วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สิ่งที่ควรดูให้ละเอียดในการเลือกซื้อ tv 4k


                  ปัจจุบันเป็นยุคที่ tv ไม่ได้เป็นจอแสดงภาพแบบธรรมดาอีกต่อไปแต่กลับเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะเพิ่มระดับความบันเทิงให้คุณมากขึ้นกว่าที่เคย ในที่นี้เราจะกล่าวถึง tv 4k ที่มีความละเอียดของภาพอย่างน้อย 3,840 x 2,160 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่มากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า ทำให้คุณได้อรรถรสความบันเทิงยิ่งขึ้น ด้วยภาพที่คมชัดสมจริงและแสงสีที่สวยงามเป็นธรรมชาติมากที่สุดจึงไม่แปลกเลยที่ tv 4k จะกลายเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมากมาย และเมื่อมีผู้บริโภคเยอะ ผู้ผลิตก็เลยมีเยอะ ทำให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่สูงขึ้น ทำให้ tv ที่วางขายกันตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปก็เลยมีให้เลือกหลายรุ่นจากหลากหลายผู้ผลิต ซึ่งแต่ละเจ้าก็งัดเอาไม้เด็ดมากมายมาดึงดูดความสนใจลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีสันเสมือนจริง, คุณภาพเสียงคมชัด, ขนาดจอและอื่น ๆ ทำให้คุณเริ่มสับสนแล้วว่าจะเลือกซื้อไม่ถูกว่าควรจะเลือกยังไงดี เพราะแบบนี้เราจึงได้รวบรวมเอาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อ tv 4k ที่ดีเอามาฝาก พร้อมแล้วมาดูกันเลย

                วิธีการเลือกซื้อ tv 4k

1.เลือกซื้อจากชนิดของจอและประสิทธิภาพที่ต้องการ

จอ tv 4k ที่เห็นกันว่าให้ภาพสวยงามนั้น จริง ๆ แล้วยังแบ่งย่อยตามแต่ละชนิดของจอที่นำมาใช้ ซึ่งมีผลให้เกิดความแตกต่างกันอยู่บางประการ ผู้อ่านควรทำความเข้าใจในจุดนี้อย่างละเอียดเพื่อประโยชน์ในการเลือกซื้อได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

                จอ LCD ชนิด “Direct Type” เน้นให้เกิดภาพคมชัด คุณภาพระดับสูง

                จอ LCD ชนิด “Edge Type” เล็กกว่า บางกว่าและกินไฟน้อยกว่า

                จอภาพชนิด “Organic EL Display” เครื่องบาง น้ำหนักเบา

2.เลือกทีวีระบบ IPS (In-Plane Switching) แก้ปัญหาจอภาพมุมแคบได้ดีเยี่ยม

จอ LCD นั้นมีระบบการทำงาน 2 รูปแบบ ได้แก่ ระบบ VA และ IPS ที่ส่งผลให้เกิดมุมภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งกระทบต่อการดูภาพผ่านจอทีวี 4K ที่ส่วนมากจะทำออกมาให้มีขนาดใหญ่ ภาพที่ได้จึงจะเปลี่ยนแปลงไปตามเหลี่ยมของมุมมองการดู

ระบบ VA (Vertical Alignment) จะปรับทิศทางของผลึกเหลวทำมุมแนวกว้างที่ 160 องศา ภาพที่ได้จะเปลี่ยนไปเมื่อผลึกเหลวออกห่างจากขั้วไฟฟ้า เกิดเป็นภาพมุมมองแคบ ในขณะที่ระบบ IPS ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการวางผลึกเหลวมาเป็นการวางตามแนวขนานกับระนาบ สามารถทำมุมมองได้กว้างขึ้นแม้ผลึกเหลวจะออกห่างจากขั้วไฟฟ้าก็ตาม

3.เทคโนโลยี HDR ช่วยเสริมให้ภาพคมชัดสมจริงมากขึ้น

HDR ย่อมาจาก High Dynamic Range เป็นคำที่ใช้อย่างแพร่หลายในวงการการถ่ายภาพ/วิดีโอ หมายถึงการปรับเฉดสีให้มากขึ้นเพื่อให้ใกล้เคียงกับสีตาที่มนุษย์เห็น ซึ่งฟังก์ชัน HDR ในทีวีนี้จำเป็นต่อคนที่เล่นเกมและดูหนัง/ซีรี่ย์ผ่านเครื่องเล่น DVD ที่คุณอยากเห็นภาพและแสงที่เสมือนจริงที่สุดราวกับได้ดูต้นฉบับที่เขาถ่ายทำมา

