วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2563

ควรเลือกซื้อแท็บเล็ตยังไงหรือเลือกซื้อแท็บเล็ต รุ่นไหนดีที่จะทำให้คุ้มค่ามากที่สุด

 

แท็บเล็ต ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของหลาย ๆ คน ไม่แพ้โทรศัพท์มือถือ ด้วยประโยชน์ใช้สอยมากมาย แถมยังมีหน้าจอขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน ทำให้มองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ และเอาไว้ใช้ทำงานเป็นอย่างยิ่ง แต่ทว่าการจะซื้อแท็บเล็ตสักอันหนึ่งก็ไม่ใช่ราคาถูก ๆ เพราะฉะนั้นควรต้องศึกษาถึงรายละเอียดของเครื่องให้ดี แต่ถ้าใครยังไม่มีรุ่นแท็บเล็ตที่อยากได้และไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อแท็บเล็ต รุ่นไหนดีอยู่ละก็ ตามมาทางนี้เลยเพราะเราจะบอกถึงวิธีเลือกซื้อแท็บเล็ตที่เหมาะสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับคุณเอง เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย

ควรเลือกซื้อแท็บเล็ตยังไงหรือเลือกซื้อแท็บเล็ต รุ่นไหนดีที่จะทำให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด

1. คุณต้องการใช้แท็บเล็ตทำอะไร

ก่อนอื่นคุณต้องทราบจุดประสงค์ของตัวเองก่อนว่าคุณต้องการใช้งานแท็บเล็ตในด้านไหน อาทิเช่น ต้องการใช้สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ตเพื่อดูซีรีส์ ภาพยนต์ หรืออาจจะบ้างช่วงเวลาที่เล่นเกมบางเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่า iPad Pro จะเป็นตัวเลือกไม่เหมาะสำหรับคุณเท่าไหร่ แม้ว่ามันจะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ยอดเยี่ยมก็ตาม เพราะคุณแค่ใช้เล่นอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นซื้อจงแท็บเล็ตที่เหมาะสมตามจุดประสงค์การเล่นของคุณ เพื่อคามคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด

2. ระบบปฏิบัติการของแท็บเล็ต

ระบบปฏิบัติการของแท็บเล็ตไม่ว่าจะเป็น iOS Android หรือ Windows นั้นล้วนแล้วแต่เป็นระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความถนัด และความชอบส่วนบุคคลมากกว่า หรือหากคุณมีอุปกรณ์อย่างอื่นที่เป็นผลิตภัณฑ์ของ Apple แน่นอนว่าการเลือกซื้อระบบปฏิบัติการ iOS นั้นจะเอื้ออะนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ให้คุณมากกว่า แต่หากคุณไม่ได้ยึดติดกับการใช้ผลิตภัณฑ์ในเครือเดียวกัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำคัญว่าคุณจะใช้อะไร เพราะที่จริงแล้วปัญหาการอ่านหรือจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ นั้นเราสามารถทำได้บนพื้นที่บริการเก็บข้อมูลบนคลาวด์ อาทิเช่น Dropbox, Google Drive หรือ OneDrive เป็นต้น

3. พื้นที่เก็บข้อมูล

หากเป็นเมื่อก่อนพื้นที่เก็บข้อมูลถือนั้นถือเป็นตัวเลือกที่เราไม่ควรมองข้าม หากเรามีความจำเป็นในการใช้พื้นที่เยอะ ๆ แต่เนื่องจากสมัยนี้มีบริการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้แล้ว ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้พื้นที่เท่าไหร่ก็ได้ตามที่เราต้องการ และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายไม่ว่าคุณจะล็อกอินด้วยอุปกรณ์เครื่องใดก็ตาม ไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลจะสูญหายอีกด้วย

4. ใช้งานในการวาดหรือเน้นงานออกแบบหรือไม่

หาดคุณต้องการใช้งานในด้านนี้เราขอแนะนำว่า ระบบปฏิบัติของ iOS และ Android ดูเหมือนจะทำออกมาได้ดีกว่าระบบปฏิบัติของ Windows

เชื่อเลยว่าหากคุณไม่ได้ศึกษาข้อมูลไว้จะต้องตัดสินใจได้ยากแน่นอน หรือถ้าไม่รู้ว่าควรที่จะต้องเลือกซื้อแท็บเล็ต รุ่นไหนดี ที่จะมาตอบโจทย์ในการใช้งานของคุณ เพราะแท็บเล็ตที่มีวางขายอยู่ในทุกวันนี้ก็มีมากมายหลายรุ่นจริง ๆ แถมบางรุ่นบางยี่ห้อก็ไม่มีศูนย์บริการ อาจจะกลายเป็นสูญเงินฟรีไปเลยก็เป็นได้ ดังนั้นต้องพิจารณาให้ดีก่อนทำการเลือกซื้อกันด้วยนะคะ

