วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2565

วิธีเลือกเลือกซื้อ และเลือกใช้งาน tablet โทรได้ ให้คุ้มค่าที่สุด

 


แท็บเล็ตนับว่าเป็นอุปกรณ์ผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและโน๊ตบุ๊ค มีประสิทธิภาพการทำงานและราคา ถือว่าใกล้เคียงกับ โน๊ตบุ๊ค และสมาร์ทโฟน บางรุ่นเป็น tablet โทรได้ ด้วยการใส่ SIM card เหมือนสมาร์ทโฟนในเรื่องของระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ และสามารถใช้งานได้หลากหลายเหมือนโน้ตบุ๊ค ดังนั้น แท็บเล็ตจึงเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนทุกกลุ่มได้ไม่ยาก เช่น ผู้สูงอายุที่ต้องการหน้าจอใหญ่ ๆ ไว้อ่านหนังสือ หรือพนักงานออฟฟิศที่ต้องการแท็บเล็ตหน้าจอกว้าง ๆ ไว้นำเสนองานลูกค้านอกสถานที่ เป็นต้น มีน้ำหนักเบาและขนาดบางกะรัดทัด ตอบโจทย์ในการใช้งาน ปัจจุบันมีแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ ออกมาหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปในเรื่องของ รูปร่าง ขนาด ระบบปฏิบัติการ รวมถึงราคาที่แตกต่างกัน เยอะจนเลือกไม่ถูกว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ดังนั้นวันนี้เราจึงเอาวิธีดี ๆ ในการเลือกซื้อเอามาฝาก พร้อมแล้วเรามาดูกันเลยค่ะ

ควรเลือกซื้อ tablet โทรได้แบบไหนดีให้ตอบโจทย์ และคุ้มค่ากับผู้ใช้งานมากที่สุด

1.เข้าใจเหตุผลของการเลือกซื้อแท็บเล็ต

แท็บเล็ตที่ดีที่สุดอาจจะไม่ใช่แท็บเล็ตที่แพงที่สุด แต่คือแท็บเล็ตที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างครบถ้วนในราคาที่สมเหตุสมผล เนื่องจากแต่ละคนมีเหตุผลในการเลือกซื้อแท็บเล็ตที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจต้องการใช้แท็บเล็ตเพื่อทำงาน เรียน หรือวาดงานกราฟฟิกดีไซน์ต่างๆ แต่สำหรับบางคนอาจต้องการเพียงเพื่อไว้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ดูซีรีส์ ภาพยนตร์ หรือเล่นเกมในเวลาว่างเท่านั้น ซึ่งวัตถุประสงค์ในการใช้จะส่งผลต่อการเลือกสเปกโดยรวมของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องระบบปฏิบัติการ ขนาดหน้าจอ ฟีเจอร์ที่มาพร้อมเครื่อง เป็นต้น

2.ฟีเจอร์ที่ใช่ต้องมาครบ

โดยมาตรฐานแล้ว แท็บเล็ตที่ดีควรใช้งานฟีเจอร์หรือแอปพลิเคชันพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office ที่มีทั้ง Word, Excel, PowerPoint หรือ Google Services เพื่อการดูแผนที่ เช็คอีเมล หรือแม้กระทั่งรับชม YouTube นอกจากนั้นยังต้องพิจารณาฟีเจอร์อื่นๆ เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของแต่ละคน

3.ขนาด และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งาน

ขนาดถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เพราะบางคนอาจจะเลือกแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ เพื่อที่จะได้ดูคอนเทนต์ได้เต็มตา แต่บางคนอาจจะเลือกความสะดวกสบายในการพกพา จึงต้องการแท็บเล็ตขนาดปานกลางหรือเล็กที่มีน้ำหนักเบา พอดีต่อการจัดเก็บในกระเป๋าแทน ทั้งนี้ นอกจากเรื่องขนาดของหน้าจอแล้ว ผู้ซื้อยังควรต้องพิจารณาในเรื่องขนาด ROM/RAM และขนาดความจุของตัวเครื่องว่าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ รวมถึงตัวเครื่องควรมีความพร้อมต่อการเสริม SD Card ไปในภายหลัง เพื่อให้รองรับกับการดาวน์โหลดภาพยนตร์ หรือซีรีส์มาเก็บไว้ในตัวเครื่องได้อย่างเต็มที่