นอกจากนี้ ระบบ HDR ยังเป็นการปรับความต่างของค่าแสงระหว่างความสว่างกับความมืดจนได้เป็นแสง-สีที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความเรียลผ่านจอภาพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

4.ตรวจสอบเรื่องสถานีส่งสัญญาณภาพ 4k ว่า กล่องรับสัญญาณภาพ 4k หรือเปล่า

                นอกจากประเด็นต่าง ๆ ข้างต้นที่คุณต้องคำนึงถึงเมื่อจะตัดสินใจซื้อ tv 4k มาไว้ใช้งานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องตรวจสอบคือ สถานีส่งสัญญาณภาพ 4k ว่ากล่องรับสัญญาณภาพซัพพอร์ต 4k หรือไม่ หากสัญญาณจากต้นทางส่งมาเป็นแบบ HD แม้ว่าเราจะใช้ tv 4k แต่ภาพที่ได้ก็จะมีความละเอียดสูงสุดที่ HD เท่านั้น

#tv 4k

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ในการเลือกซื้อจอมอนิเตอร์ให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานควรเลือกดูจากอะไรบ้าง?


                   สำหรับใครที่กำลังมองหาจอมอนิเตอร์คุณภาพสูงสักตัวมาใช้งาน โดยเน้นไปที่ภาพคมชัด สีสันสดใส ดูลื่นไหลไม่มีสะดุด จะต้องพิจารณาเลือกจากอะไรบ้างที่จะช่วยให้คุ้มค่ากับเงินที่จะเสียไปมากที่สุด ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีในการเลือกซื้อหน้าจอมอนิเตอร์ให้ได้คุณภาพดี เอามาฝากให้กับทุก ๆ คนด้วยพร้อมแล้วมาดูกันเลย

                สิ่งสำคัญที่ควรรู้ในการเลือกซื้อจอมอนิเตอร์

1.ขนาดหน้าจอ และความละเอียดภาพ
คนที่กำลังมองหาจอมอนิเตอร์มาใช้ ส่วนมากจะเลือกขนาดจอใหญ่เป็นอันดับแรก ทำให้ตอบสนองการทำงาน ดูหนัง หรือเล่นเกมที่ได้อรรถรสยิ่งขึ้น หากใช้งานครบเครื่องขนาดนี้ แนะนำว่าให้ซื้อขนาด 20 นิ้วขึ้นไปกำลังดีค่ะ สำหรับขนาดที่ได้รับความนิยมจะอยู่ที่ประมาณ 19-24 นิ้ว แล้วแต่ความชอบส่วนตัว และความเหมาะสมในการใช้งาน ส่วนความละเอียดของภาพสมัยนี้ก็ต้องเลือกแบบ 1920×1080 หรือ Full HD เพื่อรับชมภาพที่คมชัด และสวยงามได้อย่างเต็มตา

2.ค่า Response Time และ Refresh Rate
ในส่วนของค่า Response Time หมายถึง ค่าความเร็วในการเปลี่ยนเม็ดพิกเซล ดังนั้นค่าความเร็วตรงนี้จึงส่งผลไปกับ “ภาพเคลื่อนไหว” ถ้าค่า Response Time ต่ำ ๆ ก็จะยิ่งทำให้เห็นภาพเคลื่อนไหวของวัตถุที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว Refresh Rate หรือเรียกกันว่า อัตราการกะพริบของหน้าจอ ถ้าค่านี้ยิ่งสูงก็ถือว่ายิ่งดีค่ะ ช่วยทำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

3.ลักษณะ Panel ของจอ
ปัจจุบันอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตัวนี้จะมี Panel ที่ใช้หลัก ๆ อยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ IPS, VA และ TN

4.พอร์ตการเชื่อมต่อต่าง ๆ (Connectivity Interface)
จอมอนิเตอร์ส่วนใหญ่จะมาพร้อมพอร์ต VGA และ DVI ซึ่งแบบหลังจะเป็นการเชื่อมต่อแบบ Digital จึงทำให้ได้ภาพที่สวย และคุณภาพดีกว่า สำหรับพอร์ต VGA นั้นจะเป็นพอร์ตแบบเก่า ใช้กันมากในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และโน้ตบุ๊ก อย่างไรก็ดี เวลาเลือกหน้าจอมอนิเตอร์ ควรเลือกรุ่นที่มีพอร์ตทั้ง 2 แบบนี้อยู่ในเครื่องด้วยนะคะ เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่ออย่างครบครันนั่นเอง