#แท็บเล็ต รุ่นไหนดี

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2563

ควรที่จะเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ยังไง หรือเลือกแบบไหนดี ถึงจะได้จอคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดในการนำมาใช้งาน

 


การที่จะเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนั้นจำเป็นที่จะต้องดูในหลาย ๆ ส่วนมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ รุ่น ยี่ห้อ รวมไปจนถึงในเรื่องของราคา ทำให้ยากต่อการตัดสินใจซื้อยิ่งถ้าคนที่ไม่ค่อยรู้ในเรื่องรายละเอียดของจอคอมพิวเตอร์เลย ก็อาจจะทำให้พลาดกันได้ง่าย ๆ บางทีอาจจะซื้อมาแพงเกินไปแล้วใช้งานได้ไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไป หรือไม่ตรงกับความต้องการใช้งานก็เป็นไปได้ ดังนั้นเราจึงอยากจะมาแนะนำเรื่องสำคัญก่อนที่จะทำการตัดสินใจเลือกซื้อ จอคอมพิวเตอร์สักตัวหนึ่งให้ว่าจะต้องเรียนรู้ และทำความใจในเรื่องไหนบ้างในลำดับแรก ๆ เพื่อให้เราสามารถเลือกซื้อได้อย่างตรงกับความต้องการใช้งานของเราได้มากที่สุด พร้อมแล้วก็มาดูกันเลย

สิ่งที่ควรต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์

เนื่องจาก LED คือเทคโนโลยีใหม่ที่ให้ทั้งภาพ สีสันสดใสกว่า ดังนั้น ในตลาดปัจจุบันส่วนใหญ่จึงเป็นจอภาพ LED แทบทั้งสิ้น สำหรับรายละเอียดนอกเหนือจากการเลือกซื้อจอ LED นั้นประกอบด้วย

1.ขนาดหน้าจอ (Size) ขึ้นต่ำแนะนำให้ซื้อ 20 นิ้วขึ้นไป เวลาวัดจะวัดในแนวเส้นทแยงมุม ไม่ได้วัดจากซ้ายไปขวา

2.ความละเอียด (Resolution) อย่างน้อยก็ควรเป็นระดับ HD หรือ 1920 x 1080

3.สัดส่วนหน้าจอ ส่วนใหญ่จะมีขนาด 16:9 ซึ่งเราเรียกว่า Widescreen หรือจะเลือกแบบเดิม ๆ คือ 5:4 ซึ่งมีชื่อว่า Squre (หน้าจอรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เป็น Widescreen ซึ่งเหมาะสำหรับการดูวีดีโอเป็นหลัก)

4.ขนาด Pixel (Pixel Pitch) ยิ่งมีขนาดเล็ก ยิ่งให้ความคมชัดสูงขึ้น เช่น 0.277 x 0.277 mm เป็นต้น ข้อสังเกต ยิ่งขนาดของ Pixel เล็กมากเท่าไหร่ ราคาก็แพงขึ้นเป็นเงาตามด้วยเช่นกัน

5.ความคมชัด (Contrast) ยิ่งมาก ยิ่งคมชัด ตัวอย่างเช่น Contrast 10,000,000:1 กับ 20,000,000:1 เป็นต้น 20,000,000 ย่อมแสดงความสว่างของภาพได้ดีกว่า

6.ลำโพง จอภาพบางรุ่นมีลำโพงในตัว แถมยังมีสายต่อให้มาอีกด้วย

7.พอร์ต (Ports) การเชื่อมต่อ เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อจอ ไม่ควรละเลย เพราะจะเป็นตัวบ่งบอกราคา และความคมชัดได้อีกอย่างหนึ่ง พอร์ตพื้นฐานที่มีคือ VGA / DVI / D-Sub และล่าสุดของพอร์ตก็คือ HDMI

8.เวลาในการแสดงผล (Response Time) ส่วนใหญ่ก็อยู่ประมาณ 5 ms ถ้ามากก็ยิ่งนานกว่าจะแสดงผลได้

9.ความมืด ความสว่าง (Brightness) จะอยู่ประมาณ 200 – 300 cd/m2

เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุก ๆ คน ในการที่จะตัดสินใจเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์มาใช้งานกันได้ง่ายขึ้นนะคะ รวมถึงสามารถที่จะเลือกหน้าจอภาพที่ดีมีคุณภาพให้กับตนเองได้ ที่สำคัญอย่าลืมที่จะสำรวจตนเองว่าต้องการใช้งานด้านใดเป็นหลัก ทำงานเอกสาร พิมพ์งานทั่วไป งานกราฟิก ดูหนัง หรือเล่นเกม เมื่อคุณรู้จุดประสงค์ในการใช้งานครบทุกข้อแล้ว ก็จะช่วยให้คุณสามารถเลือกหน้าจอที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้ค่ะ

 #จอคอมพิวเตอร์ 

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2563

วิธีเลือกหน้าจอ led ให้ได้ดีและคุ้มค่าต่อการใช้งาน

 

