เหตุผลสำคัญที่ทำให้มือถือสำหรับธุรกิจมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น

                 ในทุกวันนี้ต้องบอกเลยว่ามือถือนั้นจัดว่าเป็นทุกอย่างให้กับเราแล้วจริง ๆ ทั้งให้ความบันเทิง สาระ ความรู้ต่าง ๆ รวมถึงการทำงานในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การติดต่อสื่อสาร การส่งเมล์ การจดบันทึก ถ่ายรูป หรือแม้แต่บันทึกเสียง เพียงแค่คุณมีมือถือเครื่องเดียวคุณก็สามารถทำตามที่เราเอ่ยมาได้ทั้งหมด จัดว่าเป็นมือถือสำหรับธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยค่ะ ยิ่งในยุคปัจจุบันผู้คนต่างใช้มือถือเพื่อการทำธุรกิจกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าออนไลน์ และอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้จึงทำให้ทุกธุรกิจควรมีเว็บหรือแอพที่สามารถใช้งานได้ง่ายผ่านมือถือออกมาเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการใช้งานของผู้บริโภคที่สุด โดยมีเหตุผลที่สำคัญหลัก ๆ อยู่ดังต่อไปนี้

                เหตุผลสำคัญที่ทำให้มือถือสำหรับธุรกิจมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น

1. สามารถเชื่อมต่อกับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

ถ้าหากตั้งคำถามให้ลองย้อนคิดดูว่ามีกิจกรรมอะไรในชีวิตของเราบ้างที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้ หลายคนคงอาจจะนึกไม่ออก เพราะในยุคนี้แทบทุกกิจกรรมที่เราทำจะถูกผูกไว้กับสมาร์ทโฟนแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ถ่ายรูป และอื่น ๆ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ถ้าอยากจะออกกำลังกายคุณก็ต้องโหลดแอพ จะทำอาหารก็ต้องเปิดหาสูตร จะเดินทางไปไหนก็ต้องใช้เป็นแผนที่ หรือแม้แต่การอ่านหนังสือในยุคนี้ก็ยังต้องอ่านผ่านมือถือ ด้วยความที่สามารถเชื่อมต่อกับทุกกิจกรรมของผู้ใช้งานได้แบบนี้จึงไม่แปลก ที่มือถือจะกลายเป็นปัจจัยที่คนทุกคนจะขาดไปไม่ได้เลย

2. ช่วยลดต้นทุนทั้งในด้านค่าใช้จ่าย และเวลา

ต้องยอมรับว่าสมาร์ทโฟนนั้นเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตของเราได้อย่างมาก เพราะในปัจจุบันเราสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ผ่านมือถือเพียงเครื่องเดียว เราจะสั่งสินค้าข้ามโลกก็ได้ จะส่งข้อความคุยกับเพื่อนก็ฟรี หรือจะจ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟก็ทำได้ทันทีที่บ้านโดยไม่ต้องเดินทางไปไหน ดังนั้นการซื้อสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องเป็นเหมือนการลงทุน เพื่อช่วยเราลดต้นทุนเรื่องค่าใช้จ่ายและเวลา

3. มีการแข่งขัน และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งเหตุผลหลัก ๆ ที่สมาร์ทโฟนสามารถเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างรวดเร็วก็เพราะว่า มันเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และมีการแข่งขันกันระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุดเพื่อที่จะดึงดูดผู้บริโภคมาใช้ให้ได้ ดังนั้นเราจึงจะได้เห็นนวัตกรรมเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนที่ล่อตาล่อใจออกมาอยู่เสมอ ๆ ถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนยี่ห้อต่าง ๆ จะมีข้อจำกัดอย่างราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ กับการตลาดที่พยายามบีบให้ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่อยู่ตลอด แต่ด้วยประโยชน์ที่มือถือสามารถมอบให้ ทำให้ผู้ใช้งานยังมองว่านี่คือสิ่งที่จำเป็นกับชีวิต และก็ยังใช้งานกันต่อไป