5.ฟีเจอร์ และฟังก์ชันพิเศษอื่น ๆ
สำหรับฟังก์ชันพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น Touch Screen, Webcam หรือ 3D เป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ ถ้าคิดว่าไม่ได้ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีฟังก์ชันเหล่านี้เพิ่มเติม เพราะต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งคุณอาจจะใช้งานได้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปค่ะ

                จอมอนิเตอร์เป็นตัวแสดงผลที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมและความบันเทิงด้านอื่น  ๆ เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้ออย่าลืมดูก่อนว่าจอมอนิเตอร์ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ และเลือกคุณสมบัติของหน้าจอมอนิเตอร์ที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานของคุณได้ดีที่สุด

#จอมอนิเตอร์ 


วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ข้อแนะนำดี ๆ จากผู้รู้ในการเลือกซื้อจอคอมเล่นเกมให้ได้คุณภาพสูง


                  ในทุกวันนี้เกมออนไลน์ได้พัฒนาไปเยอะมากจริง ๆ โดยเฉพาะพวกเกมต่อสู้หรือผจญภัยที่จำลองสถานการณ์ในการนำคุณไปยังสถานที่ต่าง ๆ และให้คุณได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยได้เห็น โดยที่คุณไม่เคยคิดว่ามันจะสามารถเป็นไปได้ เพราะแบบนี้จึงทำให้หลาย ๆ คนหันมาสนใจและใส่ใจในการเลือกจอคอมเล่นเกมที่มีคุณภาพกันมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงอรรถรสในการเล่นได้มากที่สุด โดยเฉพาะเกมต่อสู้ออนไลน์ที่หน้าจอเล่นเกมจำเป็นที่ต้องตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทั้ง ภาพ แสง สี และเสียง และเพื่อให้คุณสามารถเลือกจอคอมเล่นเกมได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เราอยากแนะนำให้ดูสิ่งเหล่านี้ประกอบไปด้วย ว่าแล้วก็มาดูกันเลย

                วิธีการเลือกจอคอมเล่นเกมที่ดีที่เหล่าเกมเมอร์ไม่ควรพลาด
1.เลือกความละเอียดที่ดีที่สุด คือ Full HD หรือสูงกว่านั้น
ถ้าพูดถึงจอคอมเกมมิ่งแล้ว ความละเอียดควรอยู่ที่ Full HDความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งถือเป็นความละเอียดมาตรฐานในการใช้งานไป แต่ก็ยังมีจอที่มีลักษณะเป็นแนวนอนหรือยาวออกไปด้านข้าง จอคอมเกมมิ่งประเภทนี้มักจะมีความละเอียดอยู่ที่ 2K หรือ 2560 x 1440 พิกเซล ซึ่งสูงกว่า Full HD แต่จะมีอัตราส่วนของภาพเป็น (21 : 9) เนื่องจากตัวจอนั้นเป็นแนวยาวนั่นเอง โดยข้อดีของจอคอมเกมมิ่งประเภทนี้ คือ มีมุมมองที่กว้างขึ้น ช่วยในการมองเห็นที่ดี ทำให้เห็นเป้าหมายได้ง่ายขึ้น และถ้าใช้ในการแข่งขันรับรองว่าจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการเล่นอย่างแน่นอน

2.อัตราการรีเฟรชเรท
อัตราการรีเฟรชเรท (Refresh Rate) ยังคงเป็นจุดสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจ แม้ว่าคุณจะเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีอัตราการรีเฟรชที่สูง แต่นั่นก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะบางเกมมีการแสดงผลได้สูงสุดแค่ 60 เฟรมเรท ถ้าคุณเลือกใช้จอ 144Hz อาจจะเกิดภาพฉีกขาดหรือเป็นเส้นในระหว่างการแสดงผลได้ เพราะตัวเกมจะไม่รองรับอัตรารีเฟรชเรทของหน้าจอนั้น จึงขอแนะนำว่าควรเลือกให้เหมาะสมกับเกมที่คุณเล่นด้วย
เกม PC ควรเลือกอัตราการรีเฟรชเรทจอ 120Hz หรือมากกว่า