ถ้าพูดถึงจอคอมพิวเตอร์ คนส่วนใหญ่ก็ต้องนึกถึงคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ซึ่งในความเป็นจริง จอคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันทั่ว ๆ ไป สามารถนำมาต่อกับ Notebook ได้เช่นเดียวกัน เพื่อให้หน้าจอการใช้งานมีขนาดใหญ่ขึ้น และสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย เพราะฉะนั้นการเลือกประเภทหน้าจอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญโดยหน้าจอที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจะเป็นหน้าจอ led ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาออกมาล่าสุดจึงทำให้มีประสิทธิภาพกว่าหน้าจอประเภทอื่น ๆ และวันนี้เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกซื้อหน้าจอ led เอามาฝากให้กับทุก ๆ คนด้วยมาดูกันเลย

การเลือกซื้อหน้าจอ led  ให้ได้ดีและคุ้มค่าต่อการใช้งาน

1.ค่าความละเอียดของหน้าจอ : นี่เป็นสิ่งแรกที่ต้องดู ค่าความละเอียดที่ว่านี้จะบอกมาเป็นตัวเลข 2 ชุดคูณกันอยู่ เช่น 1920 x 1080 เป็นต้น ให้เลือกความละเอียดสูงสุดที่ยังอยู่ในงบประมาณของเรา

2.ค่า Refresh Rate : เป็นค่าอัตราการกระพริบหน้าจอ ยิ่งมากก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้เราเห็นภาพคมชัดมากขึ้น แต่นั่นก็หมายถึงการทำงานของกลไกอื่น ๆ ที่มากขึ้นด้วย จึงต้องหาจุดเหมาะสมที่ตัวเองต้องการให้ได้ก่อน

3.ขนาดของจอ : อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะของงานที่ทำ บางอย่างต้องการความกว้างของจอมาก แต่บางอย่างความกว้างของจอก็ไม่มีผลอะไรเลย

4.ช่องเชื่อมต่อ : จอคอมพิวเตอร์ทุกอันไม่ได้มีช่องเชื่อมต่อเหมือนกันหมด เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีช่องเชื่อมต่อแบบที่เราต้องการหรือไม่ เช่น มี HDMI หรือไม่ มี VGA หรือไม่ เป็นต้น

5.ขนาดของ Pixel : ตรงนี้เพียงแค่เลือกให้มีค่ามากเข้าไว้ก็พอแล้ว เพราะยิ่งค่ามากภาพก็ยิ่งคมชัด

หน้าจอ led ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ เพราะฉะนั้นจึงคุ้มค่าต่อการลงทุนที่จะซื้อของดี และถ้าจะให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าก็ควรที่จะต้องดูแล ทะนุถนอมมันด้วย เพื่อที่จะได้ใช้งานไปได้นาน ๆ นั่นเองค่ะ

#จอ led


วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563

เลือกซื้อ tv 4k ยังไงให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

 

      ปัจจุบันเป็นยุคที่ tv ไม่ได้เป็นจอแสดงภาพแบบธรรมดาอีกต่อไปแต่กลับเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะเพิ่มระดับความบันเทิงให้คุณมากขึ้นกว่าที่เคย ในที่นี้เราจะกล่าวถึง tv 4k ที่มีความละเอียดของภาพอย่างน้อย 3,840 x 2,160 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่มากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า ทำให้คุณได้อรรถรสความบันเทิงยิ่งขึ้น ด้วยภาพที่คมชัดสมจริงและแสงสีที่สวยงามเป็นธรรมชาติมากที่สุดจึงไม่แปลกเลยที่ tv 4k จะกลายเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและเมื่อมีผู้บริโภคเยอะ ผู้ผลิตก็เลยมีเยอะ ทำให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่สูงขึ้น ทำให้ tv ที่วางขายกันตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปก็เลยมีให้เลือกหลายรุ่นจากหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างก็งัดเอาไม้เด็ดมากมายมาดึงดูดความสนใจลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีของภาพ, คุณภาพของเสียง, ขนาดจอและอื่น ๆ อีกเพียบที่ทำให้คุณเริ่มสับสนแล้วเลือกซื้อไม่ถูกว่าควรจะเลือกยังไง เพราะแบบนี้เราจึงได้รวบรวมเอาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อ tv 4k ที่ดีเอามาฝาก พร้อมแล้วมาดูกันเลย

                วิธีการเลือกซื้อ tv 4k

1.เลือกซื้อจากชนิดของจอและประสิทธิภาพที่ต้องการ

จอ tv 4k ที่เห็นกันว่าให้ภาพสวยงามนั้น จริง ๆ แล้วยังแบ่งย่อยตามแต่ละชนิดของจอที่นำมาใช้ ซึ่งมีผลให้เกิดความแตกต่างกันอยู่บางประการ ผู้อ่านควรทำความเข้าใจในจุดนี้อย่างละเอียดเพื่อประโยชน์ในการเลือกซื้อได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