4.ตอบทุกโจทย์การใช้งาน ในราคาที่สมเหตุสมผล

หากเหตุผลที่ต้องการซื้อแท็บเล็ตเครื่องใหม่ คือการใช้งานแทนคอมพิวเตอร์ สิ่งที่ผู้ซื้อกำลังมองหาควรจะเป็นเครื่องรุ่นแฟลกชิปที่มาพร้อมกับสุดยอดสเปก ฟีเจอร์แบบจัดเต็ม พร้อมความสามารถในการทำงานร่วมกับคีย์บอร์ดหรือปากกาสไตลัส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

5.มากกว่าราคา คือความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์

ราคาไม่ใช่อย่างสุดท้ายที่ควรพิจารณา เพราะผู้ซื้อควรพิจารณาในเรื่องความน่าเชื่อถือ ชื่อเสียงของแบรนด์ ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนตัวที่จัดเก็บในเครื่อง บริการหลังการขายที่มีสาขาครอบคลุมและไว้วางใจได้ ความสามารถในการทำงานเชื่อมต่อร่วมกับอีโคซิสเต็มอื่นๆ รวมถึงพรีเมียมเซอร์วิสต่างๆ ที่จะทำให้ชีวิตผู้ใช้ยกระดับไปอีกขั้น

ทั้งนี้หากคุณรู้ถึงความต้องการของตัวเองได้อย่างชัดเจนครบถ้วนทั้งหมด ก็จะทำให้คุณสามารถเลือก tablet โทรได้ ที่ตอบโจทย์ในการใช้งานของคุณได้อย่างคุ้มค่า และง่ายต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตัดตัวเลือกในรุ่นอื่น ๆ ที่ไม่ตรงกับสเปคของคุณได้ค่ะ

#tablet โทรได้

วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565

หลายสาเหตุที่ทำให้ต้องใช้วิธีผ่าตัดขากรรไกรในการรักษา

 


การผ่าตัดขากรรไกร เป็นการแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรและการจัดเรียงตำแหน่งของกระดูกขากรรไกร และฟันให้อยู่ตำแหน่งใหม่ที่สมดุลในการสบฟัน มีประโยชน์ข้างเคียงคือสามารถเพิ่มความสวยงามของรูปหน้า  ใช้เพื่อการรักษาปัญหาการสบฟันผิดปกติที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว โดยการรักษาปัญหาดังกล่าว  ทันตแพทย์จัดฟันจะต้องทำงานร่วมกับทันตแพทย์ผ่าตัดช่องปากและกระดูกขากรรไกร เพื่อร่วมกันวางแผนการรักษา โดยสาเหตุที่ทำให้ต้องใช้การผ่าตัดขากรรไกรมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุตามนี้เลยค่ะ

1.การเคี้ยวและการกลืน

2.ปวดกล้ามเนื้อ, กระดูก, ข้อต่อขากรรไกร

3.ภาวะฟันสึกมากผิดปกติ

4.การสบฟันที่ผิดปกติ

5.คางหุบหรือยื่นมากเกินไป

ทั้งนี้ทันตแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมใบหน้าและขากรรไกรจะทำงานร่วมกันกับคุณหมอจัดฟันของคุณว่าจะต้องผ่าตัดขากรรไกรบน ขากรรไกรล่าง หรือทั้ง 2 ขากรรไกร เพื่อช่วยให้การสบฟันดีขึ้น มีผลต่อความสำเร็จในการรักษาอย่างมาก การฟื้นตัวโดยสมบูรณ์หลังผ่าตัดอยู่ในช่วง 2 เดือน ถึง 1 ปี ซึ่งข้อดีของการรักษาแบบผ่าตัดก่อนจัดฟัน อย่าง ลดระยะเวลาการรักษาได้ เนื่องจากไม่มีระยะเวลาจัดฟันก่อนผ่าตัดขากรรไกร ,แก้ไขความผิดปกติของใบหน้าและขากรรไกรได้ตั้งแต่เริ่มแรกของการรักษา รวมถึงไม่มีระยะที่ทำให้ใบหน้าหรือการสบฟันที่ผิดปกติรุนแรงกว่าเดิม ,การจัดฟันสามารถเคลื่อนฟันได้ไวขึ้น ภายหลังจากการผ่าตัด ,หากมีการคืนตัวกลับของกระดูกขากรรไกรจากการผ่าตัด สามารถแก้ไขในระหว่างการรักษาจัดฟันได้นั่นเองค่ะ