3.ความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซลควรเลือก 1ms
จอคอมเกมมิ่งส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพที่สูงอยู่แล้ว ซึ่งความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซลโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1ms เพื่อให้เร็วพอต่อการร้องขอการแสดงภาพของเกม หากคุณเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีการตอบสนองช้า อาจจะทำให้เกิดภาพกระตุกหรือภาพค้างได้ อย่างไรก็ตาม ยิ่งตัวเลขของอัตราการตอบสนองน้อย ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพที่สูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้นมาด้วยเหมือนกัน

4.เลือกรุ่นที่มีโหมดสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ
ถ้าคุณเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีโหมดการใช้งานเฉพาะ เช่น เกม Visual ก็จะเป็นตัวช่วยในการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการเล่น ทำให้การเล่นเกมของคุณนั้นง่ายขึ้นและมีความสมจริงมากยิ่งขึ้นด้วย โดยโหมดหลัก ๆ ทั่วไปที่มีอยู่ก็คือ โหมด FPS หรือเกมแนวแอ็กชั่น, โหมดต่อสู้  หรือโหมดเกมกีฬา เป็นต้น นอกจากนี้ จอคอมเกมมิ่งบางรุ่นจะมีโหมดที่เรียกว่า NVIDIA 3D Vision เพื่อช่วยเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมประเภทกราฟิก หรือ 3D ราคาก็อาจจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่รับรองได้ว่าคุณได้สัมผัสกับโลกแห่งเกมอย่างสมจริงอย่างแน่นอน

5.ตรวจสอบประเภทและจำนวนของพอร์ตการเชื่อมต่อ
นอกเหนือจากพอร์ตสำคัญอย่าง HDMI และ DVI แล้ว ยังมีพอร์ตอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นในการใช้งานอีกมากมาย อย่างเช่น Display Port, USB เป็นต้น บางจอที่มีจำนวนพอร์ตเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย แต่อาจจะไม่จำเป็นในการใช้งานสำหรับคุณก็ได้ เพราะฉะนั้น ขอแนะนำให้ดูตามความต้องการของคุณว่า พอร์ตอะไรที่จำเป็นต่อการใช้งานของคุณบ้าง


                  หากคุณไม่อยากพลาดความสนุกในการเล่นเกม คุณควรเลือกซื้อหน้าจอคอมเล่นเกมตามด้านบนที่เราได้แนะนำเอาไว้ รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มที่แน่นอน

#จอคอมเล่นเกม 

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เลือกซื้อลำโพงซาวด์บาร์ยังไงให้ได้คุณค่าคุ้มที่สุด


                     เมื่อพูดถึงลำโพงซาวด์บาร์ส่วนใหญ่หลายคนมักจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ลำโพงที่เข้ามาเสริมเพิ่มคุณภาพเสียงให้กับทีวีให้มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นแค่นั้น ผิดกับตอนนี้ที่ลำโพงซาวด์บาร์ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องเสียงเพียงอย่างเดียว แต่มันยังถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ทันสมัย เน้นความเรียบง่ายสไตล์มินิมอล จะวางตรงไหนก็กลมกลืน ไม่ขัดตา เหมือนกับเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ แถมยังทำความสะอาดง่ายอีกด้วย หากใครที่กำลังสนใจและอยากมีไว้ในคอบครอง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกยังไงดีลพก้ ตามเรามาทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อลำโพงซาวด์บาร์เอามาฝากให้กับผู้ที่สนใจด้วย พร้อมแล้วก็มาดูกันเลย

       เคล็ดลับในการเลือกลำโพงซาวด์บาร์
1. ฟังว่าให้เสียงชัดได้โดยรอบหรือไม่ อย่างที่รู้กันว่า Soundbar นั้นมีรูปร่างเป็นแท่งยาว ๆ และมีลำโพงอยู่ไม่กี่ดอกภายในแท่งนั้น ทำให้เมื่อนั่งชมโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขกที่มีคนหลาย ๆ คน ก็มีโอกาสที่บางคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้นั่งตรงกลาง จะได้ยินเสียงไม่เต็มที่ก็ได้ ดังนั้นอย่าลืมเช็คเรื่องนี้ก่อนซื้อทุกครั้ง