                จอ LCD ชนิด “Direct Type” เน้นให้เกิดภาพคมชัด คุณภาพระดับสูง

                จอ LCD ชนิด “Edge Type” เล็กกว่า บางกว่าและกินไฟน้อยกว่า

                จอภาพชนิด “Organic EL Display” เครื่องบาง น้ำหนักเบา

2.เลือกทีวีระบบ IPS (In-Plane Switching) แก้ปัญหาจอภาพมุมแคบได้ดีเยี่ยม

จอ LCD นั้นมีระบบการทำงาน 2 รูปแบบ ได้แก่ ระบบ VA และ IPS ที่ส่งผลให้เกิดมุมภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งกระทบต่อการดูภาพผ่านจอทีวี 4K ที่ส่วนมากจะทำออกมาให้มีขนาดใหญ่ ภาพที่ได้จึงจะเปลี่ยนแปลงไปตามเหลี่ยมของมุมมองการดู

ระบบ VA (Vertical Alignment) จะปรับทิศทางของผลึกเหลวทำมุมแนวกว้างที่ 160 องศา ภาพที่ได้จะเปลี่ยนไปเมื่อผลึกเหลวออกห่างจากขั้วไฟฟ้า เกิดเป็นภาพมุมมองแคบ ในขณะที่ระบบ IPS ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการวางผลึกเหลวมาเป็นการวางตามแนวขนานกับระนาบ สามารถทำมุมมองได้กว้างขึ้นแม้ผลึกเหลวจะออกห่างจากขั้วไฟฟ้าก็ตาม

3.เทคโนโลยี HDR ช่วยเสริมให้ภาพคมชัดสมจริงมากขึ้น

HDR ย่อมาจาก High Dynamic Range เป็นคำที่ใช้อย่างแพร่หลายในวงการการถ่ายภาพ/วิดีโอ หมายถึงการปรับเฉดสีให้มากขึ้นเพื่อให้ใกล้เคียงกับสีตาที่มนุษย์เห็น ซึ่งฟังก์ชัน HDR ในทีวีนี้จำเป็นต่อคนที่เล่นเกมและดูหนัง/ซีรี่ย์ผ่านเครื่องเล่น DVD ที่คุณอยากเห็นภาพและแสงที่เสมือนจริงที่สุดราวกับได้ดูต้นฉบับที่เขาถ่ายทำมา

นอกจากนี้ ระบบ HDR ยังเป็นการปรับความต่างของค่าแสงระหว่างความสว่างกับความมืดจนได้เป็นแสง-สีที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความเรียลผ่านจอภาพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

4.ตรวจสอบเรื่องสถานีส่งสัญญาณภาพ 4k ว่า กล่องรับสัญญาณภาพ 4k หรือเปล่า

                นอกจากประเด็นต่าง ๆ ข้างต้นที่คุณต้องคำนึงถึงเมื่อจะตัดสินใจซื้อ tv 4k มาไว้ใช้งานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องตรวจสอบคือ สถานีส่งสัญญาณภาพ 4k ว่ากล่องรับสัญญาณภาพซัพพอร์ต 4k หรือไม่ หากสัญญาณจากต้นทางส่งมาเป็นแบบ HD แม้ว่าเราจะใช้ tv 4k แต่ภาพที่ได้ก็จะมีความละเอียดสูงสุดที่ HD เท่านั้น

#tv 4k 


วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563

วิธีในการเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้ได้คุณภาพที่ดีและตรงกับความต้องการใช้งาน

 


ต้องบอกเลยว่าเดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์การทำอาหาร ที่ให้ทั้งความสะดวกสบายในการนำไปใช้งานนั้นอยู่เยอะมาก และหนึ่งในนั้นก็น่าจะมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ด้วย เพราะด้วยความที่เป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก และปลอดภัยแล้ว ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่าการใช้เตาธรรมดาในการปรุงอาหารอีกด้วย จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค นอกจากประโยชน์เหล่านี้แล้วเตาแม่เหล็กไฟฟ้าในปัจจุบันก็มีรูปแบบอย่างหลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อเอาไปใช้งานได้อย่างตรงจุดประสงค์ได้อีกด้วย ซึ่งถ้าหากว่าใครที่เลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าไม่เป็นหรือเลือกไม่ถูกว่าต้องดูยังไงอยู่ล่ะก็ ตามเรามาทางนี้ได้เลยเพราะเรารวบรวมมาให้แล้วว่าต้องดูยังไงและดูจากอะไรบ้าง เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วก็มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

วิธีในการเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้ได้คุณภาพที่ดีและตรงกับความต้องการใช้งาน

1. เลือกวัสดุที่มีคุณภาพ

เตาแม่เหล็ก ขั้วต่อปลั๊กไฟ และสายไฟ คือสิ่งที่คุณควรเลือกพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ โดยเลือกที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน แข็งแรงทนทาน ผลิตจากวัสดุที่ทนความร้อนได้ดี ทนทานต่อการกัดกร่อน และการละลายจากการโดนความร้อนนาน ๆ อีกทั้งอุปกรณ์ภายในต่าง ๆ ควรผ่านการเคลือบกันสนิมด้วยนะคะ