#ผ่าตัดขากรรไกร

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2565

การเลือกราคาแท็บเล็ตให้ได้ทั้งถูก และดี มีคุณภาพ ฉบับมือฉมัง

 

แท็บเล็ต ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามามีบทบาทในด้านการเรียน และการทำงาน เยอะมาก เหมาะสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ต่าง ๆ  แถมยังสะดวกในการพกพา เพราะด้วยน้ำหนักที่ทั้งเบาและขนาดที่บาง ทั้งยังกะทัดรัด  จึงตอบโจทย์ในการใช้งานของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี แถมราคาแท็บเล็ตก็ไม่แพงมาก เหมาะกับการเอามาใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะใช้ทำงาน ใช้ในการเรียนการสอน หรือแม้กระทั้งอ่านหนังสือ ปัจจุบันมีแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ ออกมามากมายให้ได้เลือกซื้อกันเยอะจนผู้บริโภคอย่างเราสับสนและไม่รู้ว่าจะต้องเลือกยังไงดี ดังนั้นวันนี้เราจึงเอาเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกซื้อให้ได้ราคาแท็บเล็ตถูก ดี มีคุณภาพเอามาฝาก ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูกันเลยจร้า

การเลือกซื้อ เลือกใช้งานแท็บเล็ต ที่ทั้งถูก และดี มีคุณภาพ ฉบับมือใหม่

1. เลือกระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการของแท็บเล็ตก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย เพราะระบบปฏิบัติการเปรียบเสมือนตัวกลางที่ทำหน้าที่เชื่อมการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์ (ตัวเครื่อง) กับซอฟต์แวร์ (แอปพลิเคชัน) ปัจจุบันมีระบบปฏิบัติการให้เลือกใช้งาน 3 ตัวหลัก ๆ ประกอบด้วย

iOS : มีประสิทธิภาพและความเสถียรสูง แต่รองรับแอปพลิเคชันและอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น

Android : เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android ที่หลากหลายกว่า iOS

Windows : ระบบปฏิบัติการที่รองรับไฟล์ทุกรูปแบบ ทำให้เหมาะกับการใช้งานด้านเอกสาร และแน่นอนว่า รองรับเฉพาะแอปพลิเคชันจาก Windows Store เท่านั้น

2. พื้นที่เก็บข้อมูล

พื้นที่เก็บข้อมูลก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แม้ทุกวันนี้เราจะสามารถโอนย้ายข้อมูลไปฝากไว้ที่ Google Drive หรือบน Cloud ได้ แถมสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายไม่ว่าคุณจะล็อกอินด้วยอุปกรณ์เครื่องใดก็ตาม แต่การที่แท็บเล็ตของเรามีพื้นที่เก็บข้อมูลเยอะ ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณสามารถอัปเดตหรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ต้องการได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะมีพื้นที่ไม่พอ

3. รูปแบบการใช้งานแท็บเล็ต

ตอบตัวเองให้ได้ว่า ต้องการซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานด้านไหน เพื่อให้สามารถกำหนดสเปกแท็บเล็ต ฟังก์ชันการใช้งานได้แบบคร่าว ๆ อาทิ ต้องการซื้อแท็บเล็ตเพื่อเรียนออนไลน์ ดูหนัง ฟังเพลง หรือทำงานด้านกราฟิกแบบง่าย ๆ เป็นต้น