2. ให้เสียงที่ดัง เพราะมันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ขณะเดียวกันเหตุผลที่ทุกคนซื้อ Soundbar มาก็เพื่อให้เสียงที่ดัง และมีมิติกว่าที่ได้จากโทรทัศน์ ดังนั้นการให้เสียงที่ดังชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ห่างจากโทรทัศน์แค่ไหนก็ยังได้ยินชัด โดยเทคนิคง่าย ๆ ก่อนซื้อก็คือ เปิด Soundbar ให้เสียงดังที่สุด เพื่อให้รู้กำลังขับของลำโพงคู่โทรทัศน์ตัวนี้

3. การเชื่อมต่อแบบสายที่หลากหลาย สำหรับการเชื่อมต่อแล้ว อยากให้ดูเรื่องการเชื่อมต่อแบบสายก่อน เพราะปกติแล้ว Soundbar จะติดตั้งพอร์ทเชื่อมต่อเช่น HDMI มาให้อยู่แล้ว แต่น่าจะดีกว่าถ้ามันมีพอร์ทอื่น ๆ เช่น Coaxial, Optical หรืออื่น ๆ รวมถึงพอร์ทเสียง 3.5 มม. เพื่อสร้างช่องทางหลากหลายในการส่งสัญญาณเสียงเข้าไป

4. การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ต้องดีเช่นกัน นอกจากนี้การเชื่อมต่อแบบไร้สายก็เป็นอีกคุณสมบัติจำเป็นด้วย เพราะหากไม่มีการเชื่อมต่อแบบนี้ ความหลากหลายในการใช้งาน โดยเฉพาะการฟังเพลงผ่าน Bluetooth ก็คงไม่เกิดขึ้นแน่ ๆ แต่ปัจจุบันมันก็มีการเชื่อมต่อไร้สายอื่น ๆ เข้ามา เช่นแตะด้วย NFC หรือเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้

5. ขนาดต้องไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป สำหรับเรื่องขนาดนั้น Soundbar หากมีขนาดใหญ่จนเกินไปก็อาจไปบดบังการรับส่งสัญญาณระหว่างรีโมท กับโทรทัศน์ก็ได้ ส่วนถ้าเล็กไปมันก็อาจให้เสียงได้ไม่มีมิติมากพอ ดังนั้นก่อนซื้อต้องลองดูตัวที่มีขนาดเหมาะสมกับโทรทัศน์ที่ใช้ด้วย

6. การใช้งานที่ง่าย และคุ้มค่าที่สำคัญคือการใช้งานต้องง่าย เพราะต้องอยู่คู่กับโทรทัศน์เป็นเวลานาน ไม่ใช่ต้องมาเปลี่ยนกันบ่อย ๆ ซึ่งการมีหน้าจอเล็ก ๆ เพื่อแสดงผลเรื่องระดับเสียง รวมถึงกำลังเชื่อมต่อกับอะไรอยู่ ก็น่าจะจูงใจให้ผู้ซื้อหันมาใช้งานลำโพงตัวนี้ได้

7. ระบบเสียงต้องดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ สุดท้ายคือเรื่องระบบเสียงที่ต้องดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันคืออุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มอรรถรสด้านเสียง ดังนั้นการรองรับเทคโนโลยีด้านระบบเสียงที่ดีที่สุดหรือการขายแบบบันเดิลมากับตัว Sub-Woofer ก็คงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย

                แหละทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อสำคัญหลัก ๆ ที่ควรดูก่อนที่จะทำการตัดสินใจเลือกซื้อลำโพงซาวด์บาร์สักตัวหนึ่ง เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่จะเสียไปและได้ลำโพงซาวด์บาร์ที่ดีที่สุดในการนำมาใช้งานค่ะ

