วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2564

ข้อดี และข้อเสียของการใช้หูฟัง in ear ที่หลาย ๆ คนไม่เคยรู้

 


ปัจจุบันมีหูฟังอยู่หลายรูปแบบซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะเหมาะกับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาหูฟังชิ้นใหม่ เอามาใช้งานแต่ยังไม่รู้ว่าควรที่จะต้องเลือกแบบไหนดี ตามเรามาทางนี้ได้เลย เพราะเราจะมาแนะนำหลักการง่าย ๆ ในการเลือกซื้อหูฟังให้เอง แต่ก่อนอื่นเราของจำแนกหูฟังออกมาเป็นประเภทหลัก ๆ ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่หูฟัง Earbuds, หูฟัง in ear ,Full-Size และหูฟัง On-Ear  ซึ่งหูฟัง in ear นั้นถือว่าเป็นหูฟังที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้เพราะด้วยข้อดีหลาย ๆ อย่างที่ตอบโจทย์กับการใช้งานของคนรุ่นใหม่ แต่ทว่าของใช้ทุก ๆ อย่างมันก็ล้วนมีทั้งของดีและก็ข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น เพราะแบบนี้เราจึงอยากที่จะนำเสนอถึงข้อดีและข้อเสียของหูฟังแบบ in ear ให้เอง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ว่าแล้วเราก็มาดูกันเลย

ข้อดี ข้อเสียของหูฟัง in ear ที่ควรรู้ก่อนซื้อ

ข้อดี พกพาไปใช้งานได้อย่างสะดวก สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีในระดับของ Passive ซึ่งเป็นผลจากการสวมใส่แบบยัดเข้ารูหูโดยตรง โดยจะให้รายละเอียดของเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถจับต้องรายละเอียดของเสียงเพลงได้มากว่าแบบ Earbuds มีการเก็บเสียงที่ดี เหมาะสำหรับใช้งานที่ที่อึกทึกมาก ๆ ดังนั้นในส่วนใหญ่เค้าจะเอามาใช้งานด้านเสียง มากกว่าเอามาฟังเพลง เพราะสามารถป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีมาก ๆ

ข้อเสีย เนื่องจากหูฟัง in ear  นั้นจะมีลักษณะการสวมใส่แบบยัดเข้ารูหูโดยตรงจึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างที่กำลังเรียกเราอยู่อาจก่อให้เกิดอันตราย ได้ถ้าหากต้องเดินในที่สาธารณะ นอกจากนี้คนที่ไม่เคยสวมใส่หูฟังประเภทนี้มาก่อนนั้นมีอาการเจ็บหูซึ่งบางคนอาจถึงขั้นปวดเลยก็มี แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นอันตรายถึงขั้นร้ายแรงเมื่อผ่านช่วงสัปดาห์แรกไปแล้วการสวมใส่ก็จะง่ายขึ้น และอาการเจ็บเหล่านั้นจะหายไปเอง และสามารถใช้งานหูฟังประเภทนี้ได้ตามปกติโดยไม่เจ็บ

หูฟัง in ear  นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานใน Studio , Stage และ PA เป็นหลัก เพราะความที่มันมีระบบ isolation หรือ การเก็บเสียงที่ดี ทำให้ส่วนใหญ่เค้าจะเอามาใช้งานด้านเสียง มากกว่าเอามาฟัง

#หูฟัง in ear 

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2564

วิธีเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติที่ดี

 


การทำความสะอาดบ้านถือเป็นอีกงานที่ต้องทำเป็นประจำ แถมยังหมดแรงไปเยอะกับการทำงานบ้านให้เสร็จในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำความสะอาดพื้น ที่ต้องทำทุกวัน วันละหลายหน เพราะเศษฝุ่น เศษผง และเศษผม เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เอามาใช้อย่าง เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ ที่จัดได้ว่าเป็นตัวช่วยให้กับเหล่าพ่อบ้าน แม่บ้านได้เป็นอย่างดี ช่วยกำจัดเศษฝุ่น เศษผง และเศษผม ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้การลงมือทำเองด้วยตนเอง แถมช่วงหลังมานี้ก็มีหุ่นยนต์ทำความสะอาดผลิตออกมาเพียบ ทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มีตัวเลือกในการซื้อมาใช้งานเยอะขึ้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อแต่ละตัวก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันออกไปทำให้เราสามารถเลือกได้ตรงกับความต้องการของตนเองได้มากที่สุด แต่ถ้าหากใครไม่รู้ว่าจะต้องเลือกยังไงก็ตามเรามาทางนี้เลยเดี๋ยวเราจะแนะนำให้เอง

วิธีเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติที่ดี

1. เลือกจากระบบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น

ระบบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรพิจารณาก่อนซื้อเป็นลำดับต้นๆ เพราะเครื่องดูดฝุ่นที่มีวางขายในท้องตลาดนั้นมีระบบการทำงานหรือวงจรเครื่องดูดฝุ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว เครื่องดูดฝุ่นปกติที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงานอยู่ที่ประมาณ 700 -1600 วัตต์ ซึ่งเป็นระดับของพลังงานไฟฟ้าที่แรงพสมควร

2. เลือกจากระบบการกรองฝุ่น

เครื่องดูดฝุ่นที่ดี จำเป็นต้องมีระบบในการกรองฝุ่นขนาดเล็กๆ ได้ ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณได้มากขึ้น หากเครื่องดูดฝุ่นที่คุณซื้อมา ไม่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่เพียงพอ ก็จะทำให้ฝุ่นตกค้างภายในห้อง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่อาศัยได้ โดยจะทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจตามมา

3.เลือกจากระบบการทำงานของมอเตอร์

ส่วนประกอบของเครื่องดูดฝุ่นที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ มอเตอร์ ซึ่งมอเตอร์ของเครื่องดูดฝุ่นยิ่งทำงานมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้การหมุนเวียนของอากาศดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะอากาศที่ผ่านเข้าไปในตัวเครื่องจะต้องผ่านการกรองก่อนถึงจะสามารถปล่อยอากาศสู่ภายนอกได้ และอากาศที่ยังไม่ผ่านกระบวนการกรองก็จะไม่สามารถหลุดออกมายังภายนอกเครื่องได้

4. เลือกจากวัตถุประสงค์ของการใช้งาน

วัตถุประสงค์ของการใช้งาน เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ซื้อเครื่องดูดฝุ่นต้องพิจารณา หากใช้งานภายในคอนโดที่มีขนาดเล็ก ควรเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดกะทัดรัด จัดเก็บง่าย ซึ่งอาจจะเลือกเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เครื่องดูดฝุ่นขนแมว หรือเครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดความสะดวกสบายมากขึ้น ไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ หรือถ้าหากนำมาใช้งานในพื้นที่ที่มีบริเวณกว้าง มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเป็นจำนวนมาก ก็ควรเลือกเครื่องที่มีขนาดใหญ่ หรือมีกำลังไฟฟ้ามากก็จะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

5. เลือกจากงบประมาณ

การเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับราคาที่คุณต้องจ่าย และเพื่อการใช้งานที่ตรงตามวัตถุประสงค์ คุณควรตั้งงบประมาณในการเลือกซื้อเอาไว้ และควรเลือกเครื่องที่มีคุณสมบัติในการดูดฝุ่นที่ดีที่สุดภายใต้งบประมาณนั้น เพื่อให้คุณไม่สิ้นเปลืองเกินไป และช่วยให้คุณได้มีเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ดังนั้นหากคุณต้องการจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นสักเครื่อง แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหน ประเภทใดถึงจะเหมาะสมที่สุด ควรเลือกซื้อเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการทำงานตรงตามความต้องการ และมีความสมเหตุสมผลกับงบประมาณที่กำหนดเอาไว้เป็นดีที่สุด

เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติถึงแม้จะมีคุณสมบัติที่ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านของคุณให้ง่ายขึ้นได้ แต่ก็จำเป็นต้องมาพร้อมการเลือกซื้อเลือกใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งผู้ซื้อควรศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ได้เครื่องที่มีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการในการใช้งานค่ะ

#เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ 

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

วิธีการเลือกซื้อและเลือกใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้นที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

 