   จะเห็นได้ว่าการใช้มือถือไม่ใช่เพียงเพื่อความบันเทิงอย่างเดียวแต่มันยังครอบคลุมในเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นมือถือสำหรับธุรกิจในหลาย ๆ ด้าน จริง ๆ ดังนั้นการรองรับการเข้าชมเว็บไซต์ผ่านสมาร์ทโฟนจึงมีส่วนสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ เพราะไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง ต่างก็ให้ความสนใจการตลาดบนมือถือกันทั้งนั้น เพราะเรื่องง่าย ๆ ที่คุณคาดไม่ถึง อาจสร้างกำไรให้ธุรกิจคุณได้เช่นกันค่ะ

#มือถือสำหรับธุรกิจ

การเลือกนาฬิกา smartwatch ให้ตอบโจทย์ในการใช้งานแบบคุ้มค่าที่สุด

                      ในทุกวันนี้เราปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามีการนำอุปกรณ์ดิจิตอลมาใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมาก ๆ ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์เหล่านั้นก็คือนาฬิกา smartwatch ที่ถือว่าบูมมากในช่วงปีที่ผ่านมานี้ โดยสมาร์ทวอทช์สามารถตอบสนองผู้ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วได้ดีเพราะทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เพียงแค่เชื่อมต่อกับมือถือผ่านแอปพลิเคชันก็รับ - ตอบข้อความ, โทรศัพท์หรือฟังเพลงได้โดยที่คุณไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเลย บางรุ่นยังตอบโจทย์สายสปอร์ตชอบออกกำลังกายเพราะสามารถวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจ, จับก้าวเดิน ฯลฯ และอื่น ๆ ได้อีกเพียบ ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีในการเลือกซื้อนาฬิกา smartwatch ให้ตอบโจทย์ในการใช้งานของแต่ละคนเอามาฝากด้วยมาดูกันเลย

                  การเลือกนาฬิกาsmartwatch ให้ตอบโจทย์ในการใช้งานควรดูจากสิ่งไหนบ้าง

1.เลือกฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์

สมาร์ทวอทช์รุ่นเบสิค ๆ จะสามารถวัดการเต้นของหัวใจและจำนวนก้าวเดินได้ แต่อาจจะไม่สามารถวัดความดัน การเผาผลาญไขมันหรือการนอนหลับ การเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์เราควรคำนึงถึงความต้องการของเราว่าจำเป็น หรืออยากได้ฟังก์ชันใดบ้างสังเกตุจากการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรา

2.เลือกรุ่นที่สามารถใช้เป็นสมาร์ทโฟนได้ด้วย

สมาร์ทวอทช์ที่มีฟังก์ชันสมาร์ทโฟนด้วย ถือว่าเป็นรุ่นที่สะดวกมากสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันสามารถเตือนเวลามีข้อความเข้าหรือบางรุ่นใช้เช็คอีเมลหรือใช้รับโทรศัพท์ได้โดยที่ไม่ต้องหยิบมือถือออกมาก็ได้ และด้วยรูปร่างภายนอกที่เหมือนกับนาฬิกาข้อมือทั่วไปจะใส่ไปทำงานก็ไม่รู้สึกแปลก หรือดูไม่เหมาะสม

3.เลือกจากวัสดุและสีสันของตัวเรือน

สายของสมาร์ทวอทช์ควรเลือกชนิดที่มีความอ่อนนุ่ม เพราะเมื่อเราใส่บายเวลาเทรนนิ่งแม้ตัวสายจะกระทบกับผิวก็ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ ถ้าเลือกชนิดที่เป็นสายซิลิโคนก็จะกันน้ำกันเหงือและสามารถล้างสิ่งสกปรกออกได้ ช่วยรักษาให้นาฬิกาสะอาดน่าใช้อีกด้วย สีสันของตัวเรือนถ้าเลือกสีที่เข้มหน่อยอย่างสีน้ำเงินหรือสีดำก็จะช่วยอำพรางรอยขูดขีดหรือคราบต่าง ๆ ได้ด้วยค่ะ

