรับเทคโนโลยี 5g ได้ ซึ่งตอนนี้ในประเทศไทยที่มีมือถือที่รองรับ 5g หรือเป็นมือถือ 5g  อย่างเป็นทางการ ก็คือ Galaxy S20 Ultra 5G ของ Samsung หากใครที่สนใจก็ลองหาซื้อมาใช้กันดูนะคะ รับรองว่าฟินแน่นอนค่ะ

#มือถือ5g

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

เมื่อต้องซื้อหูฟังออกกำลังกายจะเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ


หูฟังออกกําลังกาย นั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ในยุคสมัยนี้ กระแสรักสุขภาพและออกกำลังกายก็ยังคงมาแรง จนทำให้ใครหลายคนเริ่มอยากจะเข้ายิมเพื่อฟิตหุ่นสวยกับเขาบ้าง แต่ว่าการออกกำลังกายนั้น นอกจากร่างกายที่ต้องพร้อมแล้ว การมีหูฟังออกกำลังกายดี ๆ สักอันหนึ่ง ก็ถือเป็นเรื่องที่ขาดไปไม่ได้เลยเช่นกัน แล้วมีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากซื้อ หูฟังวิ่ง เรามีคำแนะนำทั้งเรื่องของการเลือกซื้อที่รับรองเลยว่าจะช่วยให้คุณสนุกสนานและออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่แน่นอน

วิธีเลือกซื้อหูฟังออกกำลังกายให้เหมาะสม

1. สวมแล้วไม่หลุดง่าย
 คุณสมบัติที่สำคัญสำหรับหูฟังออกกำลังกาย ที่ต่างไปจากหูฟังเพลงทั่วไป ไม่ใช่คุณภาพเสียงที่ดีแต่เป็นสวมใส่แล้วต้องไม่หลุดเนื่องจากการออกกำลังกายจะมีการเคลื่อนไหวร่างกายไปมาอยู่ตลอด ลองนึกสภาพดูหากว่าคุณกำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่ ประเดี๋ยวหูฟังก็หลุด ต้องใส่ใหม่ อีกเดี๋ยวก็หลุดอีกเป็นแบบนี้ไปตลอดการออกกำลังกาย คุณยังจะอยากที่จะใช้หูฟังอันนั้นฟังเพลงขณะออกกำลังกายอีกหรือไม่ ?แน่นอนว่า หูฟังที่สวมแล้วหลุดอยู่ตลอดเวลาเมื่อออกกำลังกาย จะทำให้การฟังเพลงขณะออกกำลังกายน่าเบื่อ แทนที่จะรสึกสนุกหูฟังสำหรับออกกำลังกายแต่ละยี่ห้อจะออกแบบมแตกต่างกัน ในการที่จะทำให้หูฟังไม่หลุดง่ายซึ่งมีทั้งแบบมีที่เกี่ยวหู คาดท้ายทอย คาดศีรษะ และ อื่น ๆ

2. กันน้ำหรือไม่
 ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่คุณออกกำลังกาย หากคุณออกกำลังกายในโรงยิม ตามฟิตเนส ต่าง ๆคุณสมบัติในการกันน้ำอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นแต่ถ้าคุณออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง เช่น วิ่งที่สวนสาธารณะ หรือ ปั่นจักรยาน มีความ  เป็นไปได้สูงที่คุณอาจจะต้องเจอฝนตก ในขณะที่ออกกำลังกายหากเป็นเช่นนี้แล้ว ควรเลือกหูฟังออกกำลังกาย ที่กันน้ำได้ จะดีกว่า

3. มีสาย
หรือ ไร้สาย ทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปสำหรับคนที่รำคาญกับสายของหูฟัง รู้สึกว่าสายหูฟังเป็นปัญหาอย่างมากก็มีทางเลือกที่จะซื้อหูฟังที่เป็น (Bluetooth)แต่ก็ต้องเสียเงินที่แพงกว่า ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงระยะเวลาของแบตเตอรี่ในการใช้งานแต่ละครั้ง ว่าเพียงพอกับระยะเวลาที่คุณออกกำลังกายหรือไม่แต่หากเลือกหูฟังออกกำลังกายแบบมีสาย ก็จะซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่า และก็ไม่ต้องกังวลกับ ปริมาณแบตเตอรี่