ทุกวันนี้ด้วยความที่เทคโนโลยีเข้าถึงทุก ๆ อย่างในชีวิตประจำวันของเราทำให้เรามีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการทำความสะอาดบ้านที่เราต้องทำอยู่เป็นประจำโดยที่ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไป เพราะมีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้นที่สามารถช่วยทำงานแทนเราได้เป็นอย่างดี แถมเดี๋ยวนี้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็มีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ให้เราได้เลือกใช้งานเพียบ ตอบโจทย์กับคนที่ไม่ชอบทำความสะอาดบ้านได้อย่างแน่นอน และหากใครที่สนใจและอยากที่จะลองซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเพื่อเอามาใช้งาน แต่ยังไม่รู้ว่าควรที่จะต้องเลือกดูจากอะไรบ้างเพื่อให้ได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ดีในการนำมาใช้งานก็ตามเรามาทางนี้เลย เดี๋ยวเราจะบอกให้เอง

การเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้นที่จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง

1.เชื่อมต่อ WiFi ได้ และมีแอปพลิเคชั่น สามารถสั่งงานนอกบ้านได้

2.ตั้งเวลาการทำงานตามที่เราต้องการ

3.หุ่นยนต์กลับไปยังแท่นชาร์จอัตโนมัติได้

4.มีเซนเซอร์วัดระยะ และระบบเลเซอร์คอยยิงบริเวณห้อง จากนั้นทำการสร้างแมพ หรือแผนที่ในห้องให้เราควบคุม ดู ได้ผ่านแอปพลิเคชั่น

5.ดูดฝุ่นและถูพื้นในคราวเดียวกัน

6.เสียงขณะเครื่องทำงาน ชึ้นชื่อว่าเครื่องดูดฝุ่นเสียงต้องดังสนั่นห้อง แต่หุ่นยนต์ทำความสะอาดเสียงไม่ดังมาก

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับวิธีในการเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้นที่เราเอามาฝาก หวังว่าจะถูกใจทุก ๆ คนนะคะ ถ้าไม่อยากก้ม ๆ เงย ๆ กวาดบ้านถูบ้านบ่อย ๆ ก็ลองมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นที่ถูกใจมาช่วยแบ่งเบาภาระดู รับรองเซฟทั้งแรงและเวลาได้อย่างเหลือเฟือแน่นอนค่ะ

#หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้น

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564

การเลือกใช้งานหูฟังไร้สายออกกําลังกายให้ได้ดีที่คุณอาจจะคิดไม่ถึง

 


คุณรู้หรือไม่ว่าการฟังเพลงในตอนออกกำลังกายนั้น ช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากร่างกายของมนุษย์มีการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับจังหวะดนตรีอยู่เสมอ และยังทำให้อัตราการเต้นของหัวใจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะแบบนี้จึงทำให้หนูฟังกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะหูฟังไร้สายออกกําลังกายที่ไม่มีสายมาเกะกะตอนออกกำลังกาย ทำให้คล่องตัวเวลาขยับร่างกายเพื่อออกกำลังกาย แถมยังใช้งานได้ง่าย ๆ สะดวก และจัดเก็บได้ง่ายไม่ยุ่งยาก รวมไปถึงไม่ต้องเสียเวลาในการแก้สายที่พันกันออกมาตอนที่จะต้องการใช้งานด้วยทำให้สะดวกกับผู้ใช้งานสุด ๆ แหละที่สำคัญหูฟังไร้สายออกกําลังกายนั้นก็มีหลายประเภทมาก ๆ ทำให้คุณสามารถหาหูฟังที่เหมาะสมกับตนเองได้อย่างดีที่สุด ดังนั้นเพื่อให้ได้หูฟังที่ดีในการนำมาใช้งานก็ควรดูในส่วนต่าง ๆ ที่สำคัญดังนี้

1.เลือกชนิดหูฟัง – เราควรจะเลือกชนิดของหูฟังในแบบที่เราต้องการเสียก่อน ซึ่งตัวหูฟังนั้น ก็มีให้เลือกใช้หลากหลายชนิดสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นหูฟังทั้งแบบมีสาย ไม่มีสาย หรือจะเป็นหูฟังแบบ In ear และคล้องคอ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ล้วนมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป

2.หูฟังน้ำหนักเบาจะเลื่อนหลุดได้ยากกว่า – อีกหนึ่งปัจจัยหลักสำหรับการเลือกหูฟังบลูทูธออกกำลังกายนั่นก็คือ การเลือกหูฟังที่เบาและหลุดได้ยาก เพราะว่าถ้าหากเราเลือกไม่ดี ปัญหาดังกล่าวอาจจะสร้างภาระให้ในขณะออกกำลังมากกว่ามอบความสุขนั่นเอง

3.หูฟังกันน้ำ ช่วยให้ไม่หลุดระหว่างออกกำลังกาย – หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อยู่คู่กับการออกกำลังกายนั่นก็คือเหงื่อ ฉะนั้นการเลือกหูฟังออกกำลังกายที่กันน้ำและมีคุณสมบัติที่ไม่ลื่นไหลหลุดไปจากหูเราได้ง่าย จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยแรก ๆ ที่ควรนึกถึง

4.เลือกหูฟังแบบไร้สาย ไม่เกะกะ – ความคล่องตัวก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเลือกหูฟัง Bluetooth สำหรับออกกำลังกาย ฉะนั้นหูฟังไร้สายที่เป็นก้านเกาะหูถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ใสแว่น

5.หูฟังแบบคล้องคอ – หูฟังแบบคล้องคอถือเป็นหูฟังอีกประเภทที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะได้เรื่องความคล่องตัวแล้ว ตัวหูฟังบลูทูธชนิดนี้ ยังมีให้เลือกแบบสอดหู In-ear หรือเกี่ยวหู และเหมาะสำหรับคนที่ใส่แว่นมากกว่า

6.ระยะเวลาของแบตเตอร์รี่ให้เหมาะกับการใช้งาน – แต่ละคนก็มักจะมีระยะเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกายที่ต่างกันไป และการจะเลือกซื้อหูฟัง Bluetooth ยี่ห้อไหนดี ก็ควรจะคำนึงถึงระยะเวลาของแบตฯ ที่สามารถเปิดใช้งานได้นานสุดด้วยเช่นกัน

7.เลือกใช้คู่กับอุปกรณ์ที่เข้ากัน เพื่อเสียงที่ดีขึ้น – นอกจากความสะดวกสบายและความสามารถในการใช้งานแล้ว คุณภาพเสียงก็เป็นอีกสิ่งที่คนชอบฟังเพลงจะขาดไปเลยไม่ได้ ฉะนั้นนอกจากตัวหูฟังแล้วเราควรจะเลือกอุกรณ์ที่สามารถเข้ากับคุณภาพเสียงของหูฟังเราได้ด้วย ซึ่งใครที่ใช้แอนดรอยด์ก็ให้เลือกรุ่นที่สามารถใช้กับระบบ aptx ได้ ส่วนคนที่ใช้เป็นไอโฟน ก็ให้เลือกระบบ AAC

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีการเลือกหูฟังไร้สายออกกําลังกาย ที่เราได้แนะนำมา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับใครหลาย ๆ คน ที่กำลังคิดที่จะซื้อหูฟังเพื่อเอามาใช้งานให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของตนเองได้นะคะ และไม่ว่าคุณจะเลือกหูฟังแบบไหนก็ตามก็ไม่ควรที่จะใช้หูฟังเปิดเสียงดังเป็นเวลานาน ๆ เพราะมันอาจจะทำให้เรามีปัญหาในเรื่องการได้ยินได้ ดังนั้นเวลาใช้งานควรเปิดเสียงให้พอดี ไม่ดังเกินไปกันด้วยนะคะ

#หูฟังไร้สายออกกําลังกาย 

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564

ข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญที่ควรต้องรู้ก่อนที่จะเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์

 


ต้องยอมรับเลยว่าในทุก ๆ นี้ คอมพิวเตอร์นั้นมีความสำคัญกับการทำงานเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าเป็นงานที่เกี่ยวกับข่าว สาร ข้อมูลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคอมพิวเตอร์เพื่อเอาไว้ใช้งาน โดยในปัจจุบันคอมพิวเตอร์นั้นมีเทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกลล้ำสมัยอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่อง“จอคอมพิวเตอร์” ที่มีลูกเล่น และสเปคเครื่องที่สูงขึ้น อย่างจอคอม 144hz หรือจอที่มี refresh rate ระดับสูง ทำให้ภาพลื่นไหลกว่าจอปกติ ซึ่งจอคอม 144hz นั้นก็มีตัวเลือกมากมาย หลายสเปคหลายราคา และหลายข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เราลองไปสำรวจข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจแบบคร่าว ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อกันค่ะ

ข้อมูลก่อนเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์

ถ้าสังเกตสเปคหน้าจอคอม จะเห็นว่ามีทั้งหน้าจอ 60Hz, 120Hz หรือแม้แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ 144hz ซึ่งก็หมายถึงค่า Refresh Rate ของจอ โดยจะปรากฏอยู่ในรายละเอียดของสเปคบนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คในหลาย ๆ รุ่น จะมีหน่วยเป็น Hz ตั้งแต่ 60Hz , 120Hz และ 144Hz ซึ่งปกติคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คส่วนใหญ่จะมีค่าRefresh Rate พื้นฐานอยู่ที่ 60Hz ส่วนรุ่นที่เหมาะสมกับคอเกมราคาจะอยู่ในระดับกลาง ๆ ถึงสูง โดยค่า Refresh rate มักจะเป็นค่า 120Hz ไปจนถึง 144Hz

ค่าRefresh Rate มีดีอย่างไร?

Refresh Rate เป็นค่าที่บ่งบอกว่า จอภาพสามารถแสดงภาพนิ่งได้กี่ภาพ (เฟรม) ภายใน 1 วินาที หรือรองรับการแสดงผลคอนเทนต์ที่ Frame Rate (fps) สูงสุดเท่าไร โดยจอภาพที่เป็น 60Hz จะรองรับการแสดงผลสูงสุดที่ 60fps ส่วนจอภาพ 120Hz ก็รองรับ 120fps ซึ่งยิ่ง fps มาก ภาพที่ได้ก็จะยิ่งมีการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ข้อดีของจอภาพ 120Hz คือ การแสดงผลคอนเทนต์เป็น 120fps ซึ่งจะทำให้ภาพเคลื่อนไหวดูลื่นไหลกว่า 60Hz ซึ่งคนทั่วไปมองความแตกต่างไม่ค่อยออก โดยปัจจุบันนอกจากเกม ยังมีวีดีโอที่เป็น 120fps ได้ภาพสวยและไม่มีปัญหาภาพสั่นและการแทรกเฟรมที่ไม่สม่ำเสมออีกด้วย

หน้าจอมอนิเตอร์เล่นเกม จำเป็นต้องหน้าจอคม 144hz หรือไม่ ?

ตัวเลข Hz เป็นค่า Refresh Rate การแสดงผลของหน้าจอมอนิเตอร์ ตัวเลขยิ่งเยอะยิ่งดี เพราะจะให้ภาพที่ดูนิ่งสบายตา ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 60Hz เป็นอย่างน้อย แต่เพื่อให้รองรับการเล่นเกมในแนวแอ็กชั่นหรือ FPS ได้ดีขึ้น ก็ต้องสอดคล้องกับเฟรมเรตที่ออกมาได้อย่างไหลลื่น โดยมอนิเตอร์บางรุ่นปัจจุบันออกสูงถึง 144Hz แล้ว ซึ่งก็ทำให้เข้ากับเฟรมเรตที่เกิดขึ้นบนการ์ดจอรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงได้ดีกว่าเดิม กรณีที่เฟรมเรตสูงกว่า 60Hz อย่างน้อยจอมอนิเตอร์ก็ยังรองรับได้ ไม่เกิดอาการภาพขาดให้เห็น แต่สิ่งที่ต้องสังเกตก็คือ การใช้หน้าจอที่มี Hz สูง ๆ นี้อาจจะต้องใช้สายสัญญาณตามที่ผู้ผลิตแจ้งมา เพื่อให้ทำงานได้สอดคล้องกัน เพราะสายสัญญาณบางแบบอาจไม่รองรับการปรับได้สูงมากนักจึงไม่สามารถดึงศักยภาพในการทำงานออกมาได้หมด