2. กำลังไฟ และการปรับระดับความร้อน

กำลังไฟและฟังก์ชันการปรับระดับความร้อนนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญมาก เพราะหากกำลังไฟน้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้อาหารร้อนช้า หรือสุกช้า ซึ่งจะทำให้คุณเสียเวลามากในการปรุงอาหารมากขึ้น แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากได้กำลังที่สูง เพื่อใช้ประกอบอาหารให้รวดเร็วและ ใคร ๆ ก็ต้องการระดับความร้อนที่สามารถปรับได้ตามความการเพื่อทำเมนูอาหารหลากหลาย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กำลังไฟและการปรับระดับร้อนจะมีราคาสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือคุณสมบัติเหล่านั้นจะเป็นตัวที่กำหนดราคานั้นเอง

3. ทำความสะอาดได้ง่าย

อาหารและน้ำมันที่กระเด็นจากหม้อหรือกระทะ ในขณะที่ปรุงอาหารมักจะติดเป็นคราบสกปรกอยู่ที่เตาตลอด ดังนั้นคุณควรเลือกเตาแม่เหล็กที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยการเช็ด โดยไม่ทิ้งคราบไว้

4. ฟังก์ชันด้านความปลอดภัย

เตาแก๊สแบบปกตินั้น ถือว่ามีความปลอดภัยค่อนข้างต่ำ เพราะหากเผลอเปิดไฟทิ้งไว้ ปิดแก๊สไม่สนิท หรือแก๊สรั่วไหล ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ได้ง่าย ๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างแน่นอน แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องให้ความสำคัญ นั้นคือระบบรักษาความปลอดภัย อาทิเช่น มีระบบตัดไฟเองอัตโนมัติ ป้องกันการเสียบปลั๊กหรือเปิดเครื่องทิ้งไว้ และในบางรุ่นนั้นก็มีแจ้งเตือนสำหรับภาชนะที่ใช้ได้ว่าสามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่

5. การรับประกันสินค้า

คุณควรจะเลือกสินค้าที่มีการรับประกันสินค้าทุกครั้ง เพราะถ้าหากเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามีปัญหาระหว่างขนส่ง หรือระหว่างการใช้งาน เราก็จะสามารถส่งเคลมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนั่นเองค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับวิธีในการเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เราได้เอามาฝากให้กับทุก ๆ คน ได้เอาไว้พิจารณากัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณควรเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับทั้งความต้องการใช้งานของคุณ และควรอยู่ในงบประมาณที่กำหนดไว้ เพื่อให้ได้สินค้าที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด นอกจากนี้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลรักษาเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้ถูกวิธีด้วยนะคะ เพราะมันจะช่วยให้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าของคุณสามารถใช้งานได้นานยิ่งขึ้นค่ะ

#เตาแม่เหล็กไฟฟ้า


วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563

วิธีเลือกซื้อลำโพงบลูทูธให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด

 


  ลำโพงบลูทูธถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความบันเทิงให้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรสโดยตรงจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ผ่านการเชื่อมต่อแบบ Wireless ที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น และยังง่ายต่อการพกพาไปในที่ต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันก็มีลำโพงบลูทูธออกมาวางขายหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งยังจัดเต็มไปด้วยฟังก์ชันที่เน้นการใช้งานในด้านอื่น ๆ อีกเพียบ ดังนั้นเพื่อไม่ให้พลาดในการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธเพื่อเอามาใช้งานเราจึงอยากแนะนำให้เลือกซื้อตามนี้

การเลือกซื้อลำโพงบลูทูธให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการนำไปใช้งานของผู้ฟังให้ได้มากที่สุด

1. ขนาดลำโพงและสถานที่

สถานที่มีส่วนสัมพันธ์กับขนาดของลำโพง ยิ่งพื้นที่ที่จะใช้มีขนาดกว้าง ลำโพงก็ต้องมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย ซึ่งอยู่ที่ตัวเราว่ามักจะเปิดลำโพงฟังในห้องไหน ถ้าเป็นพวกห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องน้ำ ก็สามารถใช้ลำโพงขนาดเล็กได้ แต่ถ้าต้องการเปิดในที่กลางแจ้งหรือห้องโถง ก็ควรใช้ลำโพงขนาดใหญ่

2.พกพาติดตัวไปด้วยบ่อยหรือไม่

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบพกลำโพงติดตัวไปด้วยทุกที่ เพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ให้ชีวิต ก็ต้องดูด้วยว่าปกติแล้วคุณมักเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารประจำทาง หากคุณมีรถยนต์ส่วนตัวจะเลือกลำโพงขนาดใหญ่แค่ไหนก็ได้ แต่หากคุณต้องโดยสารด้วยรถประจำทาง ก็ควรเลือกลำโพงขนาดเล็ก เพราะสะดวกและง่ายต่อการพกพา

3.ต้องการปกป้องระดับไหน

การใช้งานลำโพงของคุณสมบุกสมบันหรือไม่ ตั้งใจจะเอาไปตั้งแคมป์ บุกป่า ผ่าดง ก็คงหนีไม่พ้นที่จะเปรอะเปื้อนเศษหิน ดิน ทราย คงต้องเลือกลำโพงรุ่นที่กันเศษทรายเข้าไปข้างในได้ เพราะเศษทรายคือตัวการร้ายที่จำทำให้ลำโพงพังนั่นเอง ส่วนคนที่ชอบไปนอนชิวกลางน้ำ หรือชอบฟังเพลงขณะอาบน้ำไปด้วย ก็ควรเลือกใช้ลำโพงที่กันน้ำ เพราะช่วยป้องกันทั้งอันตรายจากไฟดูด และไม่ทำให้ลำโพงเสียหายอีกด้วย

4.ขนาดความจุของแบตเตอรี่

ลำโพงแต่ละตัวมีขนาดความจุของแบตเตอรี่ที่ไม่เท่ากัน ซึ่งโดยปกติสามารถใช้งานได้นานติดต่อกันตั้งแต่ 5–30 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความจุของตัวแบตเตอรี่ด้วย โดยหากคุณไม่ชอบที่จะต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ ก็ควรเลือกใช้ลำโพงที่มีความจุของแบตเตอรี่เยอะ ๆ นั่นเอง

5.ฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สำหรับใครที่ต้องการให้ลำโพงทำงานได้หลาย ๆ หน้าที่ เช่น สามารถเปลี่ยนเป็น Power Bank ที่ไว้สำหรับชาร์จมือถือได้ ทั้งยังง่ายต่อการพกพา โดยพกแค่ลำโพงติดตัวไปอย่างเดียว ไม่ต้องพก Power Bank ไปอีกให้วุ่นวาย หรือจะเลือกลำโพงที่สามารถต่อกับลำโพงตัวอื่น ๆ หลายตัวได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งาน ก็ดูน่าสนใจไปอีกแบบ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับวิธีการเลือกลำโพงบลูทูธที่เราเอามาฝาก ซึ่งอันที่จริงแล้วในการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธดี ๆ สักรุ่นนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมคะ แม้ว่าลำโพงบลูทูธที่วางขายอยู่ในปัจจุบันจะมีหลากหลายรูปแบบ แต่หากคุณพิจารณาเลือกซื้อจากหลักการที่เราได้แนะนำไปแล้วล่ะก็ รับรองว่าคุณจะต้องได้สินค้าที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของตัวเองอย่างแน่นอนค่ะ

#ลำโพงบลูทูธ

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563

สิ่งสำคัญที่ควรต้องดูให้ละเอียดในการเลือกซื้อหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ได้จอคอม ราคาถูกและมีคุณภาพดีในการใช้งาน

 


สำหรับบรรดาเหล่าเกมเมอร์ คนที่ชอบดูหนัง ดูวิดีโอ ทำงานกราฟิก การมีหน้าจอคอม ที่มีภาพคมชัด สวยงาม ดูแล้วลื่นไหล ภาพไม่กระตุกหรือแตก ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังนั้นเวลาเลือกซื้อจอคอม จึงต้องดูสเปคต่าง ๆ ของเครื่องให้ดี ซึ่งตอนนี้บอกเลยว่าจอคอม นั้นมีอยู่มากมายหลายรุ่นหลายแบรนด์ และหลายช่วงราคา ทำให้การเลือกซื้อจอ คอม นั้นยากขึ้นไปอีก และยิ่งถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องรายละเอียดของจอคอมพิวเตอร์เลยก็อาจจะพลาดกันได้ง่าย ๆ เพราะอาจจะได้จอคอม ราคาแพง ๆ ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานก็เป็นได้ ดังนั้นเพื่อที่จะให้ได้จอคอม ราคาที่ดีสมเหตุสมผลกับการใช้งานก็ควรลองศึกษาถึงสเปคของเครื่องและความต้องการใช้งานก่อนซื้อให้ดี  ๆ แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงหรือเลือกแบบไหนดี ก็ตามมาทางนี้เลยค่ะ เพราะเรามีคำแนะนำดี ๆ ในการเลือกหน้าจอคอมพิวเตอร์เอามาฝากให้กับทุก ๆ คนด้วย พร้อมแล้วก็มาดูกันเลย

                คำแนะนำดี ๆ ที่ไม่ควรพลาดในการเลือกหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ได้จอคอม ราคาถูกคุณภาพดี

1.ชนิดพาแนล (Panel Type) ที่ใช้

พาแนลหน้าจอนั้น จะมีใช้กันอยู่ หลัก ๆ อยู่ 3 แบบ คือ TN, VA และ IPS ซึ่งจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันอยู่ ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของคุณ สำหรับพาแนล TN และ VA เป็น 2 พาแนลที่ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนัก โดยพาแนลทั้ง 2 แบบนี้จะเหมาสำหรับคนที่ต้องการหาหน้าจอสำหรับใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือเล่นเกมที่ไม่ได้ต้องการความละเอียดของภาพสูงสุด สำหรับพาแนล IPS จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้หน้าจอความละเอียดสูง ๆ สามารถให้สีสันที่แม่นยำ มีความคมชัด สีไม่ผิดเพี้ยน และความตื้นลึกของสีที่ทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น

2.ขนาดของหน้าจอ

ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับคุณ ว่าต้องการหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่มากแค่ไหน โดยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นสามารถเพิ่มอรรถรสในการใช้งานของคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะใช้ทำงาน ดูหนัง หรือเล่นเกม แต่หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นก็จะมีราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งในบทความนี้เราได้เลือกรุ่นที่มีขนาดหน้าจอสูงสุดที่ 24 นิ้ว หากคุณต้องการหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่านี้เราได้ทำการรีวิวไว้แล้ว

3.ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ให้มา

การใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลาย ๆ ชั่วโมงต่อวันนั้น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตาของคุณได้ ดังนั้นหากคุณมีงบประมาณมากพอควรเลือกรุ่นที่มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการป้องกันสายตาของคุณ เช่น เทคโนโลยีการลดแสงสีฟ้า หรือเทคโนโลยีช่วยลดการสั่นหรือกระพริบของภาพ

4. ดีไซน์และขนาดของขาตั้งหน้าจอ

แน่นอนว่าหน้าจอหลาย ๆ รุ่นมีดีไซน์ที่แตกต่างกันอันนี้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของคุณ ส่วนขนาดของหน้าจอนั้นก็มีความสำคัญ หากคุณทีพื้นที่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์จำกัด คุณอาจจะเลือกรุ่นที่มีการออกแบบให้ขาตั้งเล็ก เพื่อให้สามารถจัดวางได้ง่าย

5.ขอบของหน้าจอ และพอร์ตการเชื่อมต่อ

เราขอแนะนำให้เลือกหน้าจอที่มีขอบบาง ๆ จะดีกว่า เพราะนอกจากคุณจะได้ภาพลักษณ์ที่สวยงามขึ้นแล้ว ในอนาคตคุณสามารถซื้อหน้าจอมาเชื่อมต่อเพิ่มอีกตัวได้ ยิ่งหน้าจอมีขอบบางมากเท่าไหร่เมื่อวางติดกัน 2 หน้าจอ จะทำให้ภาพดูต่อเนื่องกัน ไม่มีขอบหน้ามากั้นแบ่ง ให้รำคาญสายตา พอร์ตการเชื่อมต่อเราขอแนะนำให้คุณใช้ Port HDMI จะมีคุณภาพที่สูงกว่า

และไม่ว่าคุณจะเลือกหน้าจอคอม ราคาเท่าไร แบบไหน หรือยี่ห้อไหนอะไร สิ่งสำคัญก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อเลย คืออย่าลืมดูก่อนว่าคุณมีจุดประสงค์ที่จะใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบไหน อย่างไร และยี่ห้อไหนที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมที่สุดด้วยนะคะ

#จอคอม ราคา


วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2563

ข้อมูลพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนที่จะซื้อหน้าจอมอนิเตอร์เอามาใช้งาน

 


การทำงานในทุกวันนี้เราใช้คอมพิวเตอร์ทำงานกันเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นประสิทธิภาพของตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะมีผลต่อการทำงาน โดยเฉพาะหน้าจอมอนิเตอร์หรือหน้าจอแสดงผล เพราะถ้าหน้าจอไม่ดี สีเพี้ยน แสดงภาพออกมาได้ไม่ชัดเจน มองเห็นตัวหนังสือไม่ชัดเจน ก็อาจจะส่งผลเสียให้กับงานที่กำลังทำอยู่ได้ ดังนั้นหน้าจอจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรลงทุนซื้อแบบดี ๆ  เพื่อที่จะได้เห็นงานที่ทำได้อย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งถ้าใครไม่รู้พื้นฐานในการเลือกซื้อหน้าจอมอนิเตอร์ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เพราะเราจะมาแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรต้องรู้ในการเลือกซื้อหน้าจอมอนิเตอร์ให้เอง ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ

ข้อมูลพื้นฐานที่เราควรรู้ก่อนที่จะซื้อหน้าจอมอนิเตอร์ในการนำมาใช้งาน

1.ค่าความละเอียดของหน้าจอ : นี่เป็นสิ่งแรกที่ต้องดู ค่าความละเอียดที่ว่านี้จะบอกมาเป็นตัวเลข 2 ชุดคูณกันอยู่ เช่น 1920 x 1080 เป็นต้น ให้เลือกความละเอียดสูงสุดที่ยังอยู่ในงบประมาณของเรา

2.ค่า Refresh Rate : เป็นค่าอัตราการกระพริบหน้าจอ ยิ่งมากก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้เราเห็นภาพคมชัดมากขึ้น แต่นั่นก็หมายถึงการทำงานของกลไกอื่น ๆ ที่มากขึ้นด้วย จึงต้องหาจุดเหมาะสมที่ตัวเองต้องการให้ได้ก่อน

3.ขนาดของจอ : อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะของงานที่ทำ บางอย่างต้องการความกว้างของจอมาก แต่บางอย่างความกว้างของจอก็ไม่มีผลอะไรเลย

4.ช่องเชื่อมต่อ : จอคอมพิวเตอร์ทุกอันไม่ได้มีช่องเชื่อมต่อเหมือนกันหมด เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีช่องเชื่อมต่อแบบที่เราต้องการหรือไม่ เช่น มี HDMI หรือไม่ มี VGA หรือไม่ เป็นต้น

5.ขนาดของ Pixel : ตรงนี้เพียงแค่เลือกให้มีค่ามากเข้าไว้ก็พอแล้ว เพราะยิ่งมากภาพก็ยิ่งคมชัด

แหละไม่ว่าคุณจะเลือกหน้าจอมอนิเตอร์แบบไหนอีกสิ่งหนึ่งที่คุณห้ามละเลย คือการดูแลดวงตาของคุณในระหว่างใช้งานคอมพิวเตอร์ ควรหาวิธีป้องกันไม่ให้สายตาของคุณโดนแสงจากหน้าจอโดยตรง เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อดวงตาของคุณได้ ควรหาแว่นกันแสงมาใส่ หรืออาจจะติดฟิล์มกรองเเสงก็ได้ค่ะ

#มอนิเตอร์


วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2563

เรื่องที่คุณอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับหูฟัง in ear

 


ในปัจจุบันมีหูฟังอยู่หลายรูปแบบซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะเหมาะกับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาหูฟังชิ้นใหม่ เอามาใช้งานแต่ยังไม่รู้ว่าควรที่จะต้องเลือกแบบไหนดี ตามเรามาทางนี้ได้เลย เพราะเราจะมาแนะนำหลักการง่าย ๆ ในการเลือกซื้อหูฟังให้เอง แต่ก่อนอื่นเราของจำแนกหูฟังออกมาเป็นประเภทหลัก ๆ ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่หูฟัง Earbuds, หูฟัง in ear ,Full-Size และหูฟัง On-Ear  ซึ่งหูฟัง in ear นั้นถือว่าเป็นหูฟังที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้เพราะด้วยข้อดีหลาย ๆ อย่างที่ตอบโจทย์กับการใช้งานของคนรุ่นใหม่ แต่ทว่าของใช้ทุก ๆ อย่างมันก็ล้วนมีทั้งของดีและก็ข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น เพราะแบบนี้เราจึงอยากที่จะนำเสนอถึงข้อดีและข้อเสียของหูฟังแบบ in ear ให้เอง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อได้ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ว่าแล้วเราก็มาดูกันเลย

ข้อดี ข้อเสียของหูฟัง in ear ที่ควรรู้ก่อนซื้อ

ข้อดี พกพาไปใช้งานได้อย่างสะดวก สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีในระดับของ Passive ซึ่งเป็นผลจากการสวมใส่แบบยัดเข้ารูหูโดยตรง โดยจะให้รายละเอียดของเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถจับต้องรายละเอียดของเสียงเพลงได้มากว่าแบบ Earbuds มีการเก็บเสียงที่ดี เหมาะสำหรับใช้งานที่ที่อึกทึกมาก ๆ ดังนั้นในส่วนใหญ่เค้าจะเอามาใช้งานด้านเสียง มากกว่าเอามาฟังเพลง เพราะสามารถป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีมาก ๆ

ข้อเสีย เนื่องจากหูฟัง in ear  นั้นจะมีลักษณะการสวมใส่แบบยัดเข้ารูหูโดยตรงจึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างที่กำลังเรียกเราอยู่อาจก่อให้เกิดอันตราย ได้ถ้าหากต้องเดินในที่สาธารณะ นอกจากนี้คนที่ไม่เคยสวมใส่หูฟังประเภทนี้มาก่อนนั้นมีอาการเจ็บหูซึ่งบางคนอาจถึงขั้นปวดเลยก็มี แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นอันตรายถึงขั้นร้ายแรงเมื่อผ่านช่วงสัปดาห์แรกไปแล้วการสวมใส่ก็จะง่ายขึ้น และอาการเจ็บเหล่านั้นจะหายไปเอง และสามารถใช้งานหูฟังประเภทนี้ได้ตามปกติโดยไม่เจ็บ

หูฟัง in ear  นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานใน Studio , Stage และ PA เป็นหลัก เพราะความที่มันมีระบบ isolation หรือ การเก็บเสียงที่ดี ทำให้ส่วนใหญ่เค้าจะเอามาใช้งานด้านเสียง มากกว่าเอามาฟังเพลง เพราะสามารถป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีนั่นเองค่ะ

#หูฟัง in ear

'