4.แนะนำให้เลือกซื้อรุ่นที่ใช้ระบบ IP67 หรือมากกว่า เพื่อประสิทธิผลด้านการกันฝุ่นและกันน้ำ

IP Code คือประสิทธิภาพในการกันน้ำและกันฝุ่นซึ่งมีอยู่ในสมาร์ทวอทช์ทั่วไป ตัวอย่างเช่น IP67 หมายถึงระดับการป้องกันฝุ่นอยู่ที่ระดับ 6 และป้องกันน้ำได้ที่ระดับ 7 ยิ่งคนที่ใช้สมาร์ทวอทช์ในการทำกิจกรรม Outdoor ต่าง ๆ แล้วละก็ความสามารถในการป้องกันฝุ่นและน้ำเป็นเรื่องสำคัญค่ะ

5.ตรวจสอบเรื่องสมรรถภาพของแบตเตอรี่

นาฬิกาอัจฉริยะก็เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นหนึ่งที่ต้องการแบตเตอรี่มาช่วยในการทำงาน ซึ่งสำหรับสมาร์ชวอทช์นี้แบ่งประเภทของแบตเตอรี่ออกได้เป็น 2 ลักษณะคือแบบเปลี่ยนก้อนแบตเตอรี่กับแบบชาร์จไฟ ซึ่งแบบแรกมีข้อดีตรงที่ให้คุณใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานแรมปี ในขณะที่แบบที่สองนั้นคุณต้องชาร์จไฟเติมแบตฯ อยู่เสมอแต่ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้

6.ตรวจสอบอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อ

คุณสมบัติที่ดีอีกอย่างของนาฬิกาอัจฉริยะคือคุณสามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากนาฬิกาลงสมาร์ทโฟน/คอมพิวเตอร์ของคุณได้ด้วย ถือเป็นการแบคอัพข้อมูลของคุณไม่ให้หายไป มีประโยชน์กรณีที่คุณต้องการติดตามผลการออกกำลัง, อัตราการหายใจหรือการนอนหลับในช่วงสัปดาห์/เดือนที่ผ่านมาได้

7.รูปลักษณ์ภายนอก

ดังที่กล่าวไปแล้วว่านาฬิกาอัจฉริยะเป็นให้คุณได้หลายอย่าง นอกจากบอกเวลาแล้วยังเป็นอุปกรณ์ดิจิตอลคู่ใจหรือเป็นเครื่องมือช่วยวัดสภาพร่างกายได้ด้วย ดังนั้น ในการเลือกซื้อจึงควรคำนึงถึงเรื่องดีไซน์ตัวเรือนที่เหมาะสม เลือกสีเบสิค ๆ ที่ใส่ได้ในทุกโอกาสเช่น ไปทำงาน, ไปเรียนหนังสือ, ไปติดต่อธุรกิจ, ไปออกกำลังกายหรือบางคนก็สวมเวลานอนด้วยเพื่อวัดค่าการนอนหลับ เป็นต้น

8.เลือกจากราคา

ราคาของนาฬิกาอัจฉริยะมีช่วงความต่างค่อนข้างกว้างตั้งแต่หลักร้อย – หลักหมื่น และอาจเป็นหลายหมื่นหากว่าเป็นสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอน ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วความต่างของราคานั้นมีผลมาจากคุณสมบัติและดีไซน์เฉพาะตัวของแต่ละรุ่น

                หากคุณกำลังมองหานาฬิกา smartwatch ทั่วไป ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ใดเป็นพิเศษ เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการตั้งราคาที่ต้องการในใจเพื่อกระชับกรอบสินค้าที่คุณต้องชั่งใจเลือกค่ะ หากราคาเกินกว่าที่ตั้งไว้ก็ตัดทิ้งไป คงเหลือไว้เพียงรุ่นที่ต้องการแล้วจากนั้นค่อยมาเปรียบเทียบกันว่าสมาร์ทวอทช์รุ่นใดที่เข้าตาบ้าง