4. คุณสวมแว่นตา หรือ แว่นกันแดดด้วยหรือไม่
 เป็นเรื่องที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงตอนที่เลือกซื้อ แต่กลายมาเป้นปัญหาได้ในภายหลังหากต้องสวมแว่น หูฟังประเภทครอบหูทั้งหมด หรือ เกี่ยวกับหูในตำแหน่งเดียวกับขาแว่นตา อาจทำให้คุณสวมแว่นตาไม่ได้ หรือ ไม่สะดวกในการสวม

5. ราคา
 หูฟังสำหรับออกกำลังกาย มีหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่น และหลายราคาราคาที่สูงกว่า จะมีลูกเล่นเพิ่มเติมที่มากกว่า แต่บางครั้งสิ่งที่เพิ่มเติมมาอาจไม่จำเป็นสำหรับคุณเลยก็ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่คุณมี หากมีมากหน่อยก็ซื้อหูฟังเกรดพรีเมี่ยมคุณภาพสูง แต่ถ้างบประมาณมีจำกัดและไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยนัก เลือกซื้อหูฟังที่มีราคาเหมาะสมครอบคลุมฟังก์ชั่นที่ต้องการก็พอแล้ว


ทั้งหมดนี้คือข้อแนะนำในการเลือกซื้อหูฟังออกกำลังกายที่เรานำมาบอกกล่าวอย่างไรก็ตามด้วยความรักและปรารถนาดี อยากแนะนำทิ้งท้ายสำหรับผู้ออกกำลังกายในสถานที่ซึ่งอันตราย เช่น ปั่นจักรยานบนถนนควรจะระมัดระวังด้วย เพราะหากคุณฟังเพลงเสียงดัง จะทำให้ไม่ได้ยินเสียงรถที่วิ่งผ่านไปมาอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าประมาทเวลาออกกำลังกายนะคะ
#หูฟังออกกําลังกาย

วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

ระหว่างการซื้อ smart tv ใหม่กับทีวีเก่าแต่ซื้อเครื่องเล่นอันไหนดีกว่าตรงนี้มีคำตอบให้คุณ

สำหรับ smart tv นั้น เป็นทีวีที่ถูกพัฒนาเพื่อรองรับความเติบโตของเทคโนโลยีไร้สาย จากผลพวงของการพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบสมาร์ทโฟนที่แทบทุกคนต้องมีในครอบครอง เพื่อใช้เสพความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนครบรส จึงได้มีการพัฒนาทีวีจากเดิมที่เน้นการคิดค้นเทคโนโลยีด้านจอภาพและฟังก์ชั่น มาสู่การเป็นทีวีที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เพื่อตอบสนองให้ผู้บริโภครับความบันเทิงได้อย่างเต็มอรรถรสขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับเจ้า smart tv ว่ามีความสมาร์ทและฉลาด อย่างไรบ้างค่ะ