4. ราคาสมเหตุสมผล

หลายคนเลือกใช้ "ราคา" เป็นตัวเปรียบเทียบคุณสมบัติแท็บเล็ตว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ เพราะแท็บเล็ตหลาย ๆ รุ่นมีราคาใกล้เคียงกัน แต่สเปกเครื่อง ฟีเจอร์การใช้งาน ขนาดหน้าจอ และความคมชัดต่างกันมาก ฉะนั้นถ้ายอมตัดใจเพิ่มเงินอีกไม่กี่ร้อยอาจได้แท็บเล็ตที่มีคุณสมบัติครบครันกว่ามาใช้งาน

5. บริการหลังการขาย

บริการหลังการขาย เป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญ เพราะถ้าเครื่องมีปัญหาไม่ว่าจะมีปัญหาหลังซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานไม่กี่เดือน (ยังอยู่ในประกัน) หรือใช้งานมา 2-3 ปีแล้ว สามารถส่งซ่อมได้ที่ไหนบ้าง ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าอย่างไร ฉะนั้นประเด็นนี้อย่าลืมถามพนักงานขายให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาในภายหลัง

แหละไม่ว่าคุณจะเลือกราคาแท็บเล็ตแบบไหนหากคุณไม่ได้ศึกษาข้อมูลไว้บ้าง ก็มีโอกาสที่คุณจะเลือกพลาดได้ เพราะแท็บเล็ตที่มีวางขายอยู่ในทุกวันนี้นั้นมีเยอะมากมายหลายรุ่น แถมบางรุ่นถ้าเสียแล้วหาซื้ออะไหล่ที่จะเอามาซ่อมได้ยาก อาจทำให้เสียค่าซ่อมที่แพงกว่ารุ่นที่หาซื้ออะไหล่ได้ง่ายกว่ามาก ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีก่อนทำการเลือกซื้อด้วยนะคะ

#ราคาแท็บเล็ต

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สิ่งที่ควรนำมาเปรียบเทียบมือถือก่อนตัดสินใจซื้อ

 


ทุกวันนี้มือถือกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมาก ๆ ทั้งการสื่อสาร และแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่มีอยู่ในมือถือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้เรา จึงไม่แปลกที่มือถือจึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ต้องพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีหลายรุ่น หลายแบรนด์ให้ได้เลือกใช้งาน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเปรียบเทียบมือถือแต่ละรุ่นให้ดี ว่ามีสเปคตรงความต้องการใช้งานของเราไหม นอกจากเรื่องสเปคความต้องการใช้งานแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือเรื่องของราคา ควรเลือกในราคาที่เอื้อมถึงไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนจนเกินไป ซึ่งการซื้อมือถือสักเครื่องของแต่ละคนนั้นก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป อาทิเช่น เน้นการถ่ายรูป, เน้นการดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือแม้แต่ใช้ในการทำงาน เมื่อรู้ถึงความต้องการใช้งานหลักของตนเองแล้วก็เอามาเปรียบเทียบถึงความเหมาะสมก่อนซื้อดังนี้

ข้อมูลที่ควรนำมาเปรียบเทียบมือถือก่อนซื้อ

1. ขนาดหน้าจอแสดงผล

อย่างแรกเลย! ขนาดหน้าจอ ซึ่งถูกวัดจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่งในแนวทแยง ยิ่งมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ การใช้งานก็จะเต็มตามากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ดูหนัง เล่นเกม หรือทำงาน แต่มันก็ต้องแลกด้วยขนาดของบอดี้ที่ใหญ่ขึ้น อาจทำให้การถือใช้งานมือเดียวอาจจะไม่ค่อยถนัด และพกพาได้ลำบาก แต่หากใครที่ต้องการแบบพกพาสะดวก เหมาะที่จะใช้เล่นโซเชียล คุยไลน์ หรือใช้โทรฯ ต้องเลือกที่มีขนาดพอเหมาะ เพื่อที่จะใช้เล่นหรือพิมพ์มือเดียวได้อย่างคล่องแคล่ว

