สำหรับคนที่ชอบเล่นเกมแล้วจะให้ความสำคัญไปกับหน้าจอคอมเล่นเกมเยอะมาก
เพราะรู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่าถ้าเป็นเกมที่ใช้ความเร็วในการแสดงภาพสูงถ้าเลือกใช้หน้าจอเล่นเกมที่ไม่ได้คุณภาพมันจะทำให้ภาพที่ได้สะดุดหรือไม่ต่อเนื่องทำให้หงุดหงิดในตอนที่เล่นได้
จากที่จะต้องการความสนุกในการเล่นเกมกลายเป็นอารมณ์เสียแทน
ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะละเลยในการเลือกหน้าจอเล่นเกม
ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีในการเลือกหน้าจอเล่นเกมง่าย ๆ เอามาฝากด้วย มาดูกันเลย
วิธีในการเลือกหน้าจอคอมเล่นเกมที่จะทำให้เราได้หน้าจอที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการใช้งานที่สุด
1.ขนาดของจอภาพ
จอภาพที่มีขนาดใหญ่ย่อมใช้งานได้ดีกว่า
แต่สำหรับเหล่าเกมเมอร์มืออาชีพแล้ว จะนิยมใช้ขนาดหน้าจอระหว่าง 21 - 24
นิ้วเท่านั้น สำหรับการเล่นเกมและให้ความสำคัญกับเฟรมเรท
แต่ถ้าจอคอมเกมมิ่งมีขนาดที่ใหญ่และเฟรมเรทสูง
อาจจะทำให้ผู้เล่นไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม
สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมประเภท รถแข่งหรือ MMORPG จอขนาดใหญ่จะทำให้ผู้เล่นสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับ
CG ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
2.เลือกความละเอียดที่ดีที่สุด คือ Full
HD หรือสูงกว่านั้น
ความละเอียดควรอยู่ที่ Full HD ซึ่ง
Full HD คือ ความละเอียด 1920 x 1080
พิกเซล ถือเป็นความละเอียดมาตรฐานในการใช้งานไป
แต่ก็ยังมีจอที่มีลักษณะเป็นแนวนอนหรือยาวออกไปด้านข้าง
จอคอมเกมมิ่งประเภทนี้มักจะมีความละเอียดอยู่ที่ 2K หรือ
2560 x 1440 พิกเซล ซึ่งสูงกว่า Full HD นอกจากนี้
ยังมีจอคอมเกมมิ่งคุณภาพสูงอีกประเภท คือ ความละเอียดระดับ 4K หรือ
3840 x 2160 พิกเซล
3.อัตราการรีเฟรชเรทขึ้นอยู่กับเนื้อหาของเกม
อัตราการรีเฟรชเรท (Refresh Rate) ยังคงเป็นจุดสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจ
แม้ว่าคุณจะเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีอัตราการรีเฟรชที่สูง แต่นั่นก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป
เพราะบางเกมมีการแสดงผลได้สูงสุดแค่ 60 เฟรมเรท ถ้าคุณเลือกใช้จอ 144Hz
อาจจะเกิดภาพฉีกขาดหรือเป็นเส้นในระหว่างการแสดงผลได้
เพราะตัวเกมจะไม่รองรับอัตรารีเฟรชเรทของหน้าจอนั้น
จึงขอแนะนำว่าควรเลือกให้เหมาะสมกับเกมที่คุณเล่นด้วย
4.ความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซลควรเลือก 1ms
จอคอมเกมมิ่งส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพที่สูงอยู่แล้ว
ซึ่งความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซลโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1ms เพื่อให้เร็วพอต่อการร้องขอการแสดงภาพของเกม
หากคุณเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีการตอบสนองช้า อาจจะทำให้เกิดภาพกระตุกหรือภาพค้างได้
อย่างไรก็ตาม ยิ่งตัวเลขของอัตราการตอบสนองน้อย ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพที่สูง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้นมาด้วยเหมือนกัน
5.เลือกรุ่นที่มีโหมดสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ
ถ้าคุณเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีโหมดการใช้งานเฉพาะ
เช่น เกม Visual ก็จะเป็นตัวช่วยในการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการเล่น
ทำให้การเล่นเกมของคุณนั้นง่ายขึ้นและมีความสมจริงมากยิ่งขึ้นด้วย โดยโหมดหลัก ๆ
ทั่วไปที่มีอยู่ก็คือ โหมด FPS หรือเกมแนวแอ็กชั่น, โหมดต่อสู้ หรือโหมดเกมกีฬา เป็นต้น นอกจากนี้
จอคอมเกมมิ่งบางรุ่นจะมีโหมดที่เรียกว่า NVIDIA 3D Vision เพื่อช่วยเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมประเภทกราฟิก
หรือ 3D ราคาก็อาจจะสูงขึ้นมาหน่อย
แต่รับรองได้ว่าคุณได้สัมผัสกับโลกแห่งเกมอย่างสมจริงอย่างแน่นอน
6.ตรวจสอบประเภทและจำนวนของพอร์ตการเชื่อมต่อ
นอกเหนือจากพอร์ตสำคัญอย่าง HDMI และ
DVI แล้ว ยังมีพอร์ตอื่น ๆ
ที่มีความจำเป็นในการใช้งานอีกมากมาย อย่างเช่น Display Port, USB เป็นต้น
บางจอที่มีจำนวนพอร์ตเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
แต่อาจจะไม่จำเป็นในการใช้งานสำหรับคุณก็ได้ เพราะฉะนั้น
ขอแนะนำให้ดูตามความต้องการของคุณว่า พอร์ตอะไรที่จำเป็นต่อการใช้งานของคุณบ้าง
หากคุณไม่อยากพลาดความสนุกในการเล่นเกม
คุณควรเลือกซื้อหน้าจอคอมเล่นเกมที่มีองค์ประกอบตามด้านบนที่เราเอามาฝากนี้เป็นหลัก
และดูถึงความต้องการใช้งานหลักของตนเองควบคู่ไปด้วย รับรองว่าคุณจะได้รับจอเล่นเกมที่ตรงกับความต้องการใช้งานของคุณได้เป็นอย่างดีและจะได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มที่แน่นอน
#จอคอมเล่นเกม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น