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ smart tv
smart tv คือการผสมผสานระหว่างคอมพิวเตอร์และทีวี ที่จะมีคุณสมบัติเหมือนกับโทรทัศน์ดิจิทัลทั่วไปพร้อมทั้งความสามารถในการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้อย่างดีเยี่ยม smart tv สามารถที่จะติดต่อกับผู้ใช้งาน หรือ User Interface ที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ มาใช้งานควบคู่ไปได้อย่างที่ต้องการ ปัจจุบันก็มีผู้ผลิตสมาร์ททีวี เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น tv lg , samsung tv, Sony หรือ Sharp เป็นต้น smart tv ไม่ใช่แค่สามารถเชื่อมกับอินเตอร์เน็ตเข้าสู่ สมาร์ททีวี ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถที่จะเชื่อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น การเชื่อมสมาร์ททีวีกับ กล้อง รวมถึงอุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ ที่สมาร์ททีวีเปรียบเสมือนกับคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอใหญ่พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้คุณอย่างง่ายดาย แถมยังอุดมไปด้วยฟังก์ชั่นคุณภาพที่จะรองรับให้คุณเล่นได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีติดขัด สนุกกับการท่องโลกออนไลน์ไปพร้อม ๆ กับการรับชมรายการโปรดหรือหนังเรื่องบนโทรทัศน์ที่คุณอยากดูได้อย่างอิสระ
ระหว่างการซื้อ smart tv ใหม่กับทีวีเก่าแต่ซื้อเครื่องเล่นอันไหนดีกว่ากัน ?
อันนี้แล้วแต่ความต้องการและงบประมาณ ถ้าหากคุณมีทีวีธรรมดาอยู่แล้วแต่อยากดู Youtube หรือ Netflix (อย่าลืมว่าต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อนนะ) ทางเลือกแรกคือซื้อเครื่องสตรีมมิ่งราคาไม่แพง เช่น Chromecast มาเป็นตัวกลางในการอัพเกรดความบันเทิงในบ้านก็ได้ หรือถ้ามีงบสูงขึ้นมาอีกหน่อย Media Player อย่าง Apple TV ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีแอพฯ ให้เลือกเยอะ คอนเทนต์ที่หลากหลายแถมยังใช้ระบบ AirPlay ได้ด้วย เหมาะกับคนที่ใช้ iPhone อยู่แล้ว


อย่างไรก็ตาม ถ้าทีวีของคุณเก่ามากและถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ สมัยนี้ราคาของ smart tv ก็ถูกลงกว่าเมื่อก่อน (และมีการทำโปรโมชั่นดี ๆ ออกมาอยู่เรื่อย ๆ) การเปลี่ยนเป็น smart tv เลยก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่ต้องจำไว้ด้วยว่าราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดคุณภาพของ smart tv แต่ละรุ่น เพราะในรุ่นที่ีราคาสูงกว่า เราอาจจะได้ทีวีที่ทำงานได้เสถียรกว่ารุ่นราคาถูกหรือให้ภาพสวยกว่า เพราะมีความละเอียดสูงกว่าและมีชิพประมวลผลภาพที่ทำงานได้ดีกว่าเป็นต้นค่ะ

#smarttv

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563

เทคนิคในการเลือก tablet ราคาถูก และได้คุณภาพดีที่ไม่ควรพลาด


tablet ถือเป็นอุปกรณ์ไอทีอีกชิ้นหนึ่งที่คนส่วนใหญ่พกพาไว้เพื่อใช้เรียน ทำงาน และเพื่อความบันเทิง ใครที่กำลังมองหา tablet แบบไหนดีที่น่าใช้บ้างและ tablet ราคาถูกคุณภาพดี โดยปัจจุบันก็มี tablet มากมายหลายยี่ห้อที่แข่งกันผลิตออกมาให้เลือกซื้อ ซึ่งจะมีความต่างกันในเรื่องของ รูปร่าง ขนาด ระบบปฏิบัติการ ราคาที่แตกต่างกัน จนคุณไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นดูจากตรงไหนก่อนหรือหลังดี หากใครที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่ละก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้เราจะบอกถึงวิธีเลือกซื้อ tablet ราคาถูกคุณภาพดี ที่เหมาะสำหรับการใช้งานเอามาฝากให้กับทุก ๆ คนด้วยพร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ

วิธีเลือก tablet ราคาถูกคุณภาพดีที่สุดสำหรับคุณ

1. คุณต้องการ tablet ทำอะไร
คุณต้องทราบจุดประสงค์ของตัวเองก่อนว่าคุณต้องการใช้งานในด้านไหน อาทิเช่น ต้องการใช้สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ตเพื่อดูภาพยนต์ หรืออาจจะบ้างช่วงเวลาที่เล่นเกมบางเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนั้นก็ดูเหมือนว่า iPad Pro จะเป็นตัวเลือกไม่เหมาะสำหรับคุณเท่าไหร่ เพราะคุณแค่ใช้เล่นอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่จงซื้อที่เหมาะสมตามจุดประสงค์การเล่นของคุณ เพื่อความคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด

2. ระบบปฏิบัติการของ tablet
ระบบปฏิบัติการของ tablet ไม่ว่าจะเป็น iOS Android หรือ Windows นั้นล้วนแล้วแต่เป็นระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความถนัด และความชอบส่วนบุคคลมากกว่า หากคุณไม่ได้ยึดติดกับการใช้ผลิตภัณฑ์ในเครือเดียวกัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำคัญว่าคุณจะใช้อะไร เพราะที่จริงแล้วปัญหาการอ่านหรือจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ นั้นเราสามารถทำได้บนพื้นที่บริการเก็บข้อมูลบนคลาวด์ อาทิเช่น Dropbox, Google Drive หรือ OneDrive เป็นต้น

3. พื้นที่เก็บข้อมูล
หากเป็นเมื่อก่อนพื้นที่เก็บข้อมูลถือนั้นถือเป็นตัวเลือกที่เราไม่ควรมองข้าม หากเรามีความจำเป็นในการใช้พื้นที่เยอะ ๆ แต่เนื่องจากสมัยนี้มีบริการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้แล้ว ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้พื้นที่เท่าไหร่ก็ได้ตามที่เราต้องการ และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายไม่ว่าคุณจะล็อกอินด้วยอุปกรณ์เครื่องใดก็ตาม ไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลจะสูญหายอีกด้วย

4. ใช้งานในการวาดหรือเน้นงานออกแบบหรือไม่ หากคุณต้องการใช้งานในด้านนี้เราขอแนะนำว่า ระบบปฏิบัติของ iOS และ Android ดูเหมือนจะทำออกมาได้ดีกว่าระบบปฏิบัติของ Windows
สำหรับจุดซื้อ tabletราคาถูก ที่เน้นความประหยัดแต่คุณภาพดีตัวแรกที่เราอยากแนะนำก็คือ
 การซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้และสามารถส่งตราจเช็คได้เมื่อมีปัญหา เลือกรุ่นที่เจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเป็นหลัก ทำให้มีสินค้าราคาไม่แพงแต่สเปคคุ้มๆออกมามากมาย ซื้อให้ผู้ใหญ่ก็อย่าลืมเลือกที่เหมาะกับคนสูงอายุด้วยล่ะ ลองนำเสนอนวัตกรรมใหม่ 2020 ก็เป็นอีกทางเลือกสนุกๆ ที่น่าสนใจค่ะ หลายยี้ห้อที่ปรับราคาให้ถูกลงค่อนข้างมาก (หรือช่วงที่ตกรุ่นรอนิดหน่อยก็ได้รุ่นที่ถูกใจแล้ว)ค่ะ


จริง ๆ แล้ว “ราคา” อาจเป็นสิ่งที่หลายคนกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าจะให้งบกับมันเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม เราก็อยากให้ทุกคนนำปัจจัยทั้งหมดเอามาเปรียบเทียบกันด้วย โดยให้ราคาเป็นส่วนหนึ่งของการเปรียบเทียบแทน เพื่อหาความคุ้มค่าให้มากที่สุด อย่างบางรุ่นอาจจะเกินงบที่เราตั้งไปแค่หลักร้อย แต่สเปคแรงกว่าเยอะ ถ้าเราเลือกตัดช้อยส์นี้ไปแต่แรก เราก็อาจมาเสียดายภายหลังได้ อีกสิ่งที่สำคัญคือ บริการหลังการขาย ถ้าเกิดเครื่องมีปัญหาขึ้นมา จะส่งซ่อมที่ไหน  มีประกันกี่ปี ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าอย่างไร เพราะถ้าได้ tablet ราคาถูก ของแถมจะเยอะยังไง ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ มันก็จบค่ะ ข้อนี้อย่าลืมถามพนักงานขายให้ชัดเจนด้วยนะคะ

#tabletราคาถูก