#นาฬิกาsmartwatch 

มือถือ 5g ของแบรนด์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจและควรมีไว้ครอบครอง

                ต้องบอกเลยว่าทุกวันนี้มือถือเปรียบเสมือนอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว เพราะในทุก ๆ วัน เราต่างใช้งานมือถือทำในสิ่งต่าง ๆ หลายอย่างมาก ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ หรือแม้แต่การถ่ายรูป การทำงาน ต่างก็ล้วนต้องพึ่งพามือถือทั้งสิ้น ด้วยสาเหตุเหล่านี้จึงทำให้มือถือถูกพัฒนามากขึ้นแทบจะทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านการออกแบบ การใช้งาน ลูกเล่น รวมไปจนถึงการรับสัญญาณ ที่เดี๋ยวนี้เราเดินมาถึงยุคการติดต่อสื่อสารในเจนเนอเรชั่นที่ 5 แล้ว หรือจะเรียกสั้น ๆ ได้ ก็คือ 5g นั้นเอง ที่มาช่วยอำนวยความสะดวกในหลาย ๆ ด้าน ที่ต้องการให้มีความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูล เช่น  การศึกษา, การขนส่ง, การแพทย์ เป็นต้น แต่ในการจะใช้เทคโนโลยี 5g ได้นั้นคุณต้องมีอุปกรณ์ที่สามารถรองรับ 5g ได้ อย่างเช่น มือถือ 5g ซึ่งมือถือที่สามารถรองรับ 5g ได้นั้นจะมีรุ่นไหนบ้างเรามาดูกันเลยค่ะ

                มือถือ 5g ของแบรนด์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ

1.โทรศัพท์มือถือ Samsung ที่รองรับ 5G ได้

·         Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว

·         Samsung Galaxy A90 5G ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว

·         Samsung Galaxy A71 5G ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว

·         Samsung Galaxy A51 5G ขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว

2. โทรศัพท์มือถือ Huawei ที่รองรับ 5G ได้

·         Huawei Mate 20X 5G ขนาดหน้าจอ 7.2 นิ้ว

·         Huawei nova6 5G ขนาดหน้าจอ 6.57 นิ้ว

·         Huawei Mate 30 Pro 5G ขนาดหน้าจอ 6.53 นิ้ว

·         HUAWEI P40 5G ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว

·         HUAWEI P40 Pro 5G ขนาดหน้าจอ 6.58 นิ้ว

3.โทรศัพท์มือถือ OPPO ที่รองรับ 5G ได้

·         OPPO Reno 5G ขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว

·         OPPO Reno3 Pro ขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว

4. โทรศัพท์มือถือ VIVO ที่รองรับ 5G ได้

·         Vivo NEX 3 ขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว

·         VIVO iQOO Neo3 ขนาดหน้าจอ 6.57 นิ้ว

5.โทรศัพท์มือถือ Xiaomi ที่รองรับ 5G ได้

·         Xiaomi Mi 10 Pro 5G ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว

·         Xiaomi Mi Mix 3 5G ขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว

6.โทรศัพท์มือถือ Realme ที่รองรับ 5G ได้

·         Realme X50 ขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว

คาดว่าอีกไม่นานจะมี มือถือ 5g ตามออกมาอีกหลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งเราจะนำข้อมูลมาอัพเดตให้ได้เลือกใช้กันเพิ่มเติม ส่วนใครจะถูกใจรุ่นไหนนั้นลองเปรียบเทียบสเปกและราคากันดูว่ารุ่นไหนลงตัวกับคุณที่สุดค่ะ

#มือถือ5g

มอนิเตอร์จอคอม 240hz 3 แบรนด์ที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์