#ลำโพงซาวด์บาร์


วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ที่ไม่ควรพลาด


                        สเปคของหน้าจอคอมพิวเตอร์ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย เพราะมันส่งผลโดยตรงกับผู้ใช้งานต่อให้มีสเปคเครื่องดีแต่มีหน้าจอคอมไม่ดีก็อาจจะทำให้การทำงานของเราช้าลงได้ และยิ่งถ้าทำงานเกี่ยวกับกราฟฟิก เรื่องสีที่แสดงผลต้องชัดเจนแต่ถ้ามีหน้าจอที่ไม่ดีการแสดงผลของสีอาจถูกเปลี่ยนแปลงไปได้ นี้ยังไม่รวมถึงปัญหาอื่น ๆ อีกเพียบ ดังนั้นสิ่งที่ต้องลงทุนรองมาจากสเปคเครื่องเลยก็คือหน้าจอคอมพิวเตอร์เนี้ยแหละค่ะ หากใครที่ยังกังวลและไม่รู้ว่าจะต้องเลือกสเปคหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบไหนถึงจะได้หน้าจอที่ดีและมีประสิทธิภาพล่ะก็ ตามเรามาทางนี้เลยค่ะ เพราะเรามีคำแนะนำดี ๆ ในการเลือกหน้าจอคอมพิวเตอร์เอามาฝาก พร้อมแล้วมาดูกันเลย

                        ข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ที่ควรรู้ไว้

1. ชนิดพาแนล (Panel Type) ที่ใช้
พาแนลหน้าจอนั้น จะมีใช้กันอยู่ หลัก ๆ อยู่ 3 แบบ คือ TN, VA และ IPS ซึ่งจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันอยู่ ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของคุณ สำหรับพาแนล TN และ VA เป็น 2 พาแนลที่ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนัก โดยพาแนลทั้ง 2 แบบนี้จะเหมาสำหรับคนที่ต้องการหาหน้าจอสำหรับใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือเล่นเกมที่ไม่ได้ต้องการความละเอียดของภาพสูงสุด สำหรับพาแนล IPS จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้หน้าจอความละเอียดสูง ๆ สามารถให้สีสันที่แม่นยำ มีความคมชัด สีไม่ผิดเพี้ยน และความตื้นลึกของสีที่ทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น

2. ขนาดของหน้าจอ
ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับคุณ ว่าต้องการหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่มากแค่ไหน โดยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นสามารถเพิ่มอรรถรสในการใช้งานของคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะใช้ทำงาน ดูหนัง หรือเล่นเกม แต่หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นก็จะมีราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งในบทความนี้เราได้เลือกรุ่นที่มีขนาดหน้าจอสูงสุดที่ 24 นิ้ว หากคุณต้องการหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่านี้เราได้ทำการรีวิวไว้แล้ว

3. ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ให้มา
การใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลาย ๆ ชั่วโมงต่อวันนั้น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตาของคุณได้ ดังนั้นหากคุณมีงบประมาณมากพอควรเลือกรุ่นที่มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการป้องกันสายตาของคุณ เช่น เทคโนโลยีการลดแสงสีฟ้า หรือเทคโนโลยีช่วยลดการสั่นหรือกระพริบของภาพ

4. ดีไซน์และขนาดของขาตั้งหน้าจอ
แน่นอนว่าหน้าจอหลาย ๆ รุ่นมีดีไซน์ที่แตกต่างกันอันนี้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของคุณ ส่วนขนาดของหน้าจอนั้นก็มีความสำคัญ หากคุณทีพื้นที่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์จำกัด คุณอาจจะเลือกรุ่นที่มีการออกแบบให้ขาตั้งเล็ก เพื่อให้สามารถจัดวางได้ง่าย

5. ขอบของหน้าจอ และพอร์ตการเชื่อมต่อ
เราขอแนะนำให้เลือกหน้าจอที่มีขอบบาง ๆ จะดีกว่า เพราะนอกจากคุณจะได้ภาพลักษณ์ที่สวยงามขึ้นแล้ว ในอนาคตคุณสามารถซื้อหน้าจอมาเชื่อมต่อเพิ่มอีกตัวได้ ยิ่งหน้าจอมีขอบบางมากเท่าไหร่เมื่อวางติดกัน 2 หน้าจอ จะทำให้ภาพดูต่อเนื่องกัน ไม่มีขอบหน้ามากั้นแบ่ง ให้รำคาญสายตา พอร์ตการเชื่อมต่อเราขอแนะนำให้คุณใช้ Port HDMI จะมีคุณภาพที่สูงกว่า


                      แหละทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อแนะนำดี ๆ ที่เราได้เอามาฝาก แต่ถึงอย่างไรก่อนตัดสินใจเลือกซื้อหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นอย่าลืมสำรวจความต้องการใช้งานของตัวเองด้วยว่าใช้งานด้านใดเป็นหลัก ทำงานเอกสาร พิมพ์งานทั่วไป งานกราฟิก ดูหนัง หรือเล่นเกม เมื่อรู้จุดประสงค์ในการใช้งานก็จะทำให้คุณสามารถเลือกหน้าจอคอมพิวเตอร์นำมาใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ในการทำงานของคุณได้ค่ะ

#จอคอมพิวเตอร์ 

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ค่า Refresh rate คืออะไรและการที่หน้าจอคอมมีค่า Refresh rate สูง ๆ จะส่งผลดีในเรื่องไหนได้บ้าง ?


