วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2563

รวมทริคการเลือกจอ gaming monitor ฉบับสมบูรณ์ที่จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง

 

  ทุกวันนี้เกมออนไลน์พัฒนาไปเยอะมาก โดยเฉพาะพวกเกมต่อสู้หรือผจญภัยที่จำลองสถานการณ์ในการนำผู้เล่นไปยังสถานที่ต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังเก็บรายละเอียดที่สำคัญ ๆ ในสถานที่นั้น ๆ ไว้ได้อย่างครบถ้วนทำให้เพลิดเพลินและดูสมจริงเวลาที่ได้เล่นเกม ยิ่งถ้าน่าจอชัดมองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนก็จะยิ่งเพิ่มความสนุกในการเล่นเกมได้มากขึ้นไปอีก เพราะแบบนี้จึงทำให้หลาย ๆ คนหันมาสนใจและใส่ใจในการเลือกจอ gaming monitor กันมากขึ้น โดยเฉพาะเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายที่ต้องการหน้าจอที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทั้ง ภาพ แสง สี ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เหล่าเกมเมอร์หลาย ๆ คน ยอมที่จะเสียเงินจำนวนมาก เพื่อที่จะให้ได้จอ gaming monitor ที่ดีที่สุดในการนำมาใช้งาน ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่รู้ว่าการจะเลือกหน้าจอเล่นเกมให้ได้ดีนั้นต้องดูจากอะไรบ้าง ก็ตามเรามาทางนี้ได้เลยเดี๋ยวเราจะบอกให้เอง

รวมทริคการเลือกจอ gaming monitor ฉบับสมบูรณ์ที่จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง

1.ขนาดของจอภาพ

จอภาพที่มีขนาดใหญ่ย่อมใช้งานได้ดีกว่า แต่สำหรับเหล่าเกมเมอร์มืออาชีพแล้ว จะนิยมใช้ขนาดหน้าจอระหว่าง 21 - 24 นิ้วเท่านั้น สำหรับการเล่นเกมและให้ความสำคัญกับเฟรมเรท แต่ถ้าจอคอมเกมมิ่งมีขนาดที่ใหญ่และเฟรมเรทสูง อาจจะทำให้ผู้เล่นไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมประเภท รถแข่งหรือ MMORPG จอขนาดใหญ่จะทำให้ผู้เล่นสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับ CG ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า

2.เลือกความละเอียดที่ดีที่สุด คือ Full HD หรือสูงกว่านั้น

ความละเอียดควรอยู่ที่ Full HD ซึ่ง Full HD คือ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ถือเป็นความละเอียดมาตรฐานในการใช้งานไป แต่ก็ยังมีจอที่มีลักษณะเป็นแนวนอนหรือยาวออกไปด้านข้าง จอคอมเกมมิ่งประเภทนี้มักจะมีความละเอียดอยู่ที่ 2K หรือ 2560 x 1440 พิกเซล ซึ่งสูงกว่า Full HD นอกจากนี้ ยังมีจอคอมเกมมิ่งคุณภาพสูงอีกประเภท คือ ความละเอียดระดับ 4K หรือ 3840 x 2160 พิกเซล

3.อัตราการรีเฟรชเรทขึ้นอยู่กับเนื้อหาของเกม

อัตราการรีเฟรชเรท (Refresh Rate) ยังคงเป็นจุดสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจ แม้ว่าคุณจะเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีอัตราการรีเฟรชที่สูง แต่นั่นก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะบางเกมมีการแสดงผลได้สูงสุดแค่ 60 เฟรมเรท ถ้าคุณเลือกใช้จอ 144Hz อาจจะเกิดภาพฉีกขาดหรือเป็นเส้นในระหว่างการแสดงผลได้ เพราะตัวเกมจะไม่รองรับอัตรารีเฟรชเรทของหน้าจอนั้น จึงขอแนะนำว่าควรเลือกให้เหมาะสมกับเกมที่คุณเล่นด้วย

4.ความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซลควรเลือก 1ms

จอคอมเกมมิ่งส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพที่สูงอยู่แล้ว ซึ่งความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซลโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1ms เพื่อให้เร็วพอต่อการร้องขอการแสดงภาพของเกม หากคุณเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีการตอบสนองช้า อาจจะทำให้เกิดภาพกระตุกหรือภาพค้างได้ อย่างไรก็ตาม ยิ่งตัวเลขของอัตราการตอบสนองน้อย ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพที่สูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้นมาด้วยเหมือนกัน

5.เลือกรุ่นที่มีโหมดสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ

ถ้าคุณเลือกจอคอมเกมมิ่งที่มีโหมดการใช้งานเฉพาะ เช่น เกม Visual ก็จะเป็นตัวช่วยในการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการเล่น ทำให้การเล่นเกมของคุณนั้นง่ายขึ้นและมีความสมจริงมากยิ่งขึ้นด้วย โดยโหมดหลัก ๆ ทั่วไปที่มีอยู่ก็คือ โหมด FPS หรือเกมแนวแอ็กชั่น, โหมดต่อสู้  หรือโหมดเกมกีฬา เป็นต้น นอกจากนี้ จอคอมเกมมิ่งบางรุ่นจะมีโหมดที่เรียกว่า NVIDIA 3D Vision เพื่อช่วยเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมประเภทกราฟิก หรือ 3D ราคาก็อาจจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่รับรองได้ว่าคุณได้สัมผัสกับโลกแห่งเกมอย่างสมจริงอย่างแน่นอน

6.ตรวจสอบประเภทและจำนวนของพอร์ตการเชื่อมต่อ

นอกเหนือจากพอร์ตสำคัญอย่าง HDMI และ DVI แล้ว ยังมีพอร์ตอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นในการใช้งานอีกมากมาย อย่างเช่น Display Port, USB เป็นต้น บางจอที่มีจำนวนพอร์ตเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย แต่อาจจะไม่จำเป็นในการใช้งานสำหรับคุณก็ได้ เพราะฉะนั้น ขอแนะนำให้ดูตามความต้องการของคุณว่า พอร์ตอะไรที่จำเป็นต่อการใช้งานของคุณบ้าง

                หากคุณไม่อยากพลาดความสนุกในการเล่นเกม คุณควรเลือกซื้อหน้าจอ gaming monitor ตามด้านบนนี้เป็นหลัก รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบเต็มที่แน่นอน

#gaming monitor

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น