โดยทั่วไปเกมเมอร์มักให้ความสนใจกับมอนิเตอร์ขนาดใหญ่มากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเพราะให้ความรู้สึกสนุกตื่นเต้นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ก็มักจะมาพร้อมความละเอียดที่สูงไปด้วย ซึ่งความละเอียดเป็น อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ผู้ผลิตจอมอนิเตอร์ดึงมาเป็นจุดเด่นในช่วงเวลานี้ คือ อัตราการรีเฟรชเรท  ที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดจอคอม 240hz หากเป็นรุ่นสเปกต่ำสุดก็จะอยู่ที่ 90hz แต่ด้วยความละเอียดระดับนี้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เหมาะกับการเล่นเกมเป็นอย่างยิ่ง เพราะให้รายละเอียดชัด ไม่ว่าจะเป็นเกมแอ็คชันหรือ RTS ก็เข้ากันได้กับจอขนาดนี้ สนนราคาเริ่มจาก 4,000 บาท – 10000 บาท และเพื่อเอาใจคอเกมเมอร์ทั้งหลาย วันนี้เราจึงเอาแบรนด์ขึ้นชื่อในเรื่องที่หน้าจอมีคุณภาพทั้ง 3 แบรนด์เอามาฝาก ว่าแต่จะมีแบรนด์ไหนติดเข้ามาบ้างนั้นเราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

รวมจอคอม 240hz คุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ

1.แบรนด์ Sumsung 27" Curved Gaming Monitor CRG50 LC27RG50FQEXXT

ความละเอียด 1920 x 1080 (Full HD)Refresh Rate 240Hz เทคโนโลยี G-Sync Compatibleคุณสมบัติเด่น 3 ข้อหน้าจอโค้งของ Samsung ได้ขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งของตลาด ความโค้งที่เร็วถึง 240 Hz จอคอม24hz RapidCurve™ นำรีเฟรชเรตความเร็วสูง 240 Hz หน้าจอโค้ง 1500R ของ Samsung เพื่อการเล่นเกมสมจริง ลื่นไหลอย่างเต็มที่ในแต่ละฉาก รีเฟรชเรตความเร็วสูง 240 Hz นั้นช่วยขจัดอาการแล็ก (ความล่าช้าที่เห็นได้ชัดระหว่างการเครื่องไหวของผู้เล่น) ทำให้คุณตอบสนองต่อทุกสิ่งได้แบบเรียลไทม์ การที่คุณสามารถขยับเมาส์ได้รวดเร็ว ราบรื่น และแม่นยำยิ่งขึ้นได้นั้น ช่วยให้คุณสามารถจัดการคู่ต่อสู้ได้อย่างไม่ต้องลังเล ราคาประมาณ 11,290.00 บาท

2.แบรนด์ Asus Monitor 24.5" รุ่น PG258Q 240Hz G-SYNC ROG Swift PG258Q

จอภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ eSports และเกมแอ็คชั่นที่รวดเร็ว จอภาพความละเอียด Full HD นี้มีความเร็วสูงสุดที่เคยมีมา ด้วยรีเฟรชเรทที่สูงจอคอม 240hz อัตราการตอบสนอง 1ms พร้อมด้วยเทคโนโลยี NVIDIA® G-SYNC™ เพื่อให้ภาพเกมที่ลื่นไหลและสมจริง นอกจากนี้ ROG Swift PG258Q ยังได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบสไตล์ ROG เพื่อให้ทุกคนรับรู้ว่านี่ไม่ใช่จอภาพธรรมดา ราคาประมาณ 16,890 บาท