                  ถ้าพูดถึงเวลาไปเลือกซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ถ้าสังเกตดี ๆ ตรงสเปคหน้าจอ เราจะเห็นว่ามีทั้งจอคอม 60hz, จอคอม 120hz หรือแม้แต่จอคอม 144hz ซึ่งค่าเหล่านี้ ก็หมายถึงค่า Refresh Rate ของจอ โดยจะปรากฏอยู่ในรายละเอียดของสเปคบนคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คในหลาย ๆ รุ่น จะมีหน่วยเป็น hz ตั้งแต่ 60hz , 120hz และ 144hz ซึ่งปกติคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คส่วนใหญ่จะมีค่า Refresh Rate พื้นฐานอยู่ที่ 60hz ส่วนรุ่นที่เหมาะสมกับคอเกมเมอร์ ราคาจะอยู่ในระดับกลาง ๆ ถึงสูง โดยค่า Refresh rate มักจะเป็นค่า 120hz ไปจนถึง 144hz แต่ก็ยังมีหลายท่านยังไม่เข้าใจว่าค่า Refresh Rate มีดีอย่างไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ

                ค่า Refresh rate คืออะไรและการที่หน้าจอมีค่า Refresh rate สูงจะส่งผลดีในเรื่องไหนได้บ้าง
ตัวเลข hz เป็นค่า Refresh Rate การแสดงผลของหน้าจอมอนิเตอร์ ตัวเลขยิ่งเยอะยิ่งดี เพราะจะให้ภาพที่ดูนิ่งสบายตา ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 60hz เป็นอย่างน้อย แต่เพื่อให้รองรับการเล่นเกมในแนวแอ็กชั่นหรือ FPS ได้ดีขึ้น ก็ต้องสอดคล้องกับเฟรมเรตที่ออกมาได้อย่างไหลลื่น โดยบางรุ่นปัจจุบันมีสูงถึงจอคอม 144hz แล้ว ซึ่งก็ทำให้เข้ากับเฟรมเรตที่เกิดขึ้นบนการ์ดจอรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงได้ดีกว่าเดิม กรณีที่เฟรมเรตสูงกว่า 60hz อย่างน้อยจอมอนิเตอร์ก็ยังรองรับได้ ไม่เกิดอาการภาพขาดให้เห็น แต่สิ่งที่ต้องสังเกตก็คือ การใช้หน้าจอที่มี hz สูง ๆ นี้อาจจะต้องใช้สายสัญญาณตามที่ผู้ผลิตแจ้งมา เพื่อให้ทำงานได้สอดคล้องกัน เพราะสายสัญญาณบางแบบอาจไม่รองรับการปรับได้สูงมากนักจึงไม่สามารถดึงศักยภาพในการทำงานออกมาได้หมด


                ดังนั้นคนไหนที่ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นหลัก นอกจากจะสามารถมองเห็นรายละเอียดในขณะเล่นได้อย่างชัดเจนแล้ว ก็จะช่วยให้ได้รับประสบการณ์การเล่นที่ดีขึ้นตามไปด้วย แต่ในการที่จะเลือกใช้งานหน้าจอคอม 144hz นั้นก็ต้องมีสเปคของเครื่องที่ดีพอสมควรเนื่องจากว่าหากเรามีจอคอม 144hz แต่สเปคส่งไปไม่ถึง FPS ได้ไม่เกิน 60 FPS ก็ถือว่าเสียของเปล่า

#จอคอม 144hz

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ความแตกต่างของระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ของสมาร์ททีวีที่ต้องดูให้ดีก่อนซื้อ