 2. ตรวจสอบพื้นที่เก็บข้อมูล

สำหรับมือถือรุ่นเล็ก ๆ พื้นที่เก็บข้อมูลของโทรศัพท์ คือสิ่งสำคัญ เนื่องจากหากเราใช้งานไปสักระยะหนึ่งสิ่งที่ต้องเจอก็คือ ปัญหาความจำไม่พอ ซึ่งมันเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับเก็บไฟล์ต่าง ๆ ของเรา ดังนั้นสิ่งที่คุณควรพิจารณาก็คือ ข้อมูลของคุณมีมากน้อยขนาดไหน หากชอบเล่นเกม ชอบถ่ายภาพก็ต้องเผื่อพื้นที่เอาไว้เยอะหน่อย หากใช้งานแบบทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่เก็บข้อมูลจะมีผลต่อราคา สังเกตได้จากมือถือรุ่นเล็ก ๆ มักมาพร้อมกับ Ram ที่พอใช้เริ่มจาก 32GB, 64GB และ 128GB ซึ่งราคาก็สูงขึ้นตามลำดับ ดังนั้นในเรทราคานี้คุณต้องเลือกความจุที่มันเหมาะกับคุณ ถ้าหากคุณมีข้อมูลเยอะมาก ๆ ควรเลือกรุ่นที่รองรับ MicroSD Card จากภายนอกได้ด้วยจะช่วยเชฟงบของคุณได้โดยที่ไม่ต้องซื้อเครื่องที่มีหน่วยความจำสูง ๆ เป็นต้นค่ะ

 3. อายุการใช้งานของแบตเตอรี่

เทคโนโลยีแบตเตอรี่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตามนิสัยการใช้งานของคุณเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าแบตเตอรี่นั้นจะสามารถใช้งานได้นานเท่าใด อย่างการใช้โทรเข้ารับสายเพียงอย่างเดียว แบตฯ ก้อนเล็กก็ใช้ได้ทั้งวัน แต่หากใช้เล่นเกม หรือใช้ดูหนังฟังเพลงตลอดวัน แบตฯ ก้อนเล็ก ๆ มันไม่พอแน่นอน แต่หากคุณพกพาวเวอร์แบงค์เป็นประจำอยู่แล้วก็มองข้ามไปได้ครับ นอกจากนี้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ บางรุ่นก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็วด้วยซึ่งมีประโยชน์เป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าคุณมีงบประมาณเพียงพอก็อย่าลืมพิจารณาในข้อนี้ด้วย

เพราะแบบนี้ก่อนจะตัดสินใจซื้อมือถือสักเครื่อง เมือคุณนำข้อพิจารณาต่าง ๆ เหล่านี้เอามาเปรียบเทียบมือถือกับรุ่นอื่น ๆ ทั้งหมดที่คุณอยากได้ จะช่วยทำให้คุณสามารถตัดสินใจในการเลือกซื้อได้อย่างถูกต้อง และคุ้มค่ากับความต้องการใช้งานของคุณได้อย่างดีที่สุดค่ะ

#เปรียบเทียบมือถือ

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2565

วิธีง่าย ๆ ในการเช็คสเปคโทรศัพท์เบื้องต้นที่ควรรู้

 

ปัจจุบันโทรศัพท์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราเยอะมาก ๆ เรียกได้ว่าแทบจะขาดไปไม่ได้เลยก็ว่าได้ เพราะเราต้องใช้มือถือทำอะไรหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะการทำธุรกรรมทางการเงิน ดังนั้นการจะเลือกมือถือเพื่อเอามาไว้ใช้งานซักเครื่องหนึ่งนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องดูให้ดี ๆ โดยเฉพาะสเปคโทรศัพท์ที่ควรจะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ ลองลงมาจาก รูปร่าง สีสันภายนอกที่ถูกใจ การดู “สเปค”  นับเป็นสิ่งสำคัญก่อนอื่นต้องถามตัวเองว่าต้องการมือถือเพื่อใช้งานอะไรบ้าง จากนั้นจึงค่อยมาดู สเปค ที่ตรงกับความต้องการใช้งานของเราให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ถูกหรอกเราควรที่จะต้องมีความรู้ในการเช็คสเปคโทรศัพท์เบื้องต้นเอามาฝากว่าแล้วเรามาดูกัน