สรุปว่าปัจจัยหลักที่อาจจะทำให้เครื่องเราจะต้องประมวลผลหนักกว่าเดิมนั้นเราอาจจะต้องมองไปในส่วนของความละเอียดของหน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่า ซึ่งเวลาที่คุณปรับ Setting ให้ลองปรับลด Resolution ให้ต่ำลงมา และเห็นผลได้ดีกว่าการปรับลดกราฟฟิคพวกแสงเงาอย่างแน่นอน ข้อเสียจริง ๆ ของการใช้หน้าจอ Refresh Rate สูง ๆ อย่างจอคอม 144hz นั้น อาจจะเป็นเรื่องของการกินกำลังไฟที่เพิ่มมากกว่า ควรจะมองไปที่เรื่องของการใช้งานบนแบตเตอรี่ที่อาจจะทำให้มีการกินแบตเตอรี่มากขึ้น ก่อนจะมาเปลี่ยนจอใหม่นั้น เราแนะนำว่าให้เช็คตัวแบตเตอรี่ว่าอยู่ในสภาพปกติดี ไม่เสื่อม หรือไม่บวม ส่วนสเปคที่แนะนำจริง ๆ ควรจะเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่ใช้ CPU ตระกูล H, HQ ขั้นต่ำที่ gen 6 ขึ้นไปค่ะ

#จอคอมพิวเตอร์

วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564

ข้อควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ tablet ราคาถูก ๆ โดยที่จะไม่ทำให้คุณต้องมานั่งเสียใจทีหลัง

 


tablet ถือเป็นอุปกรณ์ไอทีชิ้นหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ชอบใช้กัน เพราะพกพาสะดวก แถมยังใช้เรียน ใช้ทำงาน และใช้ดูหนัง ฟังเพลง และความบันเทิงด้านอื่น ๆ อีกเพียบ จึงทำให้กลายเป็นสินค้ายอดนิยม ซึ่งหากใครที่กำลังมองหา tablet ที่น่าใช้และ tablet ราคาถูกคุณภาพดีเอามาใช้งานอยู่ก็ตามมาทางนี้ได้เลย โดยในปัจจุบันก็มี tablet หลายยี่ห้อที่แข่งกันผลิตออกมาให้เลือกซื้อเอามาใช้งาน ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีความต่างกันในเรื่องของ รูปร่าง ขนาด ระบบปฏิบัติการ ราคาที่แตกต่างกัน จนคุณไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นดูจากตรงไหนก่อนหรือหลังดี หากใครที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่ละก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้เราจะบอกถึงวิธีเลือกซื้อ tablet ราคาถูกคุณภาพดี ที่เหมาะสำหรับการใช้งานให้กับคุณเองเอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วเราก็มาดูกันเลยค่ะ

วิธีเลือก tablet ราคาถูกคุณภาพดีที่สุดสำหรับคุณ

1. คุณต้องการ tablet ทำอะไร

คุณต้องทราบจุดประสงค์ของตัวเองก่อนว่าคุณต้องการใช้งานในด้านไหน อาทิเช่น ต้องการใช้สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ตเพื่อดูภาพยนต์ หรืออาจจะบ้างช่วงเวลาที่เล่นเกมบางเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนั้นก็ดูเหมือนว่า iPad Pro จะเป็นตัวเลือกไม่เหมาะสำหรับคุณเท่าไหร่ เพราะคุณแค่ใช้เล่นอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่จงซื้อที่เหมาะสมตามจุดประสงค์การเล่นของคุณ เพื่อความคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด

2. ระบบปฏิบัติการของ tablet

ระบบปฏิบัติการของ tablet ไม่ว่าจะเป็น iOS Android หรือ Windows นั้นล้วนแล้วแต่เป็นระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความถนัด และความชอบส่วนบุคคลมากกว่า หากคุณไม่ได้ยึดติดกับการใช้ผลิตภัณฑ์ในเครือเดียวกัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำคัญว่าคุณจะใช้อะไร เพราะที่จริงแล้วปัญหาการอ่านหรือจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ นั้นเราสามารถทำได้บนพื้นที่บริการเก็บข้อมูลบนคลาวด์ อาทิเช่น Dropbox, Google Drive หรือ OneDrive เป็นต้น

3. พื้นที่เก็บข้อมูล

หากเป็นเมื่อก่อนพื้นที่เก็บข้อมูลถือนั้นถือเป็นตัวเลือกที่เราไม่ควรมองข้าม หากเรามีความจำเป็นในการใช้พื้นที่เยอะ ๆ แต่เนื่องจากสมัยนี้มีบริการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้แล้ว ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้พื้นที่เท่าไหร่ก็ได้ตามที่เราต้องการ และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายไม่ว่าคุณจะล็อกอินด้วยอุปกรณ์เครื่องใดก็ตาม ไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลจะสูญหายอีกด้วย

4. ใช้งานในการวาดหรือเน้นงานออกแบบหรือไม่ หากคุณต้องการใช้งานในด้านนี้เราขอแนะนำว่า ระบบปฏิบัติของ iOS และ Android ดูเหมือนจะทำออกมาได้ดีกว่าระบบปฏิบัติของ Windows

จริง ๆ แล้ว “ราคา” อาจเป็นสิ่งที่หลายคนกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าจะให้งบกับมันเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม เราก็อยากให้ทุกคนนำปัจจัยทั้งหมดเอามาเปรียบเทียบกันด้วย โดยให้ราคาเป็นส่วนหนึ่งของการเปรียบเทียบแทน เพื่อหาความคุ้มค่าให้ได้มากที่สุด อย่างบางรุ่นอาจจะเกินงบที่เราตั้งไปแค่หลักร้อย แต่สเปคแรงกว่าเยอะ ถ้าเราเลือกตัดช้อยส์นี้ไปแต่แรก เราก็อาจมาเสียดายภายหลังได้ อีกสิ่งที่สำคัญคือ บริการหลังการขาย ถ้าเกิดเครื่องมีปัญหาขึ้นมา จะส่งซ่อมที่ไหน  มีประกันกี่ปี ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าอย่างไร เพราะถ้าได้ tablet ราคาถูก ของแถมจะเยอะยังไง ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ มันก็จบค่ะ ข้อนี้อย่าลืมถามพนักงานขายให้ชัดเจนด้วยนะคะ

#tablet ราคาถูก 

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2564

เรื่องง่ายเกี่ยวกับการเลือกใช้งานหูฟังออกกําลังกายที่ทุกคนควรรู้

 


ในยุคนี้ต้องยอมรับเลยว่าเทรนด์การดูแลสุขภาพร่างกายนั้นมาแรงมากจริง ๆ มีผู้คนจำนวนมากหันมาใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายกันมากขึ้น โดยออกกำลังกายก็สามารถที่จะทำได้หลายรูปแบบตามความสะดวก ทั้งการเข้าฟิตเนสเพื่อเล่นเครื่องออกกำลังกายต่าง ๆ ที่มีให้เลือกสไตล์ การวิ่ง การเต้นแอโรบิก หรือการเล่นกีฬาชนิดต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นทางเลือกในการออกกำลังกายเช่นเดียวกัน และแน่นอนว่าการฟังเพลงก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในระหว่างการออกกำลังกาย เพราะเสียงเพลงเสียงดนตรีจะช่วยเพิ่มความสนุกสนานและการเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีและมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น เป็นส่วนช่วยสำคัญในการเผาผลาญแคลอรี่อีกด้วย ดังนั้นจึงทำให้หูฟังออกกําลังกายกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมี และถ้าใครที่อยากจะซื้อหูฟังออกกําลังกายดี ๆ สักอันเพื่อเอามาใช้งาน แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเลือกยังไง ตามเรามาทางนี้ได้เลย เพราะเดี๋ยวเราจะแนะนำให้เองว่าแล้วเราก็มาดูกันเลยดีกว่า

วิธีการเลือกซื้อหูฟังออกกำลังกาย

1.เน้นความกระชับและคล่องตัวของหูฟังออกกําลังกาย

ไม่ใช่แค่เพียงคุณภาพเสียงที่จะต้องใส่และคัดสรรให้ดีในการเลือกหูฟังเท่านั้น แต่คุณสมบัติหลัก ๆ ของหูฟังออกกําลังกายที่แตกต่างจากการใช้หูฟังทั่วไปก็คือเรื่องของความกระชับและพอดีสำหรับการสวมใส่ เมื่อใส่แล้วไม่มีการหลุดออกมาง่ายหรือหลวมและคับจนเกินไป เพราะคงไม่สะดวกมากนักถ้าหากคุณต้องวิ่งไปแล้วเกิดหูฟังหลุด ต้องคอยใส่ใหม่อยู่เรื่อย ๆ เสียทั้งความรู้สึก เสียเวลาและทำให้เกิดความหงุดหงิดไม่น้อย

2.ประสิทธิภาพในการกันน้ำ

ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและค่อนข้างแตกต่างจากหูฟังทั่วไปกับหูฟังออกกําลังกายเลยทีเดียว เพราะแน่นอนว่าการออกกำลังกายย่อมควบคู่ไปกับเหงื่อที่ไหลออกมา ไม่ว่าจะเป็นในฟิตเนส รวมไปถึงการออกกำลังกายในพื้นที่กลางแจ้ง จนทำให้เกิดความเสียหายต่อหูฟังออกกําลังกายที่ใช้งานได้ ดังนั้น เพื่อให้การใช้งานของคุณสะดวกและราบรื่น ใช้งานหูฟัง วิ่งและฟังเพลงได้อย่างคุ้มค่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัว อย่าลืมที่จะพิจารณาถึงระบบกันน้ำด้วยนะคะ

3.ราคาของหูฟังออกกําลังกาย

การคำนึงถึงราคาหูฟังออกกําลังกายเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่หลายๆ คนจะพิจารณาและลังเลในการเลือกซื้อ ในปัจจุบันนี้เพื่อนำเสนอทางเลือกด้านการฟังเพลง ออกกําลังกายและออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีหูฟังออกกําลังกายจำหน่ายออกมาหลากหลายแบรนด์ หลายรุ่นและมีหลายราคาให้คุณเลือก ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและแบรนด์ ที่ควรพิจารณาให้ละเอียดก่อนการเลือกซื้อ โดยคำนึงถึงงบประมาณที่ตั้งไว้ และศึกษารีวิวหูฟังออกกําลังกายเพื่อให้สามารถเลือกซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น ได้เห็นฟังก์ชั่นที่สะดวกและเหมาะสม ไปจนถึงการเปรียบเทียบราคาที่จะช่วยให้คุณได้หูฟังออกกําลังกายที่ตอบโจทย์ที่สุด

4.หูฟังออกกําลังกาย ไร้สาย และมีสาย

หูฟังออกกําลังกาย แบ่งออกได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ตามรูปแบบของการใช้งานที่มีให้เลือกทั้ง หูฟังออกกําลังกายแบบไร้สาย ที่จะเชื่อมต่อเป็นระบบ Bluetooth และ หูฟังใส่วิ่งแบบมีสาย สำหรับใครที่ไม่ชอบการใช้งานหูฟังแบบมีสาย ที่มีสายทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้งานก็อาจจะเลือกหูฟัง bluetooth ออกกําลังกายมาเป็นทางเลือก แต่ข้อดีของหูฟังออกกําลังกายแบบมีสายก็คือความทนทานไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ สามาถใช้งานได้ยาวนาน ส่วนทางด้านหูฟังออกกําลังกาย จะมีราคาที่สูงแต่ก็สะดวกเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็จะต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่และคำนึงคุณช่วงเวลาในการใช้งาน

5.การเชื่อมต่อ หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย

หูฟังบลูทูธออกกำลังกาย เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะต้องพิจารณาให้ดีในการเลือกซื้อ อย่าลืมที่จะตรวจสอบและอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการเชื่อมต่อของหูฟังวิ่งว่าเป็นอย่างไร มีเงื่อนไขหรือใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณหรือไม่ ระบบการทำงานเป็นอย่างไร เพื่อที่จะไม่ทำให้คุณต้องมาเสียเวลาในการติดตั้งและเชื่อมต่อที่นานและไม่สะดวกด้านการใช้งานจนเกินไป

เมื่อผู้ใช้งานรู้ถึงความต้องการของตัวเองก็จะทำให้สามารถเลือกหูฟังออกกำลังกายให้กับตนเองได้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์กับความต้องการใช้งานของตนเองได้มากที่สุด สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังบลูทูธไปใช้งานขณะขับขี่หรือเดินทางตามท้องถนน ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับเสียงรอบข้างหรือเสียงจากภายนอกด้วยนะคะ เพื่อปลอดภัยค่ะ

#หูฟังออกกําลังกาย