                    ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนไปด้วย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การใช้งานทีวีแบบธรรมดา ๆ อย่างเดียวคงไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของผู้บริโภคหลาย ๆ คน ทำให้เกิดการพัฒนาจนเป็นสมาร์ททีวีที่สามารถทำอะไรใหม่ ๆ  ได้หลายอย่างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อบูลทธกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ อย่าง สมาร์ทโฟน ลำโพง และอื่น ๆ อีกมากมาย ไหนจะมีฟังก์ชั่นและลูกเล่นต่าง ๆ อีกเพียบที่ช่วยทำให้เราสนุกสนามไปกับการดูมากยิ่งขึ้น แหละที่สำคัญสมาร์ททีวีช่วยให้คุณจัดสรรเวลาในการรับชมรายการต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ หรือเลือกสรรเวลาในการรับชมรายการนั้น ๆ ได้เอง เพียงแค่ใช้ฟังก์ชั่นการบันทึกรายการของสมาร์ททีวี เพียงเท่านี้ก็จะไม่ทำให้คุณพลาดทุกรายการโปรดของคุณเลย ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาดูในสิ่งที่คุณไม่อยากดู คุณสามารถควบคุมทุกอย่างได้หมด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีคุณสมบัติเจ๋ง ๆ อย่างอื่นอีกเพียบที่น่าสนใจโดยสิ่งที่ทำให้สามารถควบคุมและสั่งงานสมาร์ททีวีได้ คือ ระบบปฏิบัติการ ซึ่งมีหลายระบบมาก ว่าแต่จะมีระบบปฏิบัติการแบบไหนบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ

                ความแตกต่างของระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ของสมาร์ททีวี
1.การเปลี่ยนแปลงความเป็นทีวีแบบเดิม ๆ สู่ สมาร์ททีวี ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ยกระดับการใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งการโหลดแอปพลิเคชัน, การเชื่องโยงกับบริการออนไลน์ต่าง ๆ, เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และอื่น ๆ  ซึ่งนับว่าคุณสมบัติในปัจจุบันมีความใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เว้นแต่ยังไม่สามารถโทรเข้าโทรออกได้เท่านั้น

2.Android TV เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาเพื่อการใช้งานร่วมกับ Smart TV และมีความใกล้เคียงกับระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันได้เช่นเดียวกัน มีลูกเล่นที่เรียกว่า Google Cast ในตัว ที่สามารถส่งคอนเทนต์ต่าง ๆ เช่น วีดีโอจาก YouTube จากสมาร์ทโฟนให้ไปแสดงบนหน้าจอได้ พร้อมกันนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกและดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่คุ้นเคยบนสมาร์ทโฟน ให้มาปรากฎบนหน้าจอทีวีด้วย Google Play

3.Web OS เคยเป็นระบบปฏิบัติการที่เคยอยู่ในเครื่อง Palm ยุค 90 ก่อนที่ LG จะนำมาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อการงานร่วมกับ Smart TV ของ LG โดยเฉพาะ ภายใต้หลักการของการเลือกเนื้อหา การเปลี่ยนเเปลงเนื้อหา การควบคุมอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ และ User Interface ที่ให้ความง่ายต่อการใช้งาน

4.Tizen สามารถเชื่อมต่อและแชร์คอนเทนต์ระหว่างอุปกรณ์พกพาและ Smart TV ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วภายในคลิกเดียว พร้อมนำเสนอความง่ายที่จะทำให้การเข้าถึงเมนูต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวก อีกทั้งยังต่อยอด Smart Hub ฟีเจอร์ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน ทั้งการค้นหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ รวมถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

5.Firefox น่าจะเป็นที่รู้จักดีสำหรับท่องเว็บ ในฐานะบราวเซอร์ที่สามารถเพิ่มลูกเล่นหรือปรับแต่งธีมต่าง ๆ ได้ตามใจ ซึ่งปัจจุบัน Firefox ได้เริ่มพัฒนาต่อยอดได้รูปแบบระบบปฏิบัติการ ที่สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟน Panasonic เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่ให้การสนับสนุน Firefox OS เพื่อนำมาใช้กับ Smart TV บ้างแล้ว


                    หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการดูอย่างไร้ขีดจำกัด ก็ไม่ต้องลังเลเลยค่ะ รีบจัด สมาร์ททีวี มาสักเครื่องเลยดีกว่า ขอบอกว่าเดี๋ยวนี้ราคาของสมาร์ททีวีก็ไม่แพงมาก แถมมีหลายแบบให้เลือกซื้อ รูปทรงดีไซน์ของสมาร์ททีวีก็ดูมีความทันสมัย เปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งให้ห้องดูดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

#สมาร์ททีวี