วิธีการดูและเช็คสเปคโทรศัพท์เบื้องต้น

1.ระบบปฏิบัติการในแต่ละแบรนด์

        ระบบปฏิบัติการ iOS จะเป็น OS ระบบจากค่าย Apple ที่จะเน้นเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานและการทำงานที่ไหลลื่นของตัวแอพพลิเคชั่นต่างๆ ภายในเครื่อง

        ระบบปฏิบัติการ Android เป็นระบบจาก Google ที่จะเน้นเรื่องความสามารถในการปรับแต่งการทำงานภายในเครื่อง และยังมีราคาที่หลากหลายตั้งแต่ระดับไม่กี่พันไปจนถึงหลายหมื่น

2. หน่วยประมวลผล (CPU)

หน่วยประมวลผลของสมาร์ทโฟนจะมีการทำงานที่เป็นจุดศูนย์กลางของการทำงานภายในเครื่อง ซึ่งในปัจจุบัน หน่วยประมวลผลมีหลายประเภท ได้แก่ CPU Single-core , CPU Dual-core , CPU Quad-Core , CPU Hexa Core , CPU Octa Core ซึ่งถ้าใครอยากจะรู้ให้ละเอียดยิ่งขึ้นไปอีกก็สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้เลย ค้นหาใน google มีข้อมูลเพียบ

3. RAM และหน่วยความจำภายใน (ROM)

RAM (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำที่ทำงานคล้ายๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งหากสมาร์ทโฟนที่ยิ่งมี RAM มากก็จะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่รวดเร็วและไหลลื่นมากกว่า

ROM (Read-Only Memory) คือหน่วยความจำถาวรของสมาร์ทโฟนที่ให้มาบนเครื่อง หรือหากเราจะทำความเข้าใจอย่างง่ายๆ ก็คือคล้าย ๆ ฮาร์ดดิสเก็บข้อมูลทั้งหมดบนเครื่องไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่น, รายชื่อ, เอกสาร, เพลง, วิดีโอ และรูปต่างต่าง ๆ

4.รองรับสัญญาณ 4G LTE หรือไม่ ในปัจจุบันนี้สัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G LTE ถือเป็นสัญญาณหลักที่สมาร์ทโฟนในปัจจุบันต้องรองรับเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความรวดเร็วในการเล่นอินเทอร์เน็ต (ปัจจุบันมีรองรับยัน 5G)

5.ความละเอียดและฟังก์ชั่นของกล้อง ควรเลือกตั้งแต่ 8 ล้านพิกเซลขึ้นไปสำหรับด้านหลัง ส่วนด้านหน้าควรเลือกตั้งแต่ 5 ล้านพิกเซลขึ้นไป

6.ขนาดความจุแบตเตอรี่

ในการใช้งานมือถือของแต่ละคนจะเน้นการทำงานไปที่การฟังเพลง, ดูวิดีโอ และการใช้สื่อออนไลน์ ดังนั้นความจุแบตเตอรี่ก็ควรจะมีเยอะตามไปด้วย โดยแนะนำให้แบตเตอรี่มีความจุใกล้เคียงหรือมากกว่า 3,000 mAH รวมไปถึงการรองรับเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการรอให้แบตเตอรี่เต็ม

7.ดีไซน์และการออกแบบของตัวเครื่อง

ดีไซน์และการออกแบบถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเพราะจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลเพื่อให้เข้ากับลักษณะของมือถือเรามากที่สุด (เลือกตามความถนัดในการใช้งานหรือตามความชอบ)

นอกเหนือจากการดูสเปคโทรศัพท์แล้ว เราก็มาดูวิธีเช็คสเปคโทรศัพท์กัน โดยเราสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการโหลดแอพ CPU-Z เพื่อดูรายละเอียดต่าง ๆ ของมือถือรุ่นนั้น ๆ ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น รายละเอียด CPU ที่เครื่องคุณใช้ , ระบบของเครื่อง , การใช้งานแบต ซึ่งจะมีรายละเอียดต่าง ๆ ชี้แจงบอกอย่างละเอียดมากมาย ซึ่งถ้าคนไหนไม่เคยเช็คสเปคเครื่องดูเลยก็ลองโหลดแอพมาใช้งานกันดูได้ค่ะ

#สเปคโทรศัพท์