3. แบรนด์ AOC AG271FZ2/67 Monitor 27''  (TN, VGA, HDMI, DP) 240Hz FreeSync

เล่นเกมส์ไหลลื่นดีไซน์ไร้ขอบ 3 ด้านขาตั้งปรับระดับก้ม-เงย/ความสูงได้มี Port เชื่อมต่อ HDMI และ DisplayPort พร้อมAOC AG271FZ2/67หน้าจอขนาด 27 นิ้ว มาพร้อมความละเอียดแบบ Full HD (1920x1080) จอคอม240 hz เป็นพาเนลแบบ TN รวดเร็วด้วยอัตราการตอบสนอง 0.5ms เหมาะสำหรับการเล่นเกมส์เป็นอย่างยิ่งเทคโนโลยี AMD FreeSync ที่ป้องกันการฉีกขาดของหน้าจอ ช่วยลดการกระตุกของภาพ ทำให้การเล่นเกมส์เป็นไปอย่างราบรื่นไร้ที่ตินำการต่อสู้ออกมาจากเงามืดด้วย Shadow Control เพิ่มความสว่างพื้นที่มืดหรือจมลงในความมืดทันทีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนที่เหลือของการแสดงผลเทคโนโลยี Flicker Free ลดการกะพริบของหน้าจอ คุณจึงสามารถทำงานและเล่นสนุกได้ยาวนานกว่ามีรูรองรับการติดตั้งกับขาแขวนติดผนังด้วยลำโพง 5W x 2  ราคาประมาณ10,990บาท

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับทั้ง 3 แบรนด์ จอคอม 240hz ที่เราเอามาฝากหวังว่าคงถูกใจกันนะคะ ส่วนในด้านการเลือกซื้อก็ให้ดูความต้องการใช้งานเป็นหลักว่าเราซื้อมาเพื่อทำอะไร หากซื้อมาทำงานทั่วไปหรือดูหนังก็เลือกที่ขนาดจอและความละเอียดจอมีให้เลือกตั้งแต่ 75hz ไปจนถึง 240hz และความละเอียดจอในตอนนี้ก็มีถึง 4k แต่ถ้าต้องการมุมมองที่กว้างก็สามารถเลือกจอแบบ ultra wide ซึ่งจะมีมุมมองกว้างถึง 178 องศาเมื่อคุณสามารถตอบคำถามในใจเหล่านี้ได้แล้ว ที่เหลือก็เพียงพิจารณารูปแบบดีไซน์และฟังก์ชั่นเสริมอื่น ๆ รวมถึงงบประมาณที่คุณตั้งเอาไว้เท่านั้น ซึ่งเราหวังว่าคุณจะได้เจอกับจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมที่โดนใจนะคะ 

#จอคอม240hz

มือถือรองรับ 5g ที่มีกระแสมาแรงโดดเด่นที่สุดในขณะนี้

ช่วงนี้กระแส 5g ในบ้านเราเรียกว่ากำลังเป็นที่คนสนใจและพูดถึงกันมาก ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ที่มีการประมูลได้ไม่นานก็แข่งกันเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งสามารถใช้งานได้ตามพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพ และหัวเมืองหลักต่าง ๆ สำหรับใครที่สนใจใช้งานก็ต้องมีมือถือในรุ่นที่รองรับ 5g ถึงจะสามารถพร้อมใช้งานความเร็วที่แรงได้อย่างต่อเนื่องได้ ว่าแล้วในประเทศไทยขณะนี้มีมือถือรองรับ 5g  รุ่นไหนกันบ้างนะ เราก็มาดูกันเลยค่ะ

รุ่นและแบรนด์มือถือรองรับ 5g ในประเทศไทย

1. Galaxy S20 Ultra 5G

แบรนด์ Samsung ให้ภาพความละเอียดสูงถึง 40MP คุณจึงได้ภาพที่มีรายละเอียดสมบูรณ์เสมือนกล้องโปร ให้ภาพเซลฟี่ความละเอียดสูง 10MP กล้องความละเอียดสูง 108MPแม้ถ่ายในที่มืดได้อีกด้วย ความละเอียดของภาพวิดีโอจากคุณภาพ 4K เป็น 8K ซึ่งความละเอียดมากกว่า UHD 4 เท่า และมากกว่า Full HD ถึง 16 เท่า มือถือรองรับ 5g และ 4G ระบบซูมเหนือระดับปรับแต่งรูปภาพ ตัดต่อวีดีโอ เปลี่ยนความเร็ว หรือเพิ่มภาพประกอบในวีดีโอ 4K ก็ทำได้ง่ายดายเหมือนมืออาชีพ รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยจะรองรับ 5G บนคลื่นความถี่ 2600 MHz ซึ่งจะสามารถใช้งานเครือข่ายของ AIS และ truemove H ได้ มีราคาอยู่ที่ 39,900 บาท เป็นเจ้าของผ่านเครือข่าย เริ่มต้น 30,400 บาท

2. HUAWEI Mate 30 Pro 5G

แบรนด์ HUAWE กล้องหลัง 4 เลนส์ Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (18มม.), f/1.8SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (27มม.), f/1.6, OIS3x optical zoom, elephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (27มม.), f/2.4, OIS3D Depth Sensing วีดีโอ 2160p@30/60fps, 1080p@30/60/120fps, 1080p@960fps, 720p@7680fps, EISกล้องหน้า 2 เลนส์ Wide 32 ล้านพิกเซล 3D TOF cameraวีดีโอ 1080p@30fps มือถือรองรับ 5g ได้ทั้ง 3 ค่ายในไทย ไม่ว่าจะเป็น AIS คลื่น 2600 MHz, dtac คลื่น 700 MHz และ Truemove H คลื่น 2600 MHz โดยวางจำหน่ายในราคา 31,990 บาท

3. OPPO Find X2 Pro 5G

แบรนด์ OPPO กล้องหลัง 3 เลนส์กล้องหลักเลนส์ Wide 48 ล้านพิกเซล, f/1.7, Laser AF, ระบบกันสั่น OISเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, f/2.2Digital Zoom 60x, Hybrid Zoom 10x, f/3.0, เลนส์ 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า32 ล้านพิกเซล, f/2.4, AI Face Beauty ตรวจจับแสงสว่าง (Light Sensor), วัดการพลิกหมุน (Gyro), สแกนนิ้วใต้หน้าจอ(Fingerprint Under Display ) และ ตรวจจับใบหน้า (Face ID) มือถือรองรับ 5g ในไทยแน่นอนวางจำหน่ายในรุ่น RAM 12GB + ROM 512 ราคา 40,990 บาท

แหละทั้งหมดนี้ก็คือ มือถือรองรับ 5g ที่โดดเด่นในขณะนี้ทั้ง 3 แบรนด์ค่ะ และสำหรับคนที่สนใจอยากรู้ว่าซิมการ์ดของคุณใช้งาน 5g ได้หรือไม่นั้น ส่วนมากผู้ให้บริการจะบอกว่าถ้ารองรับ 4g ก็สามารถใช้งาน 5g ได้เพราะประเทศไทยยังคงเลือกใช้แบบ NSA หรือ Non Standalone เท่ากับ 5g ในพื้นฐานของ 4g นั่นเองค่ะ

#มือถือรองรับ5g

การดูแลรักษานาฬิกา สมาร์ทวอทช์ตัวโปรดของคุณให้สามารถใช้งานไปได้อย่างยาวนานและคุ้มค่าที่สุด

                 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสังคมปัจจุบันมีอุปกรณ์ดิจิตอลมาเกี่ยวข้องในการดำเนินชีวิตของมนุษย์นั้นเยอะมาก ๆ แทบจะนับไม่ถ้วน โดยหนึ่งในนั้นที่เราจะอยากจะพูดถึงมาก ๆ เลย คือ เจ้านาฬิกา สมาร์ทวอทช์ ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมมาก ๆ ของคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ เพราะเจ้าตัว นาฬิกา สมาร์ทวอทช์นี้ อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นดี ๆ ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอย่างมากมาย รวมไปถึงการประเมินผลในส่วนที่สำคัญต่าง ๆ ให้ผู้ใส่ได้รับรู้อีกด้วย ว่าในแต่ละวันผู้สวมใส่นั้นได้ออกกำลังกายไปเท่าไร ยิ่งถ้าเป็นนาฬิกา สมาร์ทวอทช์ที่ราคาแพง ๆ ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการประมวลผลได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เหล่าคนที่รักสุขภาพทั้งหลายจึงเลือกที่จะลงทุนในการซื้อ และเมื่อใช้ของแพงหลาย ๆ คนก็อยากจะให้ของชิ้นนั้น ๆ ใช้งานได้อย่างยาวนานและคุ้มค่าที่สุด เพราะเหตุนี้เราจึงมีเทคนิคในการดูแลเจ้านาฬิกา สมาร์ทวอทช์ ให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเอามาฝากเพื่อน ๆ ด้วย พร้อมแล้วก็มาดูกันเลยค่ะ

                วิธีดูแลรักษานาฬิกา สมาร์ทวอทช์ ตัวโปรดของคุณให้สามารถใช้งานไปได้อย่างยาวนานและคุ้มค่าที่สุด

1.การเก็บรักษา

ห้ามทิ้งนาฬิกาออกกำลังกายเรือนโปรดของคุณไว้ในที่มีอุณหภูมิสูง หรืออุณหภูมิต่ำเป็นเวลานานอาจทำให้แผนวงจรภายในนาฬิกาเกิดความเสียหายได้ ควรเก็บไว้ในที่อุณหภูมิปกติและไม่อับชื้นและควรปิดโหมดที่ไม่จำเป็นหลังจากการใช้งานเช่น GPS และ Bluetooth จากสมาร์ทโฟนเพื่อยืดอายุแบตตารี่ให้ใช้งานได้นานขึ้นและช่วยรักษานาฬิกาเรือนโปรดของคุณ

2.หลีกเลี่ยงใกล้คลื่นแม่เหล็ก

โดยนาฬิกาทั่วไปไม่ควรอยู่ใกล้กับคลื่นแม่เหล็กเป็นเวลานาน อาจะทำให้นาฬิกาเสื่อมต่อการใช้งานได้

3.ป้องกันการกระทบกระเทือน

การกระทบกระเทือนส่งผลทำให้นาฬิกาเป็นรอยได้ ซึ่งปัจจุบันนาฬิกาออกกำลังกายบางรุ่น เลือกที่จะใช้กระจกกันรอยขีดข่วน แบบเดียวที่ใช้กับหน้าจอสมาร์ทโฟน แต่ทางที่ดีสุดควรติดฟิล์มกันรอยหรือกันกระแทก เพื่อช่วยป้องกันให้สภาพหน้าจอใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ส่วนตัวเรือนนาฬิกานั่นถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองกิจกรรมหรือกีฬา แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการกระทบอย่างรุนแรงต่อการใช้งงาน

4.หลังจากใส่ว่ายน้ำหรือเปียกน้ำ

สำหรับผู้ที่ใช้นาฬิกาออกกำลังกายกับกีฬาว่ายน้ำควรเช็คค่า ATM และ IPX ให้แน่ใจก่อน ซึ่งมาตรฐานกันน้ำ

ค่า ATM หรือ IPX ควรศึกษาจากคุณสมบัตินาฬิกาออกำลังกาย เพราะบางรุ่นกันน้ำได้แค่ ล้างมือ ฝนตก เป็นต้น

5. การดูแล

ถ้าเป็นนาฬิกาสายหนัง ไม่ควรให้สายหนังโดนน้ำ เพราะน้ำจะลดอายุการใช้งานสายหนัง ทำให้ต้องเปลี่ยนสายอยู่ตลอดและควรหลีกเลี่ยงการอาบขณะใส่นาฬิกา เพราะ สบู่หรือแชมพู อาจจะเข้าเกาะในนาฬิกาได้

โดยทั่วไปแล้วนาฬิกา สมาร์ทวอทช์ ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองในการใช้ชีวิตประจำวันและเล่นกีฬา แต่ถ้าเราใส่ใจดูแลรักษาก็จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานได้นานขึ้น เท่ากับเราใช้งานนาฬิกาได้อย่างคุ้มค่า เพราะฉะนั้นอย่าลืมหมั่นดูแลรักษานาฬิกาออกกำลังกายเรือนโปรดของคุณด้วยนะคะ

#สมาร์